It is expedient to measure crack de

It is expedient to measure crack depth using a binocular stereoscopic microscope (e.g., of the MBS-2,
MBC-9, or MBC-10 type) with a 16
×
magnification. It is desirable that the least division of the microscope
graticule at this magnification be refined beforehand, using a diffraction grating or a test object from the
microscope’s tool kit. The depth of continuous (along their lengths) cracks propagating from one lateral face
to the other should be determined as the arithmetic average value of measurements on both faces.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นการวัดความลึกของรอยแตกโดยใช้กล้องจุลทรรศน์ให้ส่องทางไกล (เช่น ของ MBS-2 สมควรMBC-9 หรือ MBC-10 ชนิด) กับ 16×ขยาย มันเป็นสิ่งที่พึงปรารถนาที่ส่วนน้อยของกล้องจุลทรรศน์โฟกัสที่ขยายนี้จะกลั่นก่อน ใช้ grating การเลี้ยวเบนของแสงหรือวัตถุที่ใช้ในการทดสอบจากการชุดเครื่องมือของกล้องจุลทรรศน์ ความลึกของรอยแตกต่อเนื่อง (ตามความยาวของพวกเขา) ที่เผยแพร่จากใบหน้าด้านข้างไปอื่น ๆ ควรจะถูกกำหนดเป็นค่าเฉลี่ยเลขคณิตของการวัดที่ใบหน้าทั้งสอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่เป็นการสมควรที่จะวัดความลึกแตกโดยใช้กล้องจุลทรรศน์สองตาสามมิติ (เช่นของ MBS-2,
MBC-9 หรือช่อง MBC-10 ชนิด) 16
×
ขยาย เป็นที่พึงประสงค์ว่าส่วนน้อยของกล้องจุลทรรศน์
graticule ที่กำลังขยายนี้จะกลั่นก่อนใช้ตะแกรงเลนส์หรือวัตถุทดสอบจาก
ชุดเครื่องมือของกล้องจุลทรรศน์ ความลึกของการอย่างต่อเนื่อง (พร้อมความยาวของพวกเขา) รอยแตกขยายพันธุ์จากใบหน้าด้านข้างหนึ่ง
ไปยังอีกที่ควรจะถูกกำหนดเป็นค่าเฉลี่ยเลขคณิตของวัดทั้งบนใบหน้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันสมควรที่จะวัดความลึกร่องใช้กล้องส่องทางไกลกล้องจุลทรรศน์สามมิติ ( เช่นของ mbs-2 , ,mbc-9 หรือพิมพ์ mbc-10 ) กับ 16×ขยาย . มันเป็นที่พึงปรารถนาที่กองน้อยของกล้องจุลทรรศน์ด้วยเสน่หาที่ขยายนี้จะถึงก่อน โดยใช้การเลี้ยวเบนตะแกรงหรือการทดสอบวัตถุจากชุดเครื่องมือกล้องจุลทรรศน์ . ความลึกของต่อเนื่อง ( ตามความยาวของพวกเขา ) รอยแตกเดิมจากด้านข้างใบหน้ากับอื่น ๆควรพิจารณาเป็นค่าเฉลี่ยเลขคณิต ค่าของการวัดบนใบหน้าของทั้งสอง