Central banks such as the Federal R

Central banks such as the Federal Reserve (Fed) and European Central Bank
(ECB) does consider the role of consumer credit in their policy decisions (see
ECB, 2004; Bernanke, 2006). There is a widespread consensus among economists
and policy-makers that consumer credit is strongly linked to output and
inflation. There are a number of factors that consumers consider when making
borrowing decisions. For the Fed to precisely measure and monitor the consumer
borrowing, there is a need to identify the factors that influence consumer
borrowing and decisions. Consumer spending is the largest share of GDP in the
United States. and has been a key driver of economic growth the country has
experienced since 1990s. Consumer borrowing has always played a strong part
in stimulating consumption spending (Paradiso et al., 2014); in addition it also
has links to consumer debt accumulation. As a proportion of personal income,
consumer credit has more than doubled during the postwar period, with particularly
sharp and sustained increases occurring in the 1980s (see figure 1, Ludvigson,
1999). In spite of the attention paid to movements in consumer credit in
the press and the Wall Street, the determinants and effects of growth in consumer
credit have not been a major focus of researchers; hence there has been
limited research on the determinants of consumer credit in an economy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ธนาคารกลางเช่นเฟด (Fed) และธนาคารกลางยุโรป(ECB) พิจารณาบทบาทของสินเชื่อผู้บริโภคในการตัดสินใจนโยบาย (ดูECB, 2004 Bernanke, 2006) มีฉันทามติอย่างกว้างขวางในหมู่นักเศรษฐศาสตร์และคอมพิวติ้งที่สินเชื่อผู้บริโภคขอเชื่อมโยงกับผลผลิต และอัตราเงินเฟ้อ มีจำนวนของปัจจัยที่ผู้บริโภคพิจารณาเมื่อทำการการตัดสินใจกู้ยืมเงิน สำหรับเฟดในการวัด และตรวจสอบผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำการกู้ยืม มีความจำเป็นในการระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภคกู้ยืมและการตัดสินใจ ผู้บริโภคที่ใช้จ่ายเป็นส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุดของ GDP ในการสหรัฐอเมริกา และได้รับการผลักดันให้ประเทศที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจมีประสบการณ์ตั้งแต่ปี 1990 ยืมของผู้บริโภคได้เสมอเล่นเป็นส่วนที่แข็งแกร่งในการกระตุ้นการใช้จ่าย (Paradiso et al. 2014); นอกจากนี้มันยังมีการเชื่อมโยงเพื่อสะสมหนี้ผู้บริโภค ตามสัดส่วนของรายได้ส่วนบุคคลสินเชื่อผู้บริโภคมีมากกว่าสองเท่าในช่วงเวลาหลังสงคราม ด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพิ่มความคมชัด และยั่งยืนเกิดขึ้นในปี 1980 (ดูรูปที่ 1, Ludvigson1999) ทั้ง ๆ เราใส่ใจในการเปลี่ยนแปลงของสินเชื่อผู้บริโภคในกด และวอลล์สตรีท ดีเทอร์มิแนนต์ และผลของการเจริญเติบโตของผู้บริโภคเครดิตได้รับการมุ่งเน้นที่สำคัญของนักวิจัย จึง มีการงานวิจัยที่จำกัดใน determinants ของสินเชื่อผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ธนาคารกลางเช่นธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป
(ECB) จะพิจารณาบทบาทของเครดิตของผู้บริโภคในการตัดสินใจในนโยบายของพวกเขา (ดู
ECB 2004; Bernanke, 2006) มีมติอย่างกว้างขวางในหมู่นักเศรษฐศาสตร์เป็น
และผู้กำหนดนโยบายว่าเครดิตของผู้บริโภคมีการเชื่อมโยงอย่างยิ่งที่จะส่งออกและ
อัตราเงินเฟ้อ มีหลายปัจจัยที่ผู้บริโภคควรพิจารณาเมื่อทำให้มี
การตัดสินใจการกู้ยืมเงิน สำหรับเฟดจะแม่นยำในการวัดและตรวจสอบผู้บริโภค
กู้ยืมเงินมีความจำเป็นต้องระบุปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อผู้บริโภค
กู้ยืมเงินและการตัดสินใจ การใช้จ่ายของผู้บริโภคเป็นหุ้นใหญ่ที่สุดของจีดีพีใน
ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้รับการขับเคลื่อนหลักของการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศที่มี
ประสบการณ์ตั้งแต่ปี 1990 การกู้ยืมเงินของผู้บริโภคที่มีการเล่นเสมอส่วนที่แข็งแกร่ง
ในการกระตุ้นการใช้จ่ายการบริโภค (Paradiso et al, 2014.); นอกจากนี้ยัง
มีการเชื่อมโยงไปสู่การสะสมหนี้ของผู้บริโภค ในฐานะที่เป็นสัดส่วนของรายได้ส่วนบุคคลที่
เครดิตของผู้บริโภคมีเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงเวลาหลังสงครามด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
ที่คมชัดและยั่งยืนเพิ่มขึ้นเกิดขึ้นในช่วงปี 1980 (ดูรูปที่ 1 Ludvigson,
1999) ทั้งๆที่มีความสนใจที่จ่ายให้กับการเคลื่อนไหวในเครดิตของผู้บริโภคในการ
กดและ Wall Street, ปัจจัยและผลกระทบของการเจริญเติบโตในผู้บริโภค
เครดิตไม่ได้มุ่งเน้นที่สำคัญของนักวิจัย; จึงได้มีการ
วิจัย จำกัด ในปัจจัยของเครดิตของผู้บริโภคในระบบเศรษฐกิจ