1. ขนาดภายนอก: ขนาดภายนอก ต้องมีขนาดพอเหมาะ กับการที่จะนำตัวรถหรือชิ้นงานที่จะต้องการทำสีเข้าไปได้โดยสะดวก และจะต้องมีช่องทางที่สะดวกสำหรับการเข้า-ออกของช่างปฏิบัติการ
2. ประตู
ด้านหน้า: มีไว้เพื่อใช้สำหรับเปิดรับตัวรถหรือชิ้นงาน เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนเตรียมปฏิบัติการซ่อมแซม
สี บานประตูถูกออกแบบให้พับปรับระยะห่างได้ สำหรับวัสดุที่ใช้ทำบานประตู จำเป็นต้องทำจากวัสดุน้ำหนักเบา กันแรงกระแทก แรงกด ทนต่อความชื้น ความเย็นและความร้อนได้ดีเยี่ยมโดยมียางประตูที่ถูกออกแบบสำหรับใช้กับห้องพ่น-อบสีโดยเฉพาะ มีคุณสมบัติกันรั่วของอากาศได้เป็นอย่างดี
ด้านข้าง: จะต้องจัดเตรียมไว้สำหรับการเข้า-ออกของช่างเทคนิคในระหว่างการดำเนินการปฏิบัติงานพ่น-อบสี
3. แผงมอมิเตอร์: ทำหน้าที่ควบคุมไฟฟ้า ที่เชื่อมโยงกับอุปกรณ์ต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกของห้องโดยบนแผงจะมีสวิทช์สั่งการต่างๆ ได้แก่ สวิทช์แสดงตำแหน่งพ่นและอบสี สวิทช์เปิด-ปิด
พัดลมอัดอากาศเข้า สวิทช์เปิด-ปิด หลอดไฟภายในห้องอบ สวิทช์เปิด-ปิด อุปกรณ์ทำความร้อน สวิทช์ฉุกเฉินเมื่อมีเหตุขัดข้อง
4. สวิทช์ฉุกเฉิน: มีลักษณะเป็นปุ่มกด ทำหน้าที่ระงับการทำงานทั้งระบบ ขณะปฏิบัติงาน โดยกดหยุดในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ยกตัวอย่าง เช่น ในกรณีที่ช่างพ่นสีพบเห็นวัสดุไวไฟภายในห้องอบสีขณะดำเนินงานอยู่ สามารถทำการกดเพื่อหยุดระบบทั้งหมดได้ทันที เพื่อป้องกันความเสียหายจากอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้นได้
5. จอแสดงอุณหภูมิพ่น: และอบสี มีหน้าที่ในการตั้งเวลาในการอบสี ในเคสทั่วไปจะใช้ระยะเวลาในการทำงานอยู่ที่ 6-8 นาที ในอุณหภูมิใช้งานจริง ( 60 องศาเซลเซียส)