* หน่อนรินทร์สินสมุทรไม่หยุดยั้ง
รีบมาทั้งคืนค่ำในน้ำไหล
จนแจ่มแจ้งสุริโยอโณไทย
เห็นเงือกใหญ่ยายตายังล้านัก
จึงว่ารีบถีบถอนไปก่อนท่าน
โน่นนางมารหมุนไล่มาใกล้หนัก
แล้วว่ายรอคลอไปพอได้พัก
พอนางยักษ์ทันโถมกระโจมมา
พระลูกหลบพบเงือกจะเสือกหนี
เหยียบขยี้สองแขนแน่นนักหนา
ตะคอกถามตามโมโหที่โกรธา
ไยมึงพาผัวพรากมาจากกู
เดี๋ยวนี้องค์พระอภัยอยู่ไหนเล่า
ไม่บอกเราหรือกระไรทำไขหู
จะควักเอานัยน์ตาออกมาดู
ตะคอกขู่คุกถามคำรามรณ ฯ
* ทั้งสองเงือกเสือกกายหมายไม่รอด
ถึงม้วยมอดมิให้แจ้งแห่งนุสนธิ์
จึงกล่าวแกล้งแสร้งเสด้วยเล่ห์กล
เธออยู่บนเขาขวางริมทางมา
ข้าจะพาไปจับจงกลับหลัง
ให้ได้ดังมุ่งมาดปรารถนา
ไม่เหมือนคำรำพรรณที่สัญญา
จงเข่นฆ่าให้เราม้วยไปด้วยกัน ฯ
* อสุรีผีเสื้อก็เชื่อถือ
ยุดเอามือขวาซ้ายให้ผายผัน
เงือกก็พามาถึงได้ครึ่งวัน
แกล้งรำพรรณพูดล่อให้ต่อไป
นางผีเสื้อเบื่อหูรู้เท่าถึง
จึงว่ามึงตอแหลมาแก้ไข
มาถึงนี่ชี้โน่นเนื่องกันไป
แกล้งจะให้ห่างผัวไม่กลัวกู
แล้วนางยักษ์หักขาฉีกสองแขน
ไม่หายแค้นเคี้ยวกินสิ้นทั้งคู่
แล้วกลับตามข้ามทางท้องสินธู
ออกว่ายวู่แหวกน้ำด้วยกำลัง ฯ
* ฝ่ายกุมารสินสมุทรไม่หยุดหย่อน
ตามบิดรทันสมอารมณ์หวัง
จึงเล่าความตามติดไม่ปิดบัง
พระทรงฟังลูกชายค่อยคลายใจ
พอเห็นเงาเขาขวางอยู่กลางน้ำ
พิลึกล้ำกว่าคิรีที่ไหนไหน
จึงถามนางเงือกน้อยกลอยฤทัย
เกาะอะไรแก้วตาตรงหน้าเรา ฯ
* นางเงือกน้ำบอกสำคัญว่านั่นแล้ว
คือเกาะแก้วพิสดารเป็นชานเขา
พระฟังนางสร่างโศกค่อยบันเทา
จึงว่าเราเห็นรอดไม่วอดวาย
แล้วสพิศดูภูผาศิลาเสื่อม
ชะโงกเงื้อมน้ำวลชลสาย
แลลิบลิบหลังคาศาลาราย
มีเสาหงส์ธงปลายปลิวระยับ
พระยินดีชี้บอกสินสมุทร
โน่นแน่กุฏิ์มุงกระเบื้องเหลืองสลับ
พระหน่อน้อยค่อยเรียงเคียงคำนับ
หมายประทับที่เสาหงส์ตรงเข้ามา ฯ
* ฝ่ายโยคีที่อยู่บนภูเขา
กับคนเหล่าเหลือตายหลายภาษา
ทั้งจีนจามพราหมณ์แขกไทยชวา
วิลันดาฝรั่งพรั่นพร้อมกัน
เป็นร้อยคนปรนนิบัติอยู่เช่าค่ำ
บ้างต้นน้ำเก็บลูกไม้มาให้ฉัน
เป็นเหล่าล้อมพร้อมหน้าเวลานั้น
บ้างนวดฟั้นปรนนิบัตินั่งพัดวี
พอบ่ายเบี่ยงเสียงคลื่นดังครื้นครึก
อึกกระทึกมาข้างหน้าคิรีศรี
ครั้นดูลมก็ไม่พัดสงัดดี
พระโยคีจับยามตามตำรา
แล้วบอกศิษย์ซึ่งนั่งอยู่ทั้งหลาย
วันนี้ชายมีศักดิ์จักมาหา
ผีเสื้อน้ำทำฤทธิ์ติดตามมา
เสียงชลาเลื่อนลั่นสนั่นดัง
จำจะไปคอยดูอยู่ที่หาด
ช่วยตวาดขู่ขับให้กลับหลัง
ฉวยไม้เท้าก้าวย่างจากบัลลังก์
แขกฝรั่งพรั่งพร้อมล้อมลีลา
ถึงหาดกว้างทางแลกระแสสมุทร
เห็นมนุษย์ไรไรไหลนักหนา
ผีเสื้อน้ำทำฤทธิ์ติดตามมา
เวทนาแลดูอยู่ทุกคน ฯ
* พระอภัยมณีเห็นผีเสื้อ
ความกลัวเหนือว่ายคว้างอยู่กลางหน
ยักษ์กระโจมโถมจับแทบอับจน
พอเห็นคนอยู่ที่หาดตวาดครืน
เข้าถึงที่ผีเสื้อก็ถึงด้วย
กระชั้นฉวยผิดเสือกเกลือกเข้าตื้น
พอโยคีมีคาถาลงมายืน
ผีเสื้อตื่นตัวสั่นขยั้นยั้ง
พระอภัยภูมินทร์กับสินสมุทร
ช่วยกันฉุดนางเงือกเสือกเข้าฝั่ง
แล้วกราบกรานโยคีมีกำลัง
แขกฝรั่งพรั่นพร้อมล้อมพูดจา ฯ
* พระโยคีมีจิตต์คิดสงสาร
จึงว่าท่านหนีตายหมายมาหา
เราลงมาคอยช่วยด้วยเมตตา
แต่กิจจาไม่กระจ่างยังคลางแคลง ฯ
* พระอภัยได้สดับสุนทรถาม
จึงยกความก่อนเก่าเล่าแถลง
จะหนีนางกลางสมุทรก็สุดแรง
รำพรรณแจ้งความจริงทุกสิ่งไป
แล้ววอนว่าข้ากับโอรสราช
จะรองบาทประดิพัทธ์จนตัดไษย
ขอพระองค์ทรงธรรม์ช่วยกันไภย
แต่พอได้หยุดหย่อนผ่อนสบาย ฯ
* พระโยคีมีญาณว่าหลานรัก
จงสำนักอยู่ให้สมอารมณ์หมาย
อันยักษีผีสางสมุทรพราย
มาถูกทรายชายหาดก็ขาดใจ
เราลงเลขเษกทำไว้สำเร็จ
ดังเขื่อนเพ็ชรภูตปีศาจไม่อาจใกล้
มันอยู่แต่ห่างห่างช่างเป็นไร
ทำไม่ได้นัดดาเจ้าอย่ากลัว ฯ