าวเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่สำคัญของประชากรโลก
การเพิ่มผลผลิตข้าวจึงมีส่วนช่วยป้องกันการขาดแคลนอาหาร การเพิ่มผลผลิตข้าวมีได้หลายวิธีรวมทั้งการลดการเข้าทำลายของเชื้อสาเหตุโรคข้าวด้วยเช่นกัน
โรคขอบใบแห้งของข้าวเป็นหนึ่งในโรคข้าวที่สำคัญ
โดยโรคนี้จะแสดงอาการในระยะต้นกล้าจนถึงระยะออกรวงส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลง
ซึ่งการใช้พันธุ์ข้าวต้านทานเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคมากที่สุด
ดังนั้นการทดลองนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อทดสอบความต้านทานโรคขอบใบแห้งของข้าว 36 สายพันธุ์ ต่อเชื้อ 15 ไอโซเลท
หลังจากการปลูกเชื้อ 14 วัน ได้ทำการวัดความยาวแผล
และประเมินผลความต้านทานตามแบบของแสงชัย(2552) และตามแบบ IRRI (อภิชาต, 2555)
พบว่า ข้าวพันธุ์ WS13-OBS-36 ซึ่งมียีน xa5/Xa21/xa33/Xa34 ผนวกร่วมกันอยู่เป็นข้าวที่มีผลการประเมินเป็นต้านทานทั้ง 15 ไอโซเลท ตามวิธีการประเมินตามวิธีของ IRRI และมีเพียง 2 ไอโซเลท ค่อนข้างต้านทาน ได้แก่ ไอโซเลท CR2-4 กับ SK1-2 เมื่อประเมินตามวิธีของแสงชัย
หลังจากทำการคำนวณค่าทางสถิติแล้วพบว่า พันธุ์ข้าวแต่ล่ะพันธุ์มีความแตกต่างทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 และเมื่อคำนวณโดยใช้วิธี Duncan แล้วสามารถแบ่งกลุ่มความต้านทานได้ทั้งหมด 16 กลุ่ม โดยในพันธุ์ WS13-OBS-36 อยู่ในกลุ่ม a ซึ่งมีค่าเฉลี่ยบาดแผลรวมทั้ง 15 ไอโซเลท น้อยที่สุดเมื่อนำไปประเมินตามแบบของแสงชัยและ IRRI มีความต้านทานต่อเชื้อทั้ง 15 ไอโซเลทมากที่สุด