Another man named Jacob Davis bough

Another man named Jacob Davis bought large amounts of the denim fabric from Levi Strauss. He was a tailor who made pants for hard-working men. One of his customers was continually tearing the pockets off his pants. So Jacob Davis decided to put rivets on certain parts of the pants to make them stronger. The customer loved the new pants so much that he told all his friends, and soon Jacob Davis was busy making lots of pants with rivets.

Jacob Davis soon realized that using rivets was a great business idea, and he didn't want anybody to steal that idea. He decided that he would need to get a patent. But being a poor tailor, he didn't have enough money to pay for the patent. After thinking it over, he went to the businessman Levi Strauss and told him his idea. He said, "If you agree to pay for the patent, we will share the profits from the riveted pants." Levi Strauss did agree, and the new riveted pant business was called Levi Strauss and Company. Today Levi's jeans are more popular than ever, and Levi's name continues to live on.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อีกคนชื่อ Jacob Davis ซื้อผ้ายีนส์จำนวนมากจากสเตราส์ Levi เขาเป็นช่างตัดเสื้อที่ทำกางเกงทำงานผู้ชาย นอกจากนี้หนึ่งลูกค้าของเขาอย่างต่อเนื่องถูกฉีกกระเป๋าปิดกางเกงของเขา เพื่อให้จาค็อบ Davis ตัดสินใจใส่หมุดโลหะบางส่วนของกางเกงทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ลูกค้ารักกางเกงใหม่มากที่เขาบอกว่า เพื่อนของเขา และเร็ว ๆ นี้ จาค็อบ Davis ไม่ว่างทำกางเกงด้วยหมุดโลหะมากมายจาค็อบ Davis ตระหนักว่า การใช้หมุดโลหะความคิดทางธุรกิจที่ดี และเขาไม่ต้องการใครจะขโมยความคิดที่ว่า เขาตัดสินใจว่า เขาจะต้องได้รับสิทธิบัตร แต่ตัดยาก เขาไม่มีเงินจ่ายค่าสิทธิบัตร หลังจากคิดไป เขาไปนักธุรกิจสเตราส์ Levi และบอกความคิดของเขา เขากล่าวว่า "ถ้าคุณยอมรับการจ่ายค่าสิทธิบัตร เราจะแบ่งปันกำไรจากกางเกง riveted" สเตราส์ Levi ไม่ตกลง และธุรกิจใหม่เชื่อมติดกางเกงเรียกว่าเลวีสเตราส์ และ บริษัท วันนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิมของกางเกงยีนส์ลีวายส์ และชื่อลีวายส์ยังคงอยู่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชายอีกคนหนึ่งชื่อจาค็อบเดวิสซื้อจำนวนมากของผ้ายีนส์จาก Levi Strauss เขาเป็นช่างตัดเสื้อที่ทำกางเกงสำหรับผู้ชายที่ยากต่อการทำงาน หนึ่งในลูกค้าของเขาได้อย่างต่อเนื่องฉีกกระเป๋ากางเกงของเขาออก ดังนั้นจาค็อบเดวิสตัดสินใจที่จะใส่หมุดในบางส่วนของกางเกงที่จะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ลูกค้าที่รักกางเกงใหม่มากที่เขาบอกกับเพื่อน ๆ ทุกคนของเขาและเร็ว ๆ นี้จาค็อบเดวิสเป็นที่วุ่นวายทำให้จำนวนมากของกางเกงที่มีหมุด. จาค็อบเดวิสไม่ช้าก็ตระหนักว่าการใช้หมุดเป็นความคิดทางธุรกิจที่ดีและเขาก็ไม่ได้ต้องการให้ใครที่จะขโมย ความคิดที่ว่า เขาตัดสินใจว่าเขาจะต้องได้รับการจดสิทธิบัตร แต่เป็นช่างตัดเสื้อที่ไม่ดีเขาไม่ได้มีเงินมากพอที่จะจ่ายสำหรับการจดสิทธิบัตร หลังจากที่คิดมันมากกว่าเขาไปธุรกิจ Levi Strauss และบอกให้เขาคิดของเขา เขากล่าวว่า "ถ้าคุณตกลงที่จะจ่ายสำหรับการจดสิทธิบัตรที่เราจะแบ่งปันผลกำไรจากการตรึงกางเกงที่." Levi Strauss ไม่เห็นด้วยและธุรกิจใหม่กางเกงตรึงถูกเรียก Levi Strauss และ บริษัท กางเกงยีนส์ลีวายส์ในวันนี้เป็นที่นิยมมากขึ้นกว่าเดิมและชื่อลีวายส์ยังคงอาศัยอยู่ใน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

另一个男人叫雅各布戴维斯买牛仔织物的为大。他是从一个裁缝莱维施特劳斯是做裤子。一个男人努力工作。——为客户continually）是他的裤子口袋，撕裂了的。所以他对decided雅各布戴维斯把裤子上的铆钉对某种零部件。他们把每stronger）让客户的新裤子，他告诉这一切太雅各布戴维斯和他的朋友，很快使很多繁忙的裤子是用铆钉固定。雅各布戴维斯很快这是一realized铆钉机使用商业想法，他不想让他去偷anybody想法。他会想decided get a那可怜的专利。但他是一个裁缝，有足够的钱，不支付的专利，到。他在放学后去思维它，到他businessman李维·史特劳斯和他的主意。他告诉说，“如果你不同意支付，的专利，我们将分享利润了。”从最同意做裤子，李维·史特劳斯：新裤子和铆接李维·史特劳斯和公司是被李维斯牛仔裤.今天是比任何更受欢迎，和对生活的continues李维斯在name。