ประโยคภาษาไทยไม่เหมือนประโยคภาษาอัง

ประโยคภาษาไทยไม่เหมือนประโยคภาษาอังกฤษเพราะไม่มีขอบเขตประโยคแน่ชัด ประธานในประโยคหนึ่งอาจทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคถัดไป ไม่มีประธานที่สัมพันธ์กับกริยาแท้ในเชิงไวยากรณ์ กริยาไม่ต้องสัมพันธ์กับพจน์ของประธาน และไม่ต้องบอกกาล กริยาอื่น ๆ สามารถต่อเข้ากับกริยาแท้ได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปไวยากรณ์ ไม่ต้องใช้ to หรือเปลี่ยนรูปเป็น v + ing หรือ v+ed ดังนั้น อาจกล่าวได้ว่าประโยคภาษาไทยมีลักษณะเป็นหน่วยความคิด (proposition) มากกว่าประโยค (ทิพา เทพอัครพงศ์, การแปลเบื้องต้น หน้า 126)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประโยคภาษาไทยไม่เหมือนประโยคภาษาอังกฤษเพราะไม่มีขอบเขตประโยคแน่ชัดประธานในประโยคหนึ่งอาจทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคถัดไปไม่มีประธานที่สัมพันธ์กับกริยาแท้ในเชิงไวยากรณ์กริยาไม่ต้องสัมพันธ์กับพจน์ของประธานและไม่ต้องบอกกาลกริยาอื่นๆ สามารถต่อเข้ากับกริยาแท้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปไวยากรณ์ไม่ต้องใช้ไปหรือเปลี่ยนรูปเป็น v + ing หรือ v ed ดังนั้นมากกว่าประโยคอาจกล่าวได้ว่าประโยคภาษาไทยมีลักษณะเป็นหน่วยความคิด (เสนอ) (ทิพาเทพอัครพงศ์ การแปลเบื้องต้นหน้า 126)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประโยคภาษาไทยไม่เหมือนประโยคภาษาอังกฤษเพราะไม่มีขอบเขตประโยคแน่ชัดประธานในประโยคหนึ่งอาจทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคถัดไปไม่มีประธานที่สัมพันธ์กับกริยาแท้ในเชิงไวยากรณ์กริยาไม่ต้องสัมพันธ์กับพจน์ของประธานและไม่ต้องบอก กาลกริยาอื่น ๆ สามารถต่อเข้ากับกริยาแท้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปไวยากรณ์ไม่ต้องใช้ไปหรือเปลี่ยนรูปเป็น V + ing หรือ V + เอ็ดดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าประโยคภาษาไทยมีลักษณะเป็นหน่วยความคิด (เรื่อง) มากกว่า ประโยค (ทิพาเทพอัครพงศ์, การแปลเบื้องต้นหน้า 126)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประโยคภาษาไทยไม่เหมือนประโยคภาษาอังกฤษเพราะไม่มีขอบเขตประโยคแน่ชัดประธานในประโยคหนึ่งอาจทำหน้าที่เป็นประธานหรือกรรมในประโยคถัดไปไม่มีประธานที่สัมพันธ์กับกริยาแท้ในเชิงไวยากรณ์กริยาไม่ต้องสัมพันธ์กับพจน์ของประธานและไม่ต้องบอกกาลกริยาอื่นจะสามารถต่อเ ข้ากับกริยาแท้ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนรูปไวยากรณ์ไม่ต้องใช้เพื่อหรือเปลี่ยนรูปเป็น V + V + ing ค็อคเอ็ดดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าประโยคภาษาไทยมีลักษณะเป็นหน่วยความคิด ( ข้อเสนอ ) มากกว่าประโยค ( ทิพาเทพอัครพงศ์การแปลเบื้องต้นหน้า , 126 )