The current fixation on the theoret

The current fixation on the theoretical side of servant leadership necessitates an empirical study to
develop and validate a measurement scale of servant leadership since any theoretical progress is
made possible only by adequate measurement instrument. This working paper chronicles the steps,
methods, and results of quantitative and qualitative studies which were conducted to build a
measurement scale of servant leadership. The stages of scale development which have been
undertaken, and are reported in this paper, are domain and item generation, content expert
validation, and pilot test. Although the emphasis of the paper is on the content/face validity and
internal consistency of the scores on servant leadership scale, some preliminary results on its
construct validity are presented. Future research directions are discussed to ensure that the
psychometric properties of the scores of the scale are theoretically sound and empirically solid.
Since its humble beginnings in the late 1970s (Greenleaf, 1977), the seemingly obscure idea of servant
leadership has slowly permeated the leadership literature. Servant leadership “begins with the natural feeling
that one wants to serve, to serve first. Then conscious choice brings one to aspire to lead . . . The difference
manifests itself in the care taken by the servant – first to make sure that other people’s highest-priority needs
are being served” (Greenleaf, 1977: 13). The absence of empirical evidence may well be the main reason of
the gradual development of understanding of servant leadership in the last two and a half decades (Bowman,
1997). The meticulous standards of scientific methodologies invalidate the pervasive existence of anecdotal
evidence in the popular press of servant leadership in organisational settings. Further, Bass asserts (2000: 33)
that even though servant leadership has a profound philosophical foundation, the concept has been studied
merely in an ad hoc fashion.
The past five years, however, have seen a crescendo in the pace of servant leadership research, as indicated
in the growing number of peer-reviewed publications in the area (Autry, 2001; Buchen, 1998; Choi & MaiDalton,
1998; Daft & Lengel, 2000; Farling, Stone, & Winston, 1999; Pollard, 1997; Russell, 2001; Sendjaya &
Sarros, 2002; Spears, 1998; Wright, 2000). Some of these conceptual research studies have identified
various themes or dimensions associated with servant leadership, as summarized in Table 1.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาผลการ necessitates เบีปัจจุบันทางด้านทฤษฎีของภาวะผู้นำของข้าราชการพัฒนา และตรวจสอบประเมินมีระดับภาวะผู้นำของข้าราชการเนื่องจากความคืบหน้าใด ๆ ทฤษฎีทำได้ โดยเครื่องมือวัดเพียงพอเท่านั้น กระดาษนี้ทำงานได้บันทึกขั้นตอนวิธีการ และผลของการศึกษาเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพซึ่งได้ดำเนินการสร้างแบบมาตราวัดของข้าราชการเป็นผู้นำ ระยะของสเกลได้ดำเนินการ และรายงานในเอกสารนี้ มีโดเมนและสินค้ารุ่น ผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อหาตรวจสอบ และการทดสอบนำร่อง แม้ว่าความสำคัญของกระดาษอยู่ตั้งแต่เนื้อหา/หน้า และความสอดคล้องภายในของคะแนนในระดับข้าราชการเป็นผู้นำ บางผลเบื้องต้นในการมีแสดงโครงสร้างมีผลบังคับใช้ ทิศทางการวิจัยในอนาคตจะกล่าวมั่นใจว่าการpsychometric คุณสมบัติของคะแนนสเกลมี empirically ทึบ และเสียงตามหลักวิชาตั้งแต่ของอีกชิ้นในปลายทศวรรษที่ 1970 (Greenleaf, 1977), ความคิดที่ดูเหมือนปิดบังของข้าราชการภาวะผู้นำมีช้า permeated วรรณคดีเป็นผู้นำ นำข้าราชการ "เริ่มต้น ด้วยความรู้สึกเป็นธรรมชาติว่าต้องทำหน้าที่ การให้บริการครั้งแรก แล้ว เลือกสตินำหนึ่งเพื่อนำ... ความแตกต่างปรากฏตัวในความดูแลที่ดำเนินการ โดยข้าราชการ – ก่อนเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าความต้องการระดับความสำคัญสูงสุดที่ของคนอื่นการให้บริการ" (Greenleaf, 1977:13) ขาดหลักฐานประจักษ์ดีอาจเป็นเหตุผลหลักของค่อย ๆ พัฒนาความเข้าใจของข้าราชการเป็นผู้นำในสองครึ่งทศวรรษ (Bowman1997) มาตรฐานของวิธีการทางวิทยาศาสตร์อย่างพิถีพิถันทำให้มีชุมชนที่แพร่หลายของเล็ก ๆหลักฐานในความนิยมของข้าราชการเป็นผู้นำในการตั้งค่า organisational เพิ่มเติม เบสยืนยัน (2000:33)ว่า ถึงแม้ว่าข้าราชการผู้มีพื้นฐานปรัชญาลึกซึ้ง แนวความคิดมีการศึกษาเพียงในแฟชั่นการกิจห้าปีผ่านมา อย่างไรก็ตาม ได้เห็นเครสเซนโดจะดีของข้าราชการเป็นผู้นำวิจัย ตามที่ระบุในจำนวนที่เพิ่มขึ้นของเพื่อนตรวจสอบสิ่งพิมพ์ในพื้นที่ (Autry, 2001 Buchen, 1998 Choi และ MaiDaltonปี 1998 งี่เง่า & Lengel, 2000 Farling หิน และ วินสตัน 1999 Pollard, 1997 รัสเซล 2001 Sendjaya และSarros, 2002 หอก 1998 ไรท์ 2000) ของการศึกษาวิจัยแนวคิดเหล่านี้ได้ระบุต่าง ๆ รูปแบบหรือขนาดที่เกี่ยวข้องกับข้าราชการเป็นผู้นำ ตามที่สรุปไว้ในตารางที่ 1

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การตรึงในปัจจุบันในด้านทฤษฎีภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ necessitates การศึกษาเชิงประจักษ์

พัฒนาและตรวจสอบการวัดระดับของภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้เนื่องจากทฤษฎีความก้าวหน้า
ได้โดยเฉพาะเครื่องมือวัดอย่างเพียงพอ กระดาษทำงานนี้พงศาวดารขั้นตอน
วิธีการ และผลของการศึกษาเชิงปริมาณและคุณภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้าง
การวัดระดับของภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ . ขั้นตอนของการพัฒนา ซึ่งมีมาตราส่วน
) และมีรายงานในกระดาษนี้เป็นโดเมนของรุ่น และผู้เชี่ยวชาญ
เนื้อหาและทดสอบนักบิน แม้ว่าความสำคัญของกระดาษอยู่บนเนื้อหา / ใบหน้าเชิง
ความสอดคล้องภายในของคะแนนในระดับภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ บางผลเบื้องต้นของ
ความตรงเชิงโครงสร้างของแบบทดสอบ ได้แก่ ทิศทางการวิจัยในอนาคตจะกล่าวถึงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของคะแนน
คุณสมบัติของมาตราส่วนทฤษฎีเสียง และใช้ของแข็ง
ตั้งแต่จุดเริ่มต้นต่ำต้อยในปี 1970 ( กรีนลีฟ , 1977 ) , ความคิดที่ดูเหมือนจะคลุมเครือของภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้
ค่อยๆแทรกซึมผู้นำวรรณคดีภาวะผู้นำ " คนรับใช้ที่เริ่มต้นด้วยความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ
หนึ่งต้องการที่จะใช้บริการก่อน แล้วสติทางเลือกนำหนึ่งปรารถนาที่จะเป็นผู้นำ . . . . . . . ความแตกต่าง
manifests เองในการถ่าย โดยผู้รับใช้ฯ ก่อนเพื่อให้แน่ใจว่า ความต้องการ
ความสำคัญสูงสุดของผู้อื่นจะถูกเสิร์ฟ " ( กรีนลีฟ , 1977 : 13 ) ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์อาจเป็นเหตุผลหลักของ
การพัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไปของความเข้าใจของผู้รับใช้ของภาวะผู้นำในช่วงสองและครึ่งทศวรรษที่ผ่านมา ( โบว์แมน
1997 ) มาตรฐานที่เข้มงวดของระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์เป็นโมฆะมีอยู่แพร่หลายของหลักฐาน
ในหนังสือพิมพ์ยอดนิยมของผู้รับใช้ผู้นำในการตั้งค่าขององค์กร . ต่อไป , เบสยืนยัน ( 2 : 33 )
แม้ว่าภาวะผู้นำได้ลึกซึ้งพื้นฐานปรัชญา แนวคิดได้ถูกศึกษาในแฟชั่นแบบเฉพาะกิจ

.
5 ปีที่ผ่านมา แต่ได้เห็น Crescendo ในจังหวะของการวิจัยภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ ตามที่ระบุ
ในตัวเลขการเติบโตของผู้ดี - ทบทวนสิ่งพิมพ์ในพื้นที่ ( ทรีบูเช่น , , 2001 1998 ; ซอย& maidalton
, 1998 ; ขน&เลงเกิล , 2000 ; farling , หิน ,&วินสตัน , 1999 ; Pollard , 1997 ; รัสเซล , 2001 ; sendjaya &
sarros , 2002 ; หอก , 1998 ; ไรท์ , 2000 ) บางส่วนของเหล่านี้มีการศึกษาวิจัยได้ระบุ
ชุดรูปแบบต่าง ๆหรือมิติที่เกี่ยวข้องกับภาวะผู้นำแบบผู้รับใช้ เป็นสรุปได้ในตารางที่ 1