Universities should accept equal nu

Universities should accept equal numbers of men and women in every subject.
To what extent do you agree with this statement?

Gender issues have been increasing in importance through the centuries. In almost every sphere of human activity, there has been a movement towards greater equality between men and women. Although I agree that universities should open their doors to all students alike, in my view, they need not set a fixed limit on the number of men and women they accept in each subject. The bases for my views are psychological and personal.

Psychologically-speaking, men and women are simply different, though they have the same potential for greatness. For example, women tend to be more intuitive, sensitive to others and caring. This means they may feel drawn, on the basis of their personalities, to certain kinds of professions such as teaching, nursing, or psychology, even if all fields are open to them. In such a context, it is best for universities to choose the best applicants, regardless of gender.
 
Personally, students need to discover their true calling. This is an individual matter and is not influenced by the universities reserving seats for men or women. For example, if the majority of women shy away from math or engineering, perhaps it has to do with their upbringing, which has influenced their interests. The universities will not be able to reverse this trend, though they should always look out for the most qualified candidates.
 
In conclusion, equality cannot be forced upon people – not in the area of education, employment or family life. Equality is about having choices and those who prove themselves capable will qualify for university, regardless of gender. It is only right that universities reflect and respect these free and natural choices being exercised by their students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มหาวิทยาลัยควรยอมรับตัวเลขที่เท่ากันของชายและหญิงในทุกเรื่องคุณเห็น ด้วยคำสั่งนี้หรือไม่มีการเพิ่มเรื่องความสำคัญผ่านศตวรรษ ในเกือบทุกทรงกลมของกิจกรรมมนุษย์ มีการเคลื่อนไหวต่อมากกว่าความเท่าเทียมกันระหว่างชายและหญิง แม้ว่าฉันยอมรับว่า มหาวิทยาลัยควรเปิดประตูของนักเรียนทั้งหมดเหมือนกัน ในมุมมองของฉัน พวกเขาไม่ต้องตั้งวงเงินถาวรจำนวนชายและหญิงที่พวกเขายอมรับในแต่ละหัวข้อ ฐานสำหรับมุมมองของฉันมีจิตใจ และส่วนบุคคลPsychologically-พูด ชายและหญิงเพียงแค่แตกต่างกัน แม้ว่าพวกเขามีศักยภาพเหมือนกันสำหรับความยิ่งใหญ่ ตัวอย่าง ผู้หญิงมักจะ เป็นมากง่าย ไวต่อผู้อื่น และมุ่ง นี้หมายความว่า พวกเขาอาจรู้สึกวาด ตามบุคลิกของพวกเขา การบางชนิดของอาชีพ เช่นสอน พยาบาล จิตวิทยา แม้ว่าเขตข้อมูลทั้งหมดจะเปิดให้ ในเช่นบริบท เหมาะสำหรับมหาวิทยาลัยให้เลือกผู้สมัครดีที่สุด โดยไม่คำนึงถึงเพศ ส่วนตัว นักเรียนได้ค้นพบโทรศัพท์ของพวกเขาอย่างแท้จริง นี้เป็นเรื่องแต่ละ และไม่มีอิทธิพล โดยมหาวิทยาลัยสำรองที่นั่งสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง ตัวอย่าง ถ้าผู้หญิงส่วนใหญ่อายไปจากคณิตศาสตร์หรือวิศวกรรม บางทีมันมีกับ upbringing ของพวกเขา ซึ่งได้รับอิทธิพลความสนใจ มหาวิทยาลัยจะไม่สามารถกลับรายการแนวโน้มนี้ แม้ว่าพวกเขาเสมอควรมองออกไปสำหรับผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุด เบียดเบียน ความเสมอภาคไม่บังคับคนอื่น– ไม่ได้อยู่ ในพื้นที่ของการศึกษา การจ้างงาน หรือชีวิตครอบครัว ความเสมอภาคคือมีทางเลือก และผู้พิสูจน์ตัวเองสามารถกำหนดคุณสมบัติสำหรับมหาวิทยาลัย โดยไม่คำนึงถึงเพศ เท่านั้นจะถูกมหาวิทยาลัยสะท้อน และเคารพธรรมชาติ และฟรีตัวเลือกเหล่านี้ถูกใช้ โดยนักศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มหาวิทยาลัยควรจะยอมรับตัวเลขที่เท่ากันของชายและหญิงในทุกเรื่อง.
สิ่งที่ขอบเขตคุณเห็นด้วยกับคำสั่งนี้? ปัญหาเพศได้รับการเพิ่มขึ้นในความสำคัญตลอดหลายศตวรรษ ในเกือบทุกรูปทรงกลมของกิจกรรมของมนุษย์ได้มีการเคลื่อนไหวไปสู่ความเท่าเทียมกันมากขึ้นระหว่างชายและหญิง ถึงแม้ว่าผมจะเห็นว่ามหาวิทยาลัยควรเปิดประตูของพวกเขาให้นักเรียนทุกคนเหมือนกันในมุมมองของพวกเขาไม่จำเป็นต้องกำหนดวงเงินคงอยู่กับจำนวนของชายและหญิงที่พวกเขายอมรับในแต่ละวิชา ฐานสำหรับมุมมองของฉันมีทางจิตวิทยาและส่วนบุคคล. จิตใจที่พูดทั้งชายและหญิงมีความแตกต่างกันเพียง แต่พวกเขามีศักยภาพเหมือนกันสำหรับความยิ่งใหญ่ ตัวอย่างเช่นผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะใช้งานง่ายมากขึ้นกับคนอื่น ๆ ที่มีความสำคัญและห่วงใย ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจจะรู้สึกวาดบนพื้นฐานของบุคลิกของพวกเขาที่จะบางชนิดของอาชีพเช่นการเรียนการสอนการพยาบาลหรือจิตวิทยาแม้ว่าทุกสาขาจะเปิดให้พวกเขา ในบริบทดังกล่าวเป็นที่ดีที่สุดสำหรับมหาวิทยาลัยที่จะเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุดโดยไม่คำนึงถึงเพศ. ส่วนตัวนักเรียนต้องการที่จะค้นพบโทรแท้จริงของพวกเขา นี้เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลและไม่ได้รับอิทธิพลจากมหาวิทยาลัยสำรองที่นั่งสำหรับชายหรือหญิง ตัวอย่างเช่นถ้าส่วนใหญ่ของผู้หญิงอายห่างจากทางคณิตศาสตร์หรือวิศวกรรมบางทีมันอาจจะมีจะทำอย่างไรกับการศึกษาของพวกเขาซึ่งมีอิทธิพลต่อผลประโยชน์ของตน มหาวิทยาลัยจะไม่สามารถที่จะย้อนกลับแนวโน้มนี้แม้ว่าพวกเขาควรมองหาผู้สมัครที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุด. สรุปความเสมอภาคไม่สามารถบังคับให้คน - ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ของการศึกษาการจ้างงานหรือชีวิตครอบครัว ความเท่าเทียมกันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการมีทางเลือกและผู้ที่มีความสามารถพิสูจน์ตัวเองจะมีสิทธิ์ได้ของมหาวิทยาลัยไม่คำนึงถึงเพศ มันเป็นเพียงที่เหมาะสมที่มหาวิทยาลัยสะท้อนให้เห็นถึงความเคารพและทางเลือกเหล่านี้ฟรีและธรรมชาติถูกใช้สิทธิโดยนักเรียนของพวกเขา




 

 

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มหาวิทยาลัยควรยอมรับตัวเลขของชาย และหญิงเท่ากันทุกวิชา
สิ่งที่ขอบเขตที่คุณเห็นด้วยกับคำกล่าวนี้

ประเด็นหญิงชายได้เพิ่มขึ้นในความสำคัญผ่านศตวรรษ ในเกือบทุกวงจากกิจกรรมของมนุษย์มีการเคลื่อนไหวไปสู่ความเสมอภาคระหว่างชายและหญิง แต่ผมเห็นด้วยว่ามหาวิทยาลัยควรเปิดประตูให้กับนักเรียนทุกคนเหมือนกันในมุมมองของฉัน , พวกเขาต้องการตั้งค่าขีด จำกัด ของการแก้ไขจำนวนของชายและหญิง พวกเขายอมรับในแต่ละวิชาไม่ได้ ฐานสำหรับมุมมองของฉันคือจิต และส่วนตัว

มีพูด ผู้ชายและผู้หญิงจะแตกต่างกันเพียง แต่พวกเขามีความสามารถเดียวกันเพื่อความยิ่งใหญ่ ตัวอย่างเช่น ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะง่ายมากขึ้น ไวต่อผู้อื่น และการดูแลรักษา ซึ่งหมายความว่าพวกเขาอาจจะรู้สึกว่าวาดบนพื้นฐานของบุคลิกภาพของพวกเขา บางชนิดของอาชีพ เช่น การสอน จิตวิทยา พยาบาล หรือ แม้ทุกสาขาจะเปิดให้พวกเขา ในบริบทดังกล่าว มันเป็นที่ดีที่สุดสำหรับมหาวิทยาลัยที่จะเลือกผู้สมัครที่ดีที่สุด ไม่ว่าเพศไหน รึเปล่า

ส่วนตัวแล้ว นักเรียนต้องค้นพบโทรที่แท้จริงของพวกเขานี้เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลและไม่ได้รับอิทธิพลจากมหาวิทยาลัยสํารองที่นั่งสำหรับผู้ชายหรือผู้หญิง ตัวอย่างเช่น ถ้าส่วนใหญ่ของผู้หญิงอายไปจากคณิตศาสตร์หรือวิศวกรรม บางทีมันไม่เกี่ยวกับการศึกษาของพวกเขา ซึ่งมี อิทธิพล ผลประโยชน์ของพวกเขา มหาวิทยาลัยจะไม่สามารถย้อนกลับแนวโน้มนี้ แต่ควรมองออกไปให้มากที่สุด คุณสมบัติผู้สมัคร รึเปล่า

สรุป ไม่เสมอภาคบังคับเมื่อคน–ไม่ในพื้นที่ของการศึกษา การจ้างงาน หรือชีวิตครอบครัว ความเสมอภาคคือเกี่ยวกับมีตัวเลือกและผู้ที่ พิสูจน์ ตัวเองสามารถจะจัดในมหาวิทยาลัย ไม่ว่าเพศไหน มันเป็นสิ่งเดียวที่มหาวิทยาลัยสะท้อนและเคารพเหล่านี้ฟรีและทางเลือกธรรมชาติถูกใช้โดยนักเรียนของพวกเขา .