Dementia is a broad category of bra

Dementia is a broad category of brain diseases that cause long term loss of the ability to think and reason clearly that is severe enough to affect a person's daily functioning. For the diagnosis to be present it must be a change from how the person was previously.[1]

The most common form of dementia is Alzheimer's disease (75%).[1] Other forms include Lewy body dementia, vascular dementia, frontotemporal dementia, progressive supranuclear palsy, corticobasal degeneration, normal pressure hydrocephalus and Creutzfeldt–Jakob disease.

Except for a few treatable types in most cases there is no cure. Cholinesterase inhibitors are often used early in the disease course; however, benefit appears to be slight.[2] Cognitive and behavioral interventions may be appropriate. Educating and providing emotional support to the caregiver is of importance. Exercise programs are beneficial with respect to activities of daily living and potentially improving dementia.[3]

Dementia becomes more common with age. While only 3% of people between the ages of 65–74 have dementia, 47% of people over the age of 85 have some form of dementia.[1] As more people are living longer, dementia is becoming more common.

In DSM-5 the decision was taken to rename the dementias as neurocognitive disorders, with various degrees of severity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมองเสื่อมเป็นประเภทกว้างของโรคสมองที่ทำให้เกิดการสูญเสียความสามารถในการคิดระยะยาว และเหตุผลชัดเจนที่รุนแรงมากพอที่จะส่งผลกระทบต่อบุคคล ทุกวันทำการ สำหรับการวินิจฉัยต้องมีอยู่ จะต้องเปลี่ยนวิธีคนก่อนหน้านี้[1]

แบบทั่วไปของสมองเสื่อมคือ โรคอัลไซเมอร์ (75%) . [1] แบบฟอร์มอื่น ๆ รวม Lewy ร่างกายสมองเสื่อม สมองเสื่อมหลอดเลือด frontotemporal สมองเสื่อม โปรเกรสซี supranuclear palsy, corticobasal เสื่อม ความดันปกติ hydrocephalus และโรค Creutzfeldt – Jakob

ยกเว้นโรคบางชนิดส่วนใหญ่ มีการรักษาไม่ Cholinesterase inhibitors มักใช้ในหลักสูตรโรค ช่วง อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ปรากฏให้เล็กน้อย[2] รับรู้ และพฤติกรรมการรักษาอาจจะเหมาะสม ให้ และให้การสนับสนุนทางอารมณ์ภูมิปัญญามีความสำคัญ โปรแกรมออกกำลังกายจะเป็นประโยชน์กับกิจกรรมของชีวิตประจำวัน และอาจปรับปรุงสมองเสื่อม[3]

สมองเสื่อมจะทั่วไป มีอายุ ในขณะที่เพียง 3% ของคนอายุ 65-74 มีสมองเสื่อม 47% ของคนอายุ 85 มากกว่ามีบางรูปแบบของสมองเสื่อม[1] เป็นคนอาศัยอยู่อีกต่อไป สมองเสื่อมเป็น มากขึ้นร่วมกัน

ใน DSM-5 การตัดสินใจถูกนำไปเปลี่ยนชื่อ dementias ที่เป็นโรค neurocognitive กับองศาต่าง ๆ ของความรุนแรง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาวะสมองเสื่อมเป็นประเภทกว้างของสมอง โรคที่เป็นสาเหตุของการสูญเสียความสามารถในการคิดและเหตุผลชัดเจนที่รุนแรงมากพอที่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานประจำวันของบุคคลในระยะยาว สำหรับการวินิจฉัยที่เป็นปัจจุบัน มันต้องเปลี่ยนจากวิธีที่บุคคลก่อนหน้านี้ [ 1 ]

รูปแบบที่พบมากที่สุดของภาวะสมองเสื่อมเป็นอัลไซเมอร์ ( 75% ) . [ 1 ] รูปแบบอื่น ๆรวมถึง Lewy ร่างกายเสื่อมเสื่อมเสื่อมของหลอดเลือดfrontotemporal โรคสมองเสื่อม อัมพาต corticobasal ก้าวหน้า supranuclear , เสื่อม ความดันปกติ และเดสทินีส์ไชลด์

ยกเว้นชนิดรักษาไม่กี่ในกรณีส่วนใหญ่ไม่มีการรักษา อวดภูมิ มักจะใช้ในช่วงต้นของโรค อย่างไรก็ตาม ผลประโยชน์ที่ดูเหมือนจะเล็กน้อย . [ 2 ] การคิดและพฤติกรรมการแทรกแซงอาจจะเหมาะสมการให้ความรู้และการให้การสนับสนุนทางอารมณ์กับคนดูแลเป็นสำคัญ โปรแกรมการออกกำลังกายเป็นประโยชน์ต่อกิจกรรมของชีวิตประจำวัน และอาจพัฒนาสมองเสื่อม [ 3 ]

ความจำเสื่อมกลายเป็นปกติตามอายุ ในขณะที่มีเพียงร้อยละ 3 ของคนอายุ 65 – 74 มีภาวะสมองเสื่อม , 47% ของคนอายุ 85 มีบางรูปแบบของภาวะสมองเสื่อม . [ 1 ] เป็นคนมากขึ้นจะอาศัยอยู่อีกต่อไปภาวะสมองเสื่อมเป็นทั่วไปมากขึ้น

ใน dsm-5 การตัดสินใจเปลี่ยนชื่อ dementias เป็น neurocognitive disorders ที่มีองศาต่างๆของความรุนแรง .