a b s t r a c tDairy systems in sou

a b s t r a c t
Dairy systems in southern Australia rely on grazed feed from pasture to supply between 50% and 70% of
total herd feed requirements on an annual basis. However, the dominant pasture type in the region,
which is based on perennial ryegrass (Lolium perenne), commonly results in feed deficits in summer
which must be filled with supplements purchased off-farm, and feed surpluses in spring which must
be conserved. Both of these strictures impose costs on farm businesses. It is likely, therefore, that additional
grazeable feed available to dairy herds in southern Australia may have different economic value
when interactions between season, stocking rate, calving date, and locality are taken into account. The
analysis reported in this paper aimed to estimate, using the farm systems simulation model UDDER,
the effect of these interactions on the efficiency with which extra feed can be converted to extra milk production,
and therefore the possible gross economic value of the additional feed.
‘Base’ farm simulations for ‘average’ and ‘top 10%’ farms (ranked according to farm profitability) in two
localities (Terang: average annual rainfall 796 mm, 8 month growing season; and Ellinbank: average
annual rainfall 1085 mm, 9–10 month growing season) were created to mimic the physical production
and profitability of these farms as seen in regional farm benchmark datasets. These simulations were
then altered to add the equivalent of 10% of the total annual herbage accumulation used in the Base simulation
either on a pro-rata basis all year round, or in autumn only, in winter only, in spring only, or in
summer only. The additional feed amounted to 620 and 780 kg DM/ha for Terang average and top 10%
farms respectively, and 735 and 905 kg DM/ha for Ellinbank average and top 10% farms respectively.
The management policies used in the Base simulations were then adjusted to harvest as much of the
extra feed as possible, either by direct grazing or through silage conservation, while keeping the key system
state indicators of cow condition score and average farm pasture cover within the limits known to
result in long-term sustainable production.
The efficiency with which extra feed was utilised was greatest in summer in all scenarios (80–100% of
the extra feed supplied was harvested, all by direct grazing). This translated into consistently high gross
economic returns of between $0.26 and $0.34 per kg DM of extra feed added to the model. Utilisation efficiency
was lower in all other seasons and/or required marked increases in silage conservation, both of
which resulted in lower gross economic returns per kg DM of additional feed. The impact of interactions
between locality, season, stocking rate (higher in top 10% farm simulations than average farm simulations)
and calving date (earlier at Terang than at Ellinbank) were clearly captured in the model. These interactions
have very large effects on the profitability of growing extra feed at different times of the year. Agronomic
research for the southern Australia dairy industry should focus on low-cost ways for supplying
additional grazeable feed in summer, since current forage species options for this time of year are limited

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แบบ b t r s c tระบบนมในออสเตรเลียใต้พึ่งพาอาหารถลอกจากทุ่งหญ้าในการจัดหาระหว่าง 50% และ 70% ของฝูงรวมฟีดความต้องการเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ที่โดดเด่นในทุ่งหญ้าชนิดในภูมิภาคซึ่งเป็นไปตามไม้ยืนต้น ryegrass (Lolium perenne), โดยทั่วไปผลขาดดุลอาหารในฤดูร้อนซึ่งต้องกรอก ด้วยอาหารเสริมซื้อปิดฟาร์ม และฟีด surpluses ในฤดูใบไม้ผลิซึ่งต้องได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ strictures กำหนดต้นทุนในธุรกิจฟาร์ม เป็นไปได้ ดังนั้น ที่เพิ่มเติมgrazeable ฟีดที่มีฝูงโคนมในประเทศออสเตรเลียอาจมีค่าทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกันเมื่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาล ราคาถุงน่อง calving วัน และท้องถิ่นจะนำมาพิจารณา การการวิเคราะห์รายงานในกระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน ใช้รูปแบบจำลองของระบบฟาร์มเต้านมผลของการโต้ตอบเหล่านี้ประสิทธิภาพที่มีฟีดที่สามารถแปลงเป็นผลิตเสริมนมและดังนั้นจึงได้รวมเศรษฐกิจค่าอาหารเพิ่มเติม'ฐาน' ฟาร์มจำลองสำหรับ 'เฉลี่ย' และ 'ยอด 10% 'ฟาร์ม (ลำดับตามกำไรฟาร์ม) 2ท้องถิ่น (Terang: เฉลี่ยปริมาณน้ำฝนรายปี 796 มม. 8 เดือนฤดูกาล และ Ellinbank: เฉลี่ยปริมาณน้ำฝนรายปี 1085 มม. 9 – 10 เดือนฤดูการเจริญเติบโต) สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบการผลิตทางกายภาพและกำไรของฟาร์มเหล่านี้เท่าที่เห็นในชุดข้อมูลมาตรฐานฟาร์มระดับภูมิภาค แบบจำลองเหล่านี้ได้แล้ว การเปลี่ยนแปลงการเพิ่มเทียบเท่ากับ 10% ของสะสม herbage รวมประจำปีใช้ในการจำลองฐานเป็นสัดตลอดปี หรือ ในฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น ในฤดูหนาวเท่านั้น ในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้น หรือฤดูร้อนเท่านั้น อาหารเพิ่มเติมมีจำนวน 620 และ 780 กก. DM/ฮา สำหรับค่าเฉลี่ย Terang และยอด 10%ฟาร์มตามลำดับ และ 735 และ 905 kg DM/ฮา สำหรับ Ellinbank เฉลี่ย และยอดฟาร์ม 10% ตามลำดับนโยบายการจัดการที่ใช้ในฐาน แบบจำลองมีปรับการเก็บเกี่ยวมากที่สุดเสริมอาหารที่เป็นไปได้ โดยการแทะเล็มโดยตรง หรือ ผ่านหน้าของหญ้าหมัก อนุรักษ์ ในขณะที่รักษาระบบคีย์ตัวบ่งชี้สถานะของฟาร์มเฉลี่ยและคะแนนสภาพวัวทุ่งหญ้าปกภายในข้อจำกัดที่ทราบผลผลิตอย่างยั่งยืนระยะยาวประสิทธิภาพมีที่อาหารถูกนำไปใช้ได้ในฤดูร้อนในทุกสถานการณ์ (80 – 100% ของเสริมอาหารมาถูกเก็บเกี่ยว ทั้ง โดยการแทะเล็มโดยตรง) นี้แปลรวมสูงอย่างสม่ำเสมอคืนเศรษฐกิจระหว่าง $0.26 และ $0.34 ต่อกก. DM เสริมอาหารที่เพิ่มรูปแบบ ประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์ถูกล่างในฤดูกาลและต้องทำเครื่องหมายเพิ่มหน้าของหญ้าหมักอนุรักษ์ ทั้งสองทั้งหมดอื่น ๆซึ่งส่งผลให้ลดรวมเศรษฐกิจกลับต่อกิโลกรัมที่ DM อาหารเพิ่มเติม ผลกระทบของการโต้ตอบระหว่างท้องถิ่น ฤดูกาล ถุงสูงกว่า (ในด้านบน 10% ฟาร์มจำลองจำลองฟาร์มเฉลี่ย)และ calving วัน (ก่อนหน้านี้ที่ Terang กว่าที่ Ellinbank) ถูกจับได้อย่างชัดเจนในรูปแบบ โต้ตอบเหล่านี้มีผลมากในการเจริญเติบโตอาหารพิเศษในเวลาต่าง ๆ ของปี ลักษณะทางการเกษตรวิจัยสำหรับอุตสาหกรรมนมออสเตรเลียภาคใต้ควรเน้นที่วิธีต้นทุนต่ำสำหรับการจัดเพิ่มเติม grazeable อาหารในฤดูร้อน ตั้งแต่เลือกพันธุ์ดอกไม้ปัจจุบันเวลานี้ของปีจะจำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นามธรรม
ระบบโคนมในภาคใต้ของประเทศออสเตรเลียพึ่งพาฟีด Grazed จากทุ่งหญ้าที่จะจัดหาระหว่าง 50% และ 70% ของ
ความต้องการรวมฟีดฝูงเป็นประจำทุกปี อย่างไรก็ตามประเภททุ่งหญ้าที่โดดเด่นในภูมิภาคนี้
ซึ่งอยู่บนพื้นฐาน ryegrass ยืนต้น (Lolium perenne) ปกติจะส่งผลให้เกิดการขาดดุลอาหารในช่วงฤดูร้อน
ซึ่งจะต้องเต็มไปด้วยผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ซื้อมาปิดฟาร์มและทำบุญฟีดในฤดูใบไม้ผลิซึ่งจะต้อง
ได้รับการอนุรักษ์ ทั้งสองตีบเหล่านี้กำหนดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับธุรกิจฟาร์ม มันอาจเป็นไปได้ว่าเพิ่มเติม
ฟีด grazeable สามารถใช้ได้กับฝูงโคนมในภาคใต้ของออสเตรเลียอาจมีมูลค่าทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน
เมื่อมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาลอัตราการปล่อยวันคลอดและท้องถิ่นถูกนำเข้าบัญชี
วิเคราะห์รายงานในกระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการใช้ระบบฟาร์มที่เต้านมแบบจำลอง,
ผลกระทบของการโต้ตอบเหล่านี้ที่มีต่อประสิทธิภาพกับที่ฟีดพิเศษสามารถแปลงการผลิตนมพิเศษ,
และดังนั้นจึงเป็นไปได้มูลค่าทางเศรษฐกิจขั้นต้นของฟีดเพิ่มเติม
'ฐาน' จำลองฟาร์มสำหรับ 'เฉลี่ย' และ 'บน 10%' ฟาร์ม (การจัดอันดับตามฟาร์มในการทำกำไร) ในสอง
เมือง (Terang: เฉลี่ยปริมาณน้ำฝนประจำปี 796 มิลลิเมตรฤดูปลูก 8 เดือนและ Ellinbank: เฉลี่ย
ประจำปีปริมาณน้ำฝน 1,085 มม 9 -10 เดือนฤดูการเจริญเติบโต) ถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบการผลิตทางกายภาพ
และการทำกำไรของฟาร์มเหล่านี้เท่าที่เห็นในภูมิภาคชุดข้อมูลมาตรฐานฟาร์ม จำลองเหล่านี้ถูก
เปลี่ยนแปลงแล้วจะเพิ่มเทียบเท่ากับ 10% ของการสะสมพืชประจำปีทั้งหมดที่ใช้ในการจำลองฐาน
ทั้งบนพื้นฐานสัดส่วนตลอดทั้งปีหรือในฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นในช่วงฤดูหนาวเท่านั้นในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นหรือใน
ช่วงฤดูร้อน เท่านั้น ฟีดเพิ่มเติมจํานวน 620 และ 780 กก. DM / ไร่สำหรับ Terang เฉลี่ยและบน 10%
ฟาร์มตามลำดับและ 735 และ 905 กก. DM / ไร่สำหรับ Ellinbank เฉลี่ยและฟาร์มบน 10% ตามลำดับ.
นโยบายการจัดการที่ใช้ในการจำลองฐานอยู่แล้ว ปรับการเก็บเกี่ยวเท่าของ
ฟีดพิเศษที่เป็นไปได้ทั้งโดยการแทะเล็มโดยตรงหรือผ่านการอนุรักษ์หมักขณะที่การรักษาระบบกุญแจ
ตัวชี้วัดสถานะของคะแนนสภาพวัวและค่าเฉลี่ยปกฟาร์มทุ่งหญ้าภายในวงเงินที่รู้จักกันไป
ส่งผลในการผลิตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
ประสิทธิภาพที่ฟีดพิเศษถูกใช้เป็นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในช่วงฤดูร้อนในทุกสถานการณ์ (80-100% ของ
อาหารเสริมที่จัดเก็บเกี่ยวทั้งหมดด้วยทุ่งเลี้ยงสัตว์โดยตรง) แปลนี้ในขั้นต้นสูงอย่างต่อเนื่อง
ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจระหว่าง $ 0.26 และ $ 0.34 ต่อกิโลกรัม DM ของอาหารเสริมเพิ่มเข้ามาในรูปแบบ ประสิทธิภาพการใช้ประโยชน์
เป็นที่ต่ำกว่าในฤดูกาลอื่น ๆ ทั้งหมดและ / หรือจำเป็นต้องมีการเพิ่มขึ้นของการทำเครื่องหมายในการอนุรักษ์หมักทั้งสอง
ซึ่งมีผลในที่ต่ำกว่าผลตอบแทนทางเศรษฐกิจขั้นต้นต่อกิโลกรัม DM อาหารเพิ่มเติม ผลกระทบของการมีปฏิสัมพันธ์
ระหว่างท้องที่ฤดูกาลอัตราการปล่อย (ที่สูงขึ้นในด้านบนจำลองฟาร์ม 10% กว่าจำลองฟาร์มเฉลี่ย)
และวันที่คลอด (ก่อนหน้านี้ที่ Terang กว่า Ellinbank) ถูกจับได้อย่างชัดเจนในรูปแบบ ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้
มีผลกระทบที่มีขนาดใหญ่มากในการทำกำไรของการเจริญเติบโตฟีดพิเศษในช่วงเวลาที่แตกต่างกันของปี ทางการเกษตร
สำหรับการวิจัยทางตอนใต้ของออสเตรเลียอุตสาหกรรมนมควรจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับวิธีการที่ใช้ต้นทุนต่ำสำหรับการจัดหา
ฟีด grazeable เพิ่มเติมในช่วงฤดูร้อนเนื่องจากปัจจุบันตัวเลือกชนิดอาหารสัตว์สำหรับช่วงเวลาของปีนี้มีจำนวน จำกัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

B S T R A C Tนมระบบในออสเตรเลียใต้พึ่งพาถากอาหารจากฟาร์มจัดหาระหว่าง 50% และ 70% ของรวมฝูงป้อนความต้องการในแต่ละปีมี อย่างไรก็ตาม ประเภทอาหารเด่นในภูมิภาคซึ่งจะขึ้นอยู่กับ ryegrass ยืนต้น ( lolium perenne ) โดยทั่วไปผลการอาหารในฤดูร้อนซึ่งจะต้องเต็มไปด้วยอาหารเสริมที่ซื้อจากฟาร์ม และดึงส่วนเกินในฤดูใบไม้ผลิซึ่งต้องอนุรักษ์ . ทั้งสองเหล่านี้รบกวนทบทวนต้นทุนในกิจการ ฟาร์ม มันอาจ ดังนั้น ที่ เพิ่มเติมอาหาร grazeable ใช้ได้กับผลิตภัณฑ์นมวัวในออสเตรเลียใต้ อาจมีมูลค่าทางเศรษฐกิจต่าง ๆเมื่อปฏิสัมพันธ์ระหว่างฤดูกาล อัตราปล่อยคลอดวันที่และสถานที่ถ่ายลงในบัญชี ที่การวิเคราะห์การรายงานในกระดาษนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการใช้จำลองระบบฟาร์มแบบเต้านม ,ผลของปฏิสัมพันธ์เหล่านี้บนประสิทธิภาพที่เสริมอาหารสามารถดัดแปลงผลิตน้ำนมเพิ่มและดังนั้นจึงเป็นไปได้ทั้งหมดมูลค่าทางเศรษฐกิจของฟีดเพิ่มเติม" ฐาน " จำลอง " ฟาร์มฟาร์มเฉลี่ย " และ " Top 10 % " ( เรียงตามฟาร์มกำไร ) สองเตอรังท้องถิ่น ( เฉลี่ยปริมาณน้ำฝนเป็นมิลลิเมตร , ฤดู ; เติบโต 8 เดือนและ ellinbank : เฉลี่ยปริมาณน้ำฝน , 085 มิลลิเมตร 9 – 10 เดือนฤดูปลูก ) ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบการผลิตทางกายภาพและความสามารถในการทำกำไรของฟาร์มเหล่านี้ที่เห็นในฟาร์มมาตรฐานในชุดข้อมูล แบบจำลองเหล่านี้แล้วการเปลี่ยนแปลงเพื่อเพิ่มเท่ากับ 10% ของปริมาณการสะสมปีน้ำหนักใช้ในฐานจำลองทั้งบนพื้นฐานโปรงวดทั้งปี หรือ ฤดูใบไม้ร่วง เท่านั้น ในช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ในฤดูใบไม้ผลิ หรือในฤดูร้อนเท่านั้น ข้อมูลเพิ่มเติมมีจำนวน 620 และ 780 กิโลกรัม DM / ฮา เตอรังเฉลี่ย 10% และด้านบนฟาร์ม ตามลำดับ และและ 905 kg DM / ฮา ellinbank เฉลี่ยและฟาร์ม 10% สูงสุดตามลำดับการจัดการนโยบายที่ใช้ในฐานจำลองแล้วปรับให้เก็บเกี่ยว เท่าของเสริมอาหารที่เป็นไปได้ ทั้งโดยตรงหรือผ่านการอนุรักษ์หญ้าหมัก ในขณะที่การรักษาระบบคีย์รัฐชี้คะแนนสภาพวัวและครอบคลุมฟาร์มฟาร์มเฉลี่ยภายในขอบเขตที่รู้จักผลการผลิตที่ยั่งยืนในระยะยาวประสิทธิภาพที่เสริมอาหารถูกใช้มากที่สุดในฤดูร้อนในทุกสถานการณ์ ( 80 – 100 % ของเสริมอาหารให้เก็บเกี่ยว ทั้งหมด โดยแทะเล็มโดยตรง ) นี้แปลเป็นสูงอย่างต่อเนื่องรวมผลตอบแทนทางเศรษฐกิจของระหว่าง $ 0.26 และ $ 0.34 กิโลกรัม DM ของเสริมอาหารเพิ่มแบบ ประสิทธิภาพต่อเนื่องลดลงในทุกฤดูกาลอื่นและ / หรือต้องให้เพิ่มขึ้นในการอนุรักษ์พืชหมัก ทั้งของซึ่งมีผลในการลดยอดผลตอบแทนทางเศรษฐกิจต่อกิโลกรัม โรคเบาหวาน อาหารเพิ่มเติม ผลกระทบของการปฏิสัมพันธ์ระหว่างท้องถิ่น , ฤดู , ถุงน่อง ( อัตราสูงในด้านบน 10 ฟาร์มจำลองกว่าจำลองฟาร์มเฉลี่ย )และ มีวันที่ ( ก่อนหน้านี้ที่เตอรังกว่าที่ ellinbank ) ถูกจับได้อย่างชัดเจนในรูปแบบ ปฏิสัมพันธ์เหล่านี้ที่มีขนาดใหญ่มากในความสามารถในการทำกำไรของการเสริมอาหารในช่วงเวลาอื่นของปี ลักษณะทางการเกษตรการวิจัยในออสเตรเลีย อุตสาหกรรมนมภาคใต้ควรเน้นวิธีต้นทุนต่ำเพื่อการจัดหาอาหาร grazeable เพิ่มเติมในฤดูร้อน เนื่องจากตัวเลือกพืชอาหารสัตว์ปัจจุบันสำหรับช่วงเวลานี้ของปีจะถูก จำกัด