Easter and Passover always fall clo

Easter and Passover always fall close to each other but they are not always at exactly the same time.

For many centuries before Jesus' birth, the Jewish people had their own special spring festival, called Passover (Pesach).
Passover commemorates the time when God rescued the people of Israel from slavery and Moses led them out of Egypt. It is the Israelite's liberation from Egypt that led to the beginning of Judaism.

Jesus, a Jew, was crucified during Passover time and it is said that the Last Supper was a Passover seder (a ritual meal that commemorates the Biblical accounting of the Jews escape from Egyptian slavery). It is Jesus' crucifixion and resurrection that led to the start of Christianity.

Both Easter and Passover revolve around the idea of rebirth. Jesus is resurrected, or born again, and the slaves are reborn into freedom. Both festivals draw in the idea of birth or rebirth with Easter eggs and the hard-boiled eggs served on Passover.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อีสเตอร์และเทศกาลปัสกาตกอยู่ใกล้กันเสมอ แต่พวกเขาไม่ได้อยู่ที่ตรงกันเสมอหลายศตวรรษก่อนที่พระเยซูเกิด คนยิวมีเทศกาลสปริงพิเศษของตัวเอง เรียกว่าเทศกาลปัสกา (Pesach)เทศกาลปัสกา commemorates ครั้งเมื่อพระเจ้าทรงช่วยคนอิสราเอลจากการเป็นทาส และ Moses นำพวกเขาออกจากอียิปต์ มันเป็นการปลดปล่อยของอิสราเอลจากอียิปต์ที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของศาสนายูดายพระเยซู ความรอด ถูกตรึงระหว่างเทศกาลปัสกา และกล่าวว่า ซุปเปอร์ล่าสุดคือ seder เทศกาลปัสกา (พิธีกรรมอาหารที่ commemorates บัญชีคัมภีร์ของชาวยิวหลบหนีจากการเป็นทาสในอียิปต์) พระเยซูตรึงกางเขนและการคืนชีพที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์ได้อีสเตอร์และเทศกาลปัสกาที่เกี่ยวข้องกับความคิดของการเกิดใหม่ พระเยซูฟื้น หรือเกิดอีก และทาสมีรีบอร์นเป็นอิสระ เทศกาลทั้งวาดในความคิดของการเกิดหรือการเกิดใหม่อีสเตอร์กับไข่และไข่ต้มเสิร์ฟในเทศกาลปัสกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อีสเตอร์และปัสกามักจะตกอยู่ใกล้กัน แต่พวกเขาไม่ได้เสมอในเวลาเดียวกัน. เป็นเวลาหลายศตวรรษก่อนการเกิดของพระเยซูที่ชาวยิวมีเทศกาลฤดูใบไม้ผลิพิเศษของตัวเองที่เรียกว่าปัสกา (ปัสกา). ปัสกาเอกราชเวลาที่พระเจ้า การช่วยเหลือคนของอิสราเอลจากการเป็นทาสและโมเสสนำพวกเขาออกจากอียิปต์ มันเป็นปลดปล่อยอิสราเอลออกจากอียิปต์ที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของศาสนายิว. พระเยซูยิวถูกตรึงกางเขนในช่วงเวลาเทศกาลปัสกาและมันก็บอกว่าอาหารมื้อสุดท้ายเป็นปัสกาฝังใจ (อาหารพิธีกรรมที่เอกราชบัญชีในพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวยิวที่หลบหนี จากการเป็นทาสของอียิปต์) มันเป็นตรึงกางเขนของพระเยซูและการฟื้นคืนชีพที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์. ทั้งสองเทศกาลปัสกาอีสเตอร์และหมุนรอบความคิดของการเกิดใหม่ พระเยซูฟื้นหรือเกิดอีกครั้งและทาสที่มีการเกิดใหม่เข้าสู่เสรีภาพ เทศกาลทั้งสองวาดในความคิดของการเกิดหรือการเกิดใหม่ที่มีไข่อีสเตอร์และไข่ต้มทำหน้าที่ในเทศกาลปัสกา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อีสเตอร์และเทศกาลปัสกามักจะตกใกล้กับแต่ละอื่น ๆแต่พวกเขาจะไม่เสมอในเวลาเดียวกัน

หลายศตวรรษก่อนการเกิดของพระเยซู คนยิวมีเทศกาลฤดูใบไม้ผลิพิเศษของตัวเองที่เรียกว่าปัสกา ( แล้ว )
ปัสการำลึกเวลาเมื่อพระเจ้าทรงช่วยคนอิสราเอลจากการเป็นทาส และโมเสสก็นำพวกเขา ออกจากอียิปต์มันคือการปลดปล่อยอิสราเอลจากอียิปต์ที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของศาสนายูดาย .

พระเยซูถูกตรึงกางเขน ยิว ในช่วงเทศกาลปัสกาและว่ากันว่าอาหารมื้อสุดท้ายเป็นปัสกาด้วย ( อาหารพิธีกรรมที่เอกราชบัญชีในพระคัมภีร์ไบเบิลของชาวยิวที่หลบหนีจากการเป็นทาสของอียิปต์ ) มันเป็นพระเจ้าของการตรึงกางเขนและฟื้นที่นำไปสู่จุดเริ่มต้นของศาสนาคริสต์ .

ทั้งอีสเตอร์และเทศกาลปัสกาหมุนรอบความคิดของการเกิดใหม่ พระเยซูคือการฟื้นคืนชีพ หรือเกิดอีกครั้ง และทาสเกิดในเสรีภาพ ทั้งงานวาดในความคิดของการเกิดหรือเกิดกับไข่อีสเตอร์และไข่ลวกเสิร์ฟในเทศกาลปัสกา