cientists have concluded that most

cientists have concluded that most of the observed warming is very likely due to the burning of coal, oil, and gas. This conclusion is based on a detailed understanding of the atmospheric greenhouse effect and how human activities have been tweaking it. At the same time, other reasonable explanations, most notably changes in the Sun, have been ruled out.

The atmospheric greenhouse effect naturally keeps our planet warm enough to be livable. Sunlight passes through the atmosphere. Light-colored surfaces, such as clouds or ice caps, radiate some heat back into space. But most of the incoming heat warms the planet's surface. The Earth then radiates some heat back into the atmosphere. Some of that heat is trapped by greenhouse gases in the atmosphere, including carbon dioxide (CO2).

Illustration of how global warming works

Human activity--such as burning fossil fuels--causes more greenhouse gases to build up in the atmosphere. As the atmosphere "thickens" with more greenhouse gases, more heat is held in. Fossil fuels such as oil, coal and natural gas are high in carbon and, when burned, produce major amounts of carbon dioxide or CO2. A single gallon of gasoline, when burned, puts 19 pounds of carbon dioxide into the atmosphere.

The role of atmospheric carbon dioxide (CO2) in warming the Earth's surface was first demonstrated by Swedish scientist Svante Arrhenius more than 100 years ago. Scientific data have since established that, for hundreds of thousands of years, changes in temperature have closely tracked with atmospheric CO2 concentrations. Since the Industrial Revolution, the burning of coal, oil and natural gas has emitted roughly 500 billion tons of CO2, about half of which remains in the atmosphere. This CO2 is the biggest factor responsible for recent warming trends.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

cientists ได้สรุปส่วนใหญ่ที่พบในภาวะโลกร้อนเป็นไปได้มากเนื่องจากการเผาไหม้ของถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซ บทสรุปนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าใจรายละเอียดของการบรรยากาศเรือนกระจกและว่ามนุษย์มีการ tweaking มัน ในเวลาเดียวกัน คำอธิบายอื่น ๆ เหมาะสม เปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ในดวงอาทิตย์ ที่มีการปกครองออก

บรรยากาศเรือนกระจกตามธรรมชาติช่วยให้โลกของเราอบอุ่นพอที่จะน่าอยู่ แสงอาทิตย์ผ่านชั้นบรรยากาศ พื้นผิวแสงสี เช่นเมฆหรือหมวกน้ำแข็ง แผ่ความร้อนบางส่วนกลับเข้าไปในพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ความร้อนขาเข้า warms พื้นผิวของดาวเคราะห์ แผ่นดินแผ่กระจายออกบางความร้อนกลับสู่ชั้นบรรยากาศแล้ว ของความร้อนที่จะติด โดยก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ รวมถึงก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

ภาพประกอบวิธีภาวะทำงาน

กิจกรรมมนุษย์ - เช่นเชื้อฟอสซิลเขียน - ทำให้ก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมสร้างในบรรยากาศ เป็นบรรยากาศ "ทำ" มีแก๊สเรือนกระจกมากขึ้น ความร้อนขึ้นไปจะจัดขึ้นใน เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมัน ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติมีคาร์บอนสูง และ เมื่อเขียน ผลิตเงินสำคัญของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 แกลลอนน้ำมัน เมื่อเขียน เดี่ยวทำให้ 19 ปอนด์ ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่บรรยากาศ

บทบาทของบรรยากาศคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในพื้นผิวของโลกร้อนถูกแรกสาธิต โดยนักวิทยาศาสตร์สวีเดนสวานเตอาร์เรเนียสกว่า 100 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้ตั้งแต่สร้างว่า หลายร้อยหลายพันปี การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้อย่างใกล้ชิดติดตาม ด้วยบรรยากาศ CO2 ความเข้มข้น ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม การเผาถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติได้ออกมาประมาณ 500 พันล้านตันของ CO2 ประมาณครึ่งหนึ่งของที่เหลืออยู่ในบรรยากาศ CO2 นี้เป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดชอบแนวโน้มโลกร้อนล่าสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

cientists ได้ข้อสรุปว่าส่วนใหญ่ของภาวะโลกร้อนที่สังเกตมีแนวโน้มมากเนื่องจากการเผาไหม้ของถ่านหินน้ำมันและก๊าซ ข้อสรุปนี้จะขึ้นอยู่กับความเข้าใจรายละเอียดของภาวะเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศและวิธีการที่กิจกรรมของมนุษย์ได้รับการปรับแต่งมัน ในขณะเดียวกันคำอธิบายที่เหมาะสมอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปลี่ยนแปลงในดวงอาทิตย์ได้รับการตัดออกภาวะเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศธรรมชาติที่ช่วยให้โลกของเราอบอุ่นพอที่จะเป็นที่น่าอยู่ แสงแดดผ่านชั้นบรรยากาศ สีอ่อนพื้นผิวเช่นเมฆหรือน้ำแข็งแผ่ความร้อนบางส่วนกลับเข้ามาในพื้นที่ แต่ที่สำคัญที่สุดของความร้อนที่เข้ามาอุ่นพื้นผิวของดาวเคราะห์ โลกแล้วแผ่กระจายความร้อนบางส่วนกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ บางส่วนของความร้อนที่ถูกขังอยู่โดยก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศรวมทั้งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ภาพประกอบของวิธีภาวะโลกร้อนทำงานกิจกรรมของมนุษย์ - เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล - ทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นในการสร้างขึ้นในชั้นบรรยากาศ เป็นบรรยากาศ "ข้น" กับก๊าซเรือนกระจกมากขึ้นความร้อนมากขึ้นจะจัดขึ้นใน. เชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมันถ่านหินและก๊าซธรรมชาติจะสูงในคาร์บอนและเมื่อเผาผลิตจำนวนที่สำคัญของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 แกลลอนเดียวของน้ำมันเมื่อเผาไหม้ทำให้£ 19 ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศบทบาทของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ (CO2) ในร้อนพื้นผิวโลกได้แสดงให้เห็นเป็นครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดน Svante Arrhenius กว่า 100 ปีที่ผ่านมา ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่นั้นมานับร้อยนับพันของปีที่ผ่านมาการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ติดตามอย่างใกล้ชิดกับความเข้มข้นของ CO2 ในชั้นบรรยากาศ ตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรมการเผาไหม้ของถ่านหินน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมีการปล่อยออกมาประมาณ 500,000,000,000 ตันของ CO2 ประมาณครึ่งหนึ่งของที่ยังคงอยู่ในบรรยากาศ CO2 นี้เป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดรับผิดชอบสำหรับแนวโน้มร้อนที่ผ่านมา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

cientists ได้สรุปว่า ส่วนใหญ่จากภาวะโลกร้อนมากเนื่องจากการเผาไหม้ของถ่านหิน น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สรุปตามความเข้าใจรายละเอียดของผลกระทบเรือนกระจกบรรยากาศและกิจกรรมของมนุษย์ได้รับการปรับเปลี่ยนมัน ในเวลาเดียวกัน , คำอธิบายที่เหมาะสมอื่น ๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงในดวงอาทิตย์ได้รับการปกครองออก

ผลกระทบเรือนกระจกบรรยากาศเป็นธรรมชาติช่วยให้โลกของเราอบอุ่นพอที่จะให้น่าอยู่ แสงแดดส่องผ่านชั้นบรรยากาศ แสง สี พื้นผิว เช่นเมฆหรือน้ำแข็งขั้วโลก , แผ่ความร้อนบางส่วนกลับเข้ามาในพื้นที่ แต่ส่วนใหญ่ของความร้อนที่เข้ามาอุ่นพื้นผิวของดาวเคราะห์ โลกแล้วแผ่กระจายความร้อนบางส่วนกลับเข้าไปในบรรยากาศบางส่วนของความร้อนที่ติดอยู่โดยก๊าซเรือนกระจกในบรรยากาศ ได้แก่ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) .

ภาพประกอบว่าภาวะโลกร้อนผลงาน

กิจกรรมของมนุษย์ -- เช่นการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล -- ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกที่จะสร้างขึ้นในบรรยากาศ เป็นบรรยากาศ " หนา " กับก๊าซเรือนกระจกมากขึ้น ความร้อนจะจัดขึ้นใน เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมันถ่านหินและก๊าซธรรมชาติสูงเป็นคาร์บอน และเมื่อเผา ผลิตปริมาณที่สำคัญของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หรือ CO2 หนึ่งแกลลอนของน้ำมันเบนซิน เมื่อเผา ใส่ 19 ปอนด์ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศ

บทบาทของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) ในบรรยากาศร้อนพื้นผิวของโลกเป็นครั้งแรกโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนโดยสวานเต อาร์เรเนียสมากกว่า 100 ปีมาแล้วข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ได้นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นนั้น หลายร้อยหลายพันปี การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ใกล้ชิดติดตามบรรยากาศความเข้มข้น CO2 นับตั้งแต่การปฏิวัติอุตสาหกรรม การเผา ถ่านหิน น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติมีการปล่อยออกมาประมาณ 500 ล้านตันของ CO2 ประมาณครึ่งหนึ่งของที่ยังคงอยู่ในบรรยากาศ CO2 นี้เป็นปัจจัยใหญ่ที่สุดรับผิดชอบล่าสุดร้อนแนวโน้ม