Openness was modeled with the New G

Openness was modeled with the New Growth Theories suggested in 1980s and it
was started to be tested empirically. Internal growth theories suppose that
openness will stimulate the new technologies input (Harrison, 1996). No matter
how the economy is open, technology input increases, technology usage becomes
wide and a more rapid growth realizes as compared to a less open economy (Wu,
2004, s. 1). Internal growth models mentioning the importance of technological
diffusion as the source of growth in long period generally suggest the thesis that
the countries that are open to the foreign trade will reach higher steady growth
rates (Grossman ve Helpman, 1990: 796). So Romer (1986) and Lucas (1988)
expressed that the size of the openness in a country was proportional with the
ability of adaptation to the new and imported technologies and the ability of the
arrangement in production.
Shortly called as BRIC firstly in the early 2000s Brazil, Russia, India and China that
have common characters like wide area, big population and rapid economic growth
are accepted as the fastest growing “emerging market” in world economy (O’Neill,
2001:1-16). Total area of these countries contains more than 25% of the world area
and total population of them contains more than 40% of the world population. It is
argued that BRIC group would take G7 group’s place and get the leadership of the
world economy when the economic indicators are considered (Frank and Frank,
2010:46-54). Goldman Sachs who has studies about BRIC countries estimates that
in 2050 China will be the greatest economy in the world, India will be the third,
Brazil will be the fourth and Russia will be the sixth biggest economy. Based on
these indicators, in our study the effect of openness on economic growth will be
searched for BRIC countries and Turkey that is the most developing country after
China and has a developing economy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เปิดกว้างได้ต้นแบบมากับทฤษฎีการเจริญเติบโตใหม่ในทศวรรษ 1980 และเริ่มต้นการทดสอบเชิงประสบการณ์ ทฤษฎีการเจริญเติบโตภายในนึกว่าเปิดกว้างจะกระตุ้นเข้าเทคโนโลยีใหม่ (Harrison, 1996) ไม่ว่าเรื่องอะไรกลายเป็นว่าเศรษฐกิจจะเปิด เพิ่มสัญญาณเทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยีกว้างและเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นตระหนักถึงเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจเปิดน้อย (Wu2004, s. 1) แบบจำลองการเจริญเติบโตภายในกล่าวถึงความสำคัญของเทคโนโลยีแพร่เป็นแหล่งที่มาของการเติบโตในระยะยาวโดยทั่วไปแนะนำผลงานที่ประเทศที่เปิดให้บริการการค้าต่างประเทศจะสามารถเติบโตสูงราคาพิเศษ (กรอสแมน ve Helpman, 1990:796) โรเมอร์ (1986) และ Lucas (1988)แสดงว่า ขนาดของการเปิดกว้างในประเทศเป็นสัดส่วนกับการความสามารถในการปรับตัวใหม่ และนำเข้าเทคโนโลยีและความสามารถของการการจัดการในการผลิตเรียกว่าเป็น BRIC ครั้งแรกในต้นทศวรรษที่ 2000 บราซิล รัสเซีย อินเดีย และจีนที่มีอักขระทั่วไปเช่นบริเวณกว้าง ใหญ่ประชากร และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วรับเป็นเติบโตเร็วที่สุด "ตลาดเกิดขึ้น" ในเศรษฐกิจโลก (โอนีล2001:1-16) พื้นที่ทั้งหมดของประเทศเหล่านี้ประกอบด้วยมากกว่า 25% ของพื้นที่โลกและจำนวนประชากรของพวกเขาประกอบด้วยมากกว่า 40% ของประชากรโลก มันเป็นโต้เถียงว่า กลุ่ม BRIC จะใช้สถานที่ของกลุ่ม G7 และรับของเศรษฐกิจโลกเมื่อถือว่าตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจ (Frank และ Frank2010:46-54) . โกลด์แมนแซคส์ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับประเทศ BRIC ประเมินว่าใน 2050 จีนจะมีเศรษฐกิจยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก อินเดียเป็นบุคคลที่สามบราซิลจะสี่ และรัสเซียจะมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับหก อิงตัวบ่งชี้เหล่านี้ ของเราศึกษาผลของการเปิดกว้างทางเศรษฐกิจจะมีค้นหาประเทศ BRIC และตุรกีที่เป็นประเทศกำลังพัฒนามากที่สุดหลังจากจีนมีเศรษฐกิจกำลังพัฒนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปิดกว้างเป็นรูปแบบที่มีการเจริญเติบโตของทฤษฎีใหม่ที่แนะนำในช่วงปี 1980
และมันก็เริ่มที่จะทดสอบสังเกตุ ทฤษฎีการเจริญเติบโตภายในคิดว่าการเปิดกว้างจะช่วยกระตุ้นเทคโนโลยีใหม่อินพุท (แฮร์ริสัน, 1996) ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเปิดเพิ่มขึ้นเทคโนโลยีการป้อนข้อมูลการใช้งานเทคโนโลยีที่จะกลายเป็นที่กว้างและการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วมากขึ้นรู้ตัวดีว่าเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจแบบเปิดน้อย(วูปี 2004 เอส. 1) รูปแบบการเจริญเติบโตภายในกล่าวถึงความสำคัญของเทคโนโลยีการแพร่กระจายเป็นแหล่งที่มาของการเติบโตในระยะเวลานานโดยทั่วไปแนะนำวิทยานิพนธ์ที่ประเทศที่มีการเปิดให้การค้าต่างประเทศจะถึงการเจริญเติบโตที่สูงกว่าอัตรา(กรอสแมนได้ Helpman, 1990: 796) ดังนั้นโรเมอร์ (1986) และลูคัส (1988) แสดงว่าขนาดของการเปิดกว้างในประเทศที่เป็นสัดส่วนกับความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่และนำเข้าและความสามารถของการจัดเรียงในการผลิต. เรียกว่าไม่นานเป็นกลุ่ม BRIC แรกในช่วงต้น ยุค 2000 บราซิล, รัสเซีย, อินเดียและจีนที่มีตัวละครที่เหมือนกันเช่นบริเวณกว้างประชากรขนาดใหญ่และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วได้รับการยอมรับในฐานะที่เติบโตเร็วที่สุด"ตลาดเกิดใหม่" ในเศรษฐกิจโลก (โอนีล, 2001: 1-16) พื้นที่ทั้งหมดของประเทศเหล่านี้มีมากกว่า 25% ของพื้นที่โลกและประชากรทั้งหมดของพวกเขาที่มีมากกว่า40% ของประชากรโลก มันเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ว่ากลุ่ม BRIC จะเกิดขึ้นของกลุ่ม G7 และได้รับความเป็นผู้นำของเศรษฐกิจโลกเมื่อชี้วัดทางเศรษฐกิจมีการพิจารณา(แฟรงก์และแฟรงก์, 2010: 46-54) Goldman Sachs ที่มีการศึกษาเกี่ยวกับประเทศในกลุ่ม BRIC ประมาณการว่าในปี2050 จีนจะเป็นเศรษฐกิจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่อินเดียจะเป็นที่สาม, บราซิลจะเป็นสี่และรัสเซียจะเป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดที่หก ขึ้นอยู่กับตัวชี้วัดเหล่านี้ในการศึกษาผลกระทบของการเปิดกว้างต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่จะหาประเทศในกลุ่มBRIC และตุรกีที่เป็นประเทศที่มีการพัฒนามากที่สุดหลังจากที่ประเทศจีนและมีการพัฒนาเศรษฐกิจ