Performance evaluation of diagnosti

Performance evaluation of diagnostic tests is critical in the search for accurate diagnoses. A gold standard test is usually absent in parasitology, thus rendering satisfactory assessment of diagnostic accuracy difficult. Moreover, reliability (assessed by the study of repeatability) is a rarely studied characteristic of diagnostic tests. This study compared and evaluated the performance (repeatability, concordance and accuracy) of the spontaneous sedimentation technique (SST) and the Paratest for the diagnosis of Giardia lamblia, Entamoeba histolytica complex, Blastocystis spp., Ascaris lumbricoides, hookworm, Trichuris trichiura and Calodium hepaticum. Fecal samples of 143 individuals were separated into three replicates for each test. Concordance and homogeneity of the results between replicates of each test and between tests were evaluated. Proportions of positives, sensitivity and specificity were estimated using a Bayesian Latent Class Model. High repeatability of both tests was found for the detection of intestinal parasites, except for Blastocystis spp. and hookworm. Concordance between tests was generally high (concordance correlation coefficient, 0.72-0.88), except for Blastocystis spp., hookworm and T. trichiura. The Paratest detected more cases of Blastocystis spp. and fewer of hookworm than the SST. The tests were quite discordant in the detection of T. trichiura. A low sensitivity (39.4-49.2% for SST, 35.8-53.8% for Paratest) and a high specificity (93.2-97.2%) were found for both tests. The Paratest presented a slightly higher sensitivity for the diagnosis of Blastocystis spp. (53.8%), and SST did so for hookworm (49.2%). This is the first study on repeatability and accuracy (using a Bayesian approach) of two spontaneous sedimentation techniques. These results suggest underdiagnosis of little dense parasitic forms due to technical limitations in both tests. We conclude that the combined study of repeatability, concordance and accuracy is a key strategy for better evaluation of the performance of tests and is also useful for the identification of technical limitations. © 2013 Elsevier B.V.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การประเมินผลการปฏิบัติงานของการตรวจวินิจฉัยที่มีความสำคัญในการค้นหาการวินิจฉัยที่ถูกต้อง การทดสอบมาตรฐานทองคำมักจะไม่อยู่ในปรสิตวิทยาจึงแสดงผลการประเมินความพึงพอใจของความถูกต้องในการวินิจฉัยยาก ยิ่งไปกว่านั้นความน่าเชื่อถือ (ประเมินจากการศึกษาของการทำซ้ำ) เป็นลักษณะที่ไม่ค่อยมีการศึกษาของการทดสอบการวินิจฉัยการศึกษาครั้งนี้เปรียบเทียบและประเมินผลการดำเนินงาน (การทำซ้ำความสอดคล้องและความถูกต้อง) ของเทคนิคธรรมชาติตกตะกอน (SST) และ paratest สำหรับการวินิจฉัย Giardia lamblia, Entamoeba histolytica ซับซ้อน blastocystis spp. lumbricoides พยาธิ, พยาธิปากขอ, Trichuris trichiura และ calodium hepaticum .ตัวอย่างอุจจาระจาก 143 บุคคลที่ถูกแยกออกเป็นสามซ้ำสำหรับการทดสอบแต่ละ สอดคล้องและความสม่ำเสมอของผลระหว่างซ้ำของการทดสอบแต่ละครั้งและระหว่างการทดสอบได้รับการประเมิน สัดส่วนบวกความไวและความจำเพาะอยู่ที่ประมาณโดยใช้แบบจำลองชั้นแฝง bayesian การทำซ้ำสูงของการทดสอบทั้งสองก็พบว่าการตรวจหาพยาธิลำไส้ยกเว้น blastocystis เอสพีพี และพยาธิปากขอ ความสอดคล้องระหว่างการทดสอบอยู่ในระดับสูงโดยทั่วไป (ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์สอดคล้อง, 0.72-0.88) ยกเว้น blastocystis spp. พยาธิปากขอและเสื้อ trichiura paratest ตรวจพบกรณีที่มากขึ้นของ blastocystis เอสพีพี และน้อยกว่าของพยาธิปากขอ SST การทดสอบมีความปรองดองกันมากในการตรวจสอบที trichiura ความไวต่ำ (39.4-49.2% ใน SST, 35.8-538% เพื่อ paratest) และความจำเพาะสูง (93.2-97.2%) พบว่าสำหรับการทดสอบทั้งสอง paratest ที่นำเสนอความไวสูงขึ้นเล็กน้อยสำหรับการวินิจฉัย blastocystis เอสพีพี (53.8%) และ SST ได้เพื่อให้พยาธิปากขอ (49.2%) นี้คือการศึกษาเป็นครั้งแรกในการทำซ้ำและความถูกต้อง (โดยใช้วิธีการ bayesian) ของทั้งสองเทคนิคการตกตะกอนธรรมชาติผลลัพธ์เหล่านี้ขอแนะนำให้ underdiagnosis ของรูปแบบกาฝากน้อยหนาแน่นเนื่องจากข้อ จำกัด ทางเทคนิคในการทดสอบทั้งสอง เราสรุปได้ว่าการศึกษาร่วมกันของการทำซ้ำความสอดคล้องและความถูกต้องเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับการประเมินผลที่ดีขึ้นของประสิทธิภาพการทำงานของการทดสอบและยังเป็นประโยชน์สำหรับการระบุข้อ จำกัด ทางเทคนิค © 2013 b.v. เอลส์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเมินประสิทธิภาพของการทดสอบเพื่อวินิจฉัยเป็นสิ่งสำคัญในการค้นหาการวินิจฉัยที่ถูกต้อง การทดสอบมาตรฐานคือมักจะขาดในปรสิตวิทยา จึงแสดงพอประเมินวินิจฉัยความยาก ยิ่งไปกว่านั้น ความน่าเชื่อถือ (ประเมิน โดยการศึกษาการทำซ้ำใน) นั้นเป็นลักษณะไม่ค่อย studied เทค การศึกษานี้เปรียบเทียบ และประเมินประสิทธิภาพ (ทำซ้ำใน สอดคล้อง และความถูกต้อง) ของเทคนิคการตกตะกอนอยู่ (SST) และ Paratest สำหรับการวินิจฉัยไกรด์เดีย lamblia, Entamoeba histolytica ซับซ้อน โอ Blastocystis, Ascaris lumbricoides, hookworm, Trichuris trichiura และ Calodium hepaticum ตัวอย่าง fecal 143 บุคคลได้แบ่งออกเป็นสาม replicates การ สอดคล้องและ homogeneity ของผลลัพธ์เหมือนกับของแต่ละการทดสอบ และระหว่างทดสอบที่ประเมิน สัดส่วนของการทำงานผิดพลาด ความไว และ specificity ถูกประเมินโดยใช้แบบทฤษฎีคลาแฝงอยู่ ทำซ้ำในที่สูงของการทดสอบทั้งสองพบการตรวจปรสิตในลำไส้ ยกเว้นโอ Blastocystis และ hookworm สอดคล้องระหว่างการทดสอบได้โดยทั่วไปสูง (สอดคล้องสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ 0.72-0.88), ยกเว้นโอ Blastocystis, hookworm และต. trichiura Paratest การตรวจพบเพิ่มเติมกรณีของโอ Blastocystis และน้อย hookworm กว่า SST การทดสอบค่อนข้างขัดแย้งกันในการตรวจพบ trichiura ต. ความไวต่ำ (39.4-49.2% SST, 35.8-538% สำหรับ Paratest) และ specificity สูง (93.2 97.2%) พบในการทดสอบทั้งสอง Paratest ที่แสดงความไวสูงขึ้นเล็กน้อยในการวินิจฉัยของโอ Blastocystis (53.8%), และ SST ไม่ให้ hookworm (49.2%) นี้เป็นการศึกษาแรกทำซ้ำในความถูกต้อง (ใช้วิธีทฤษฎี) เทคนิคการตกตะกอนอยู่สอง ผลลัพธ์เหล่านี้แนะนำ underdiagnosis ของรูปแบบเสียงฟู่เหมือนกาฝากหนาแน่นน้อยเนื่องจากข้อจำกัดทางเทคนิคในการทดสอบทั้งสอง เราสรุปว่า การศึกษารวมการทำซ้ำใน สอดคล้อง และความถูกต้องเป็นกลยุทธ์สำคัญในการประเมินประสิทธิภาพของการทดสอบดีกว่า และยังเป็นประโยชน์สำหรับรหัสของข้อจำกัดทางเทคนิค © 2013 Elsevier b.v

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประเมิน ประสิทธิภาพ ของการทดสอบการวินิจฉัยมีความสำคัญในการค้นหาสำหรับทำการวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง การทดสอบมาตรฐานสีทองโดยปกติจะไม่มีอยู่ใน parasitology จึงทำการเรนเดอร์ทำการประเมินผลการปฏิบัติงานอยู่ในเกณฑ์ดีในความแม่นยำการวินิจฉัยทำได้ยาก ยิ่งไปกว่านั้นความน่าเชื่อถือ(การประเมินผลการศึกษามีความแม่นยำ)เป็นแทบจะไม่ศึกษาการทดสอบการวินิจฉัยการศึกษานี้เมื่อเทียบกับและได้รับการประเมิน ประสิทธิภาพ การทำงาน(มีความแม่นยำและความปรองดองกันความถูกต้อง)ของเทคนิคตะกอนตนเอง( SST )สำหรับ)และ paratest สำหรับการวินิจฉัยโรคของ lamblia giardia คอมเพล็กซ์ histolytica entamoeba blastocystis พืช ascaris lumbricoides พยาธิปากขอ trichuris calodium และ trichiura hepaticum .ตัวอย่างอุจจาระของ 143 คนแยกเป็นสามหาดจอมเทียนสำหรับการทดสอบแต่ละครั้ง ซึ่งประกอบขึ้นด้วยส่วนที่เหมือนกันและความปรองดองกันของผลการระหว่างหาดจอมเทียนของการทดสอบแต่ละชุดและระหว่างการทดสอบเป็นการประเมิน สัดส่วนของพวกเขาถกเถียงและความไวต่อการแจ้งเตือนเป็นการประมาณการ Bayesian แฝง Class รุ่นที่ มีความแม่นยำสูงของการทดสอบทั้งสองมีพบในการตรวจจับของเชื้อโรคเกี่ยวกับลำไส้ยกเว้นสำหรับ blastocystis พืชและพยาธิปากขอ. ความปรองดองกันระหว่างการทดสอบก็อยู่ในระดับสูงโดยทั่วไป(ตัวเลขความสัมพันธ์กันระหว่างความปรองดองกัน 0.72-0.88 )ยกเว้นพืชอิงอาศัย blastocystis พยาธิปากขอและ T trichiura paratest ที่ตรวจพบกรณีมากกว่าพืชอิงอาศัย blastocystis และน้อยกว่าของพยาธิปากขอกว่า sst. ได้ การทดสอบที่มีความบาดหมางในการตรวจจับของ trichiura T . ระดับความไวต่ำ( 39.4-49.2% สำหรับ SST )สำหรับ 35.8-53 .8% สำหรับ paratest )และ Mainstream )เพียงเท่านั้นสูง( 93.2-97.2% )สำหรับการทดสอบทั้งสอง paratest ที่นำเสนอความไวแสงสูงขึ้นเล็กน้อยสำหรับการวินิจฉัย blastocystis พืช ( 53.8% )และ SST )สำหรับทำให้พยาธิปากขอ( 49.2% ) การศึกษานี้เป็นครั้งแรกที่มีความแม่นยำและความถูกต้อง(โดยใช้วิธีการ Bayesian )ในสองเทคนิคตะกอนเองผลการทดสอบนี้ชี้ให้เห็นว่า underdiagnosis ของรูปแบบกาฝากซึ่งมีความหนาแน่นน้อยเนื่องจากข้อจำกัดด้านเทคนิคในการทดสอบทั้งสอง เราจะสรุปว่าการศึกษารวมกันของความแม่นยำและความปรองดองกันมีความแม่นยำเป็นกลยุทธ์หลักสำหรับการประเมิน ประสิทธิภาพ การทำงานได้ที่การทดสอบและยังมีประโยชน์สำหรับการระบุตัวตนของข้อจำกัดด้านเทคนิค ©ปี 2013 elsevier , International B . V .