To test our hypothesis that variabi

To test our hypothesis that variability in psychological need satisfaction and individual differences in well-being related to social media engagement insofar as they were linked to higher levels of FoMO, we evaluated three mediation models following the boot- strapping approach outlined by Preacher and Hayes (2008). Controlling for participant age and gender, results indicated three total effects relating need satisfaction ,b=_.12,p

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

To test our hypothesis that variability in psychological need satisfaction and individual differences in well-being related to social media engagement insofar as they were linked to higher levels of FoMO, we evaluated three mediation models following the boot- strapping approach outlined by Preacher and Hayes (2008). Controlling for participant age and gender, results indicated three total effects relating need satisfaction ,b=_.12,p<.001,general mood, b=_.09,p<.00,and life satisfaction ,b=_.06,p<.01,tosocial media engagement were in evidence (the C path inFig.2). Likewise, levels of FoMO were predicted by participant standing on need satisfaction, b=_.25,p<.001, mood, b=_.20,p<.001,and life satisfaction ,b=_.17,p<.001 (the A path). Across all three mediation models results FoMO was robustly associated with social media engagement, b=.40,p<.001 (B path).Analyses indicated three significant in direct effects linking individual differences in need satisfaction , mood, and life satisfaction to social media engagement byway of FoMO (the A_B path). Across the three models, this indirect path accounted for an average of 19.39%ofvariability (R 2) in social media engagement. The 95%confidenceintervals for these paths, based on10,000 resamples, ranged from _0.65 to_1.00 for need satisfaction,_.57 to_.99 for mood, and _.36 to_.61 for life satisfaction . Finally, the models showed the direct effects linking need satisfaction ,b=.003,p=.89,general mood, b=_.001,p=.98,and life satisfaction, b=.013,p=.51,tosocial media engagement were no longer significant when FoMO was considered (the C 0path). Taken together, these results indicate that FoMO served a same diating factor that explained the relations that linked individual differences in need satisfaction and well-being to social media use.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพื่อทดสอบสมมติฐานของเราที่แปรปรวนในความพึงพอใจความต้องการทางด้านจิตใจและความแตกต่างของแต่ละบุคคลในการที่ดีที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมทางสังคมสื่อตราบเท่าที่พวกเขาได้รับการเชื่อมโยงกับระดับที่สูงขึ้นของ FoMO เราประเมินสามรุ่นไกล่เกลี่ยต่อไปนี้วิธีการรัด boot- ระบุไว้โดยพระและเฮย์ส ( 2008) การควบคุมสำหรับอายุของผู้เข้าร่วมและเพศ, ผลการวิจัยผลกระทบที่สามรวมเกี่ยวกับความพึงพอใจความต้องการข = _. 12, p <0.001 อารมณ์ทั่วไป = _ ข. 09, p <0.00 และความพึงพอใจในชีวิต, B = _. 06 , p <0.01 หมั้นสื่อ tosocial อยู่ในหลักฐาน (เส้นทาง inFig.2 C) ในทำนองเดียวกันระดับของ FoMO ถูกคาดการณ์ไว้โดยผู้เข้าร่วมยืนอยู่บนความพึงพอใจความต้องการข = _. 25, p <0.001, อารมณ์, B = _. 20, p <0.001 และความพึงพอใจในชีวิต, B = _. 17, p < 001 (เส้นทาง A) ทั่วทั้งสามไกล่เกลี่ย FoMO ผลรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับการมีส่วนร่วมอย่างทนทานสื่อสังคม, B = 0.40, p <0.001 (เส้นทาง B).
การวิเคราะห์แสดงให้เห็นสามที่สำคัญในการเชื่อมโยงผลกระทบโดยตรงแตกต่างระหว่างบุคคลในความพึงพอใจความต้องการอารมณ์และความพึงพอใจในชีวิตทางสังคม การมีส่วนร่วมของสื่อตรอก FoMO (เส้นทาง A_B) ทั่วทั้งสามรุ่นนี้เส้นทางอ้อมคิดเป็นค่าเฉลี่ยของ 19.39% ofvariability (R 2) การมีส่วนร่วมในสื่อสังคม confidenceintervals 95% สำหรับเส้นทางเหล่านี้ตาม on10,000 resamples, ตั้งแต่ _0.65 to_1.00 สำหรับความพึงพอใจความต้องการ _. 57
_.99 อารมณ์และ _.36 to_.61 สำหรับความพึงพอใจในชีวิต ในที่สุดรูปแบบที่แสดงให้เห็นผลกระทบโดยตรงการเชื่อมโยงความพึงพอใจความต้องการข = 0.003, p = 0.89 อารมณ์ทั่วไปข = _. 001, p = 0.98 และความพึงพอใจในชีวิต, B = 0.013, p = 0.51, มีส่วนร่วมของสื่อ tosocial ไม่ได้อยู่อย่างมีนัยสำคัญเมื่อได้รับการพิจารณา FoMO (ซี 0path)
ที่ร่วมกันผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า FoMO ทำหน้าที่เป็นปัจจัย diating เดียวกับที่อธิบายความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงแตกต่างระหว่างบุคคลในความพึงพอใจความต้องการและความเป็นอยู่ที่ดีกับการใช้สื่อสังคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เพื่อทดสอบสมมติฐานความแปรปรวนในจิตใจของเราว่า ความพึงพอใจความต้องการและความแตกต่างระหว่างบุคคลในความเป็นอยู่ที่เกี่ยวข้องกับงานหมั้นสื่อสังคมตราบเท่าที่พวกเขามีการเชื่อมโยงไปยังระดับที่สูงขึ้นของโฟโม่ เราประเมินสามแบบต่อไปนี้การบูต - รัดวิธีการระบุโดยนักเทศน์และเฮย์ส ( 2008 ) การควบคุมสำหรับผู้เข้าร่วมอายุและเพศพบสามรวมผลเกี่ยวกับความพึงพอใจ , B = _ 12 , p < . 001 , อารมณ์ทั่วไป , B = _ 09 , p < . 05 และความพึงพอใจในชีวิต , B = _ . 06 , p < . 01 , ความผูกพันต่อสื่อในหลักฐาน ( C เส้นทาง infig 2 ) อนึ่ง ระดับของโฟโม่ถูกคาดการณ์โดยผู้เข้าร่วมมีความพึงพอใจในความต้องการ , B = _ . 25 , p < . 001 , อารมณ์ , B = _ 20 , P < . 001 และความพึงพอใจในชีวิต , B = _ . 17 , p < . 001 ( เส้นทาง )ทั้งสามรุ่นนี้ผลโฟโม่เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับงานหมั้น , สื่อสังคม B = . 40 , p < . 001 ( B เส้นทาง )
3 ที่สำคัญในการวิเคราะห์ แสดงผลการเชื่อมโยงโดยตรงความแตกต่างของอารมณ์ ความต้องการ และความพึงพอใจในชีวิตกับสังคมสื่อหมั้นซอยของโฟโม่ ( a_b เส้นทาง ) ทั้งสามรุ่นนี้เป็นเส้นทางอ้อมเฉลี่ย 1939 % ofvariability ( R ( 2 ) ในงานหมั้นของสังคมสื่อ 95% confidenceintervals สำหรับเส้นทางเหล่านี้ on10000 resamples ตาม ระหว่าง _0.65 to_1.00 สำหรับความพึงพอใจ ต้องการ _ . 57

_ . 99 สำหรับอารมณ์และ _ 36 to_ . 61 เพื่อความพึงพอใจของชีวิต สุดท้าย แบบแสดงผลการเชื่อมโยงโดยตรง
ต้องการความพึงพอใจ , B = . 003 , p = . 89 , อารมณ์ทั่วไป , B = _ . 001 , p = . 98 และความพึงพอใจในชีวิต , B = . 013 , p = . 51 ,หมั้นไม่มีนัยต่อสื่อเมื่อโฟโม่ถือว่า ( C 0path ) ถ่ายด้วยกัน ผลลัพธ์เหล่านี้บ่งชี้ว่า โฟโม่บริการเดียวกัน diating ปัจจัยที่อธิบาย ความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงความแตกต่างในความพึงพอใจความต้องการและความเป็นอยู่ที่จะใช้สื่อทางสังคม .