Admission to an upper secondary sch

Admission to an upper secondary school is through an entrance exam. On the completion of each level, students need to pass the NET (National Educational Test) to graduate. Children are required to attend six years of elementary school and at least the first three years of high school. Those who graduate from the sixth year of high school are candidates for two decisive tests: O-NET (Ordinary National Educational Test) and A-NET (Advanced National Educational Test).

Public schools are administered by the government. The private sector comprises schools run for profit and fee-paying non-profit schools which are often run by charitable organisations — especially by Catholic diocesan and religious orders that operate over 300 large elementary/secondary schools throughout the country.[3][citation needed] Village and sub-district schools usually provide pre-school kindergarten (anuban) and elementary classes, while in the district towns, schools will serve their areas with comprehensive schools with all the classes from kindergarten to age 14 and separate secondary schools for ages 11 through 17.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เข้ามัธยมบนที่ผ่านการสอบเข้าได้ ในความสมบูรณ์ของแต่ละระดับ นักศึกษาต้องผ่าน NET (ชาติศึกษาทดสอบ) การศึกษา เด็กจะต้องเข้าร่วมหก ปี ของโรงเรียนประถมศึกษาที่ 3 ปีแรกของมัธยม ผู้ที่สำเร็จจากมัธยมปีสมัครทดสอบสองเด็ดขาด: (ธรรมดาชาติศึกษาทดสอบ) O-NET และ A-NET (ขั้นสูงแห่งชาติศึกษาทดสอบ)โรงเรียนได้รับการดูแล โดยรัฐบาล ภาคเอกชนประกอบด้วยโรงเรียนที่ทำกำไรและโรงเรียนปี fee-paying ซึ่งมักจะทำ โดยองค์กรกุศล — โดยเฉพาะอย่างยิ่งคาทอลิก diocesan และศาสนาใบสั่งที่มีโรงเรียนประถมศึกษา/มัธยมศึกษาขนาดใหญ่ 300 ทั่วประเทศ[3][ต้องการอ้างอิง] โรงเรียนหมู่บ้านและตำบลมักจะให้โรงเรียนเตรียมอนุบาล (anuban) และชั้นประถมศึกษา ในขณะที่ในอำเภอเมือง โรงเรียนจะให้บริการความพร้อมโรงเรียนครอบคลุมด้วยการเรียนทั้งหมดจากชั้นอนุบาลอายุ 14 และโรงเรียนมัธยมแยกต่างหากสำหรับอายุ 11 ถึง 17

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เข้าสู่ชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายคือผ่านการสอบเข้า เมื่อจบแต่ละระดับนักเรียนต้องผ่าน NET (ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ) จะจบการศึกษา เด็กจะต้องเข้าร่วมหกปีของโรงเรียนประถมศึกษาและอย่างน้อยสามปีแรกของโรงเรียนมัธยม บรรดาผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากปีที่หกจากโรงเรียนมัธยมมีผู้สมัครสำหรับการทดสอบสองเด็ดขาด. O-NET (Ordinary National Educational ทดสอบ) และ A-NET (การศึกษาขั้นสูงแห่งชาติ Test) โรงเรียนของรัฐมีการบริหารงานของรัฐบาล ภาคเอกชนประกอบด้วยโรงเรียนที่ดำเนินการเพื่อผลกำไรและจ่ายค่าธรรมเนียมโรงเรียนที่ไม่แสวงหากำไรซึ่งจะถูกเรียกใช้บ่อย ๆ โดยองค์กรการกุศล. - โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามคำสั่งของโบสถ์และศาสนาคาทอลิกที่ทำงานมากกว่า 300 ขนาดใหญ่ระดับประถมศึกษา / โรงเรียนมัธยมทั่วประเทศ [3] [อ้างจำเป็น ] หมู่บ้านและโรงเรียนย่อยตำบลมักจะให้โรงเรียนอนุบาลก่อนวัยเรียน (อนุบาล) และการเรียนระดับประถมศึกษาในขณะที่ในเมืองอำเภอโรงเรียนจะให้บริการพื้นที่ของพวกเขากับโรงเรียนที่ครอบคลุมกับทุกชั้นตั้งแต่ชั้นอนุบาลอายุ 14 และโรงเรียนมัธยมที่แยกต่างหากสำหรับทุกเพศทุกวัย 11 ถึง 17

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายก็สอบผ่าน ในความสมบูรณ์ของแต่ละระดับ นักเรียนต้องผ่านเน็ต ( ทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ) ให้จบ เด็กจะต้องเรียน 6 ปี ของโรงเรียน และอย่างน้อยสามปีแรกของโรงเรียนมัธยม ผู้ที่จบการศึกษาจากปีที่หกของโรงเรียนเข้ารับการทดสอบสองเด็ดขาด :โอเน็ต ( การทดสอบทางการศึกษาระดับชาติด้านธรรมดา ) และเอเน็ต ( ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นสูง ) .

โรงเรียนมีการบริหารจัดการโดยรัฐบาลภาคเอกชน ประกอบด้วย โรงเรียนที่ดำเนินการเพื่อกำไรและจ่ายค่าบริการของโรงเรียนซึ่งมักจะดำเนินการโดยองค์กรการกุศลคาทอลิกโบสถ์ - โดยเฉพาะศาสนา และสั่งใช้งานกว่า 300 ขนาดใหญ่ระดับประถมศึกษา / มัธยมศึกษาทั่วประเทศ . [ 3 ] [ อ้างอิงที่จำเป็น ] หมู่บ้านและตำบลโรงเรียนมักจะให้เด็กก่อนอนุบาล ( โรงเรียนอนุบาล ) และระดับชั้นประถมขณะที่ในเขตเมือง โรงเรียนจะให้บริการครอบคลุมพื้นที่ของโรงเรียนมีห้องเรียนทั้งหมดตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงอายุ 14 และโรงเรียนมัธยมที่แยกต่างหากสำหรับทุกเพศทุกวัย 11 ถึง 17