Binns (2008) examined the impact th

Binns (2008) examined the impact that knowledge has on the personal ethical development of a leader. The author argues that leaders do not know how to develop ethically if not learned through academics and research studies. The reason behind this rationale is each individual approaches ethics with a biased point of view. The author notes that, with knowledge, leaders are better able to shed their incorrect ways of thinking and are liberated to think ethically and without bias.
King (2008) observed numerous managers across industries and noted eight common ethical values shared by all. The author found that ethical leadership is commonly exhibited by “honesty, loyalty, dedication to purpose, benevolence, social justice, strength of character, humility, and patience” (p. 719). These principles may be learned but ultimately originate from a religious faith or spiritual foundation. The author found that those who integrate faith into their workplace were more often considered ethical leaders. Therefore, the author argues that ethics derive from a place of faith.
Duffield and McCuen (2000) discuss the notion of ethical maturing. “The ethical maturity of a professional is important because it reflects how the individual approaches a dilemma that deals with values” (p. 79). The author defined ethical maturity as the ability to deal with complex dilemmas that involved competing values in sociotechnical choices. One matures in ethical understanding when having to outweigh multiple seemingly right options. The author also notes that ethical maturity is achieved when a leader is able to make these choices without being influenced by his or her own bias.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

binns (2008) การตรวจสอบผลกระทบที่มีความรู้ในการพัฒนาจริยธรรมส่วนบุคคลของผู้นำ ผู้เขียนระบุว่าผู้นำไม่ทราบวิธีการพัฒนาจริยธรรมถ้าไม่ได้เรียนรู้ผ่านนักวิชาการและการศึกษาวิจัย เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหตุผลนี้เป็นวิธีการของแต่ละคนที่มีจริยธรรมจุดลำเอียงของมุมมอง ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตว่ามีความรู้ผู้นำจะดีขึ้นสามารถที่จะหลั่งวิธีการที่ไม่ถูกต้องของพวกเขาของการคิดและมีอิสรเสรีที่จะคิดจริยธรรมและปราศจากอคติ
กษัตริย์ (2008) พบผู้บริหารจำนวนมากในอุตสาหกรรมและสังเกตเห็นแปดจริยธรรมค่านิยมร่วมกันใช้ร่วมกันโดยทั้งหมด ผู้เขียนพบว่าความเป็นผู้นำทางจริยธรรมเป็นที่จัดแสดงโดยทั่วไป "ความซื่อสัตย์สุจริตจงรักภักดีอุทิศตนเพื่อวัตถุประสงค์เมตตากรุณาความยุติธรรมทางสังคม, ความแข็งแรงของตัวละครความอ่อนน้อมถ่อมตนและความอดทน "(พี 719) หลักการเหล่านี้อาจจะได้เรียนรู้ แต่ในท้ายที่สุดมาจากความเชื่อทางศาสนาหรือมูลนิธิจิตวิญญาณ ผู้เขียนพบว่าผู้ที่รวมความศรัทธาในที่ทำงานของพวกเขามักจะถูกมากขึ้นถือว่าเป็นผู้นำทางจริยธรรม ดังนั้นผู้เขียนระบุว่าจริยธรรมมาจากสถานที่แห่งศรัทธา.
ดัฟฟิลด์และ mccuen (2000) หารือเกี่ยวกับความคิดของจริยธรรมสุก"วุฒิภาวะทางจริยธรรมของการเป็นมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันสะท้อนให้เห็นถึงวิธีการที่บุคคลใกล้ภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่เกี่ยวข้องกับค่า" (หน้า 79) ผู้เขียนที่กำหนดไว้ครบกำหนดจริยธรรมความสามารถในการจัดการกับวิกฤติที่ซับซ้อนที่เกี่ยวข้องกับค่านิยมการแข่งขันในการเลือก soc​​iotechnical หนึ่งในการทำความเข้าใจผู้ใหญ่จริยธรรมเมื่อมีตัวเลือกที่จะเกินดุลที่เหมาะสมดูเหมือนว่าหลายผู้เขียนยังตั้งข้อสังเกตว่ามีวุฒิภาวะทางจริยธรรมจะประสบความสำเร็จเมื่อผู้นำสามารถที่จะทำให้ตัวเลือกเหล่านี้ได้โดยไม่ต้องได้รับอิทธิพลจากอคติของตัวเองของเขาหรือเธอ.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Binns (2008) ตรวจสอบผลกระทบที่มีความรู้ในการพัฒนาจริยธรรมส่วนบุคคลของผู้นำ จนผู้เขียนว่า ผู้นำรู้วิธีการพัฒนาอย่างมีจริยธรรมถ้าไม่ได้เรียนรู้ผ่านนักวิชาการ และวิจัยการศึกษา เหตุนี้เหตุผลคือ จริยธรรมแต่ละแต่ละแนวทางกับมุมมองของจุด biased ผู้เขียนหมายเหตุที่ ความรู้ ผู้นำจะสามารถใช้วิธีคิดของพวกเขาถูกต้องหลั่งน้ำตา และ liberated คิดอย่างมีจริยธรรม และไม่ มีอคติ
คิง (2008) สังเกตผู้จัดการจำนวนมากข้ามอุตสาหกรรม และสังเกตแปดทั่วไปจริยธรรมค่าใช้ร่วมกัน โดยทั้งหมด ผู้เขียนพบว่า ภาวะผู้นำจริยธรรมทั่วไปได้จัดแสดง "ความซื่อสัตย์ สมาชิก เพื่อวัตถุประสงค์ เมตตา ความยุติธรรมทางสังคม ความแข็งแรงของอักขระ บท และความอดทน" (p. 719) หลักการเหล่านี้อาจรู้ แต่ในที่สุด มาจากความเชื่อทางศาสนาหรือจิตวิญญาณรากฐาน ผู้เขียนพบว่า ผู้ที่รวมความเชื่อในการทำงานของพวกเขาได้บ่อยถือผู้นำจริยธรรม ดังนั้น ผู้เขียนจนว่า จริยธรรมมาจากที่ของศรัทธา
Duffield และ McCuen (2000) กล่าวถึงแนวคิดของใกล้สมบูรณ์:จริยธรรม "ครบกำหนดจริยธรรมของมืออาชีพเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแสดงให้เห็นว่า บุคคลแจ้งลำบากใจกับค่า" (p. 79) ผู้เขียนกำหนดครบกำหนดจริยธรรมเป็นความสามารถในการจัดการกับความซับซ้อน dilemmas แข่งขันที่เกี่ยวข้องกับค่าในตัวเลือก sociotechnical หนึ่งถึงในความเข้าใจจริยธรรมเมื่อมีหลายตัวที่ดูเหมือนขวาไปหมด ผู้เขียนได้บันทึกว่า ครบกำหนดจริยธรรมสามารถทำได้เมื่อผู้นำสามารถทำให้ตัวเลือกเหล่านี้โดยไม่ได้รับอิทธิพลจากความโน้มเอียงของ ตนเองยัง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

binns ( 2008 )พิจารณาผลกระทบที่ว่าความรู้มีการพัฒนาอย่างมีจริยธรรมส่วนตัวของผู้นำ ผู้เขียนได้ให้เหตุผลว่าผู้นำไม่รู้ว่าจะพัฒนาจริยธรรมหากไม่ได้เรียนรู้ผ่านการศึกษาวิจัยและนักวิชาการ เหตุผลที่อยู่เบื้องหลังเหตุผลนี้มีจริยธรรมวิธีการแบบเฉพาะรายแต่ละห้องพร้อมด้วยจุดอุปทานของวิวทิวทัศน์ ผู้เขียนบันทึกที่พร้อมด้วยความรู้ผู้นำได้ดีกว่าในการตกวิธีไม่ถูกต้องของความคิดและมีหลุดพ้นไปคิดว่าต้องยึดถือและไม่มีอคติ
กษัตริย์( 2008 )พบว่าผู้จัดการจำนวนมากในอุตสาหกรรมต่างๆและสังเกตเห็นคุณค่าทางจริยธรรมแปดทั่วไปใช้ร่วมกันโดยทั้งหมด ผู้เขียนที่พบว่าความเป็นผู้นำทางจริยธรรมคือแสดงออกโดย"ความซื่อสัตย์สุจริตโดยทั่วไปความ จงรักภักดี ความทุ่มเทต่อวัตถุประสงค์เมตตากรุณาความยุติธรรมทางสังคมความแข็งแกร่งของตัวอักษรและความอดทนความอ่อนน้อม"( p . 719 ) หลักการเหล่านี้อาจต้องเรียนรู้แต่ในท้ายที่สุดจะส่งมาจากความเชื่อทางศาสนาหรือมูลนิธิที่ทางจิตวิญญาณ ผู้เขียนได้พบว่าผู้ที่ประกอบด้วยความสุจริตในสถานที่ทำงานของพวกเขาได้รับการพิจารณาให้ผู้นำทางจริยธรรมมากกว่านี้ ดังนั้นผู้เขียนได้ให้เหตุผลว่าจริยธรรมมาจากสถานที่แห่งความสุจริตใจ.
ลอร์ดและ mccuen ( 2000 )อธิบายถึงแนวคิดของจริยธรรมเมื่อไม่นานมานี้"เมื่อครบกำหนดทางจริยธรรมของมืออาชีพที่มีความสำคัญเพราะมันสะท้อนว่าบุคคลนั้นแนวทาง สภาพ ที่เป็นอยู่ว่าข้อตกลงที่มีค่า"( p . 79 ). ผู้เขียนที่กำหนดไว้ครบกำหนดจริยธรรมและความสามารถที่จะจัดการกับคอมเพล็กซ์กลับต้องเผชิญกับปัญหาที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับค่าเข้าแข่งขันในทางเลือก sociotechnical หนึ่งในธุรกิจเติบโตเต็มความเข้าใจทางจริยธรรมเมื่อต้องมีน้ำหนักกว่าตัวเลือกทางด้านขวาแสดงท่าทางต่างๆผู้เขียนยังที่ครบกำหนดทางจริยธรรมจะทำได้เมื่อเป็นผู้นำที่สามารถที่จะทำให้ตัวเลือกเหล่านี้โดยไม่ได้รับอิทธิพลจากการทำงานของตนเองหรือ.