There are five tenets of RME accord

There are five tenets of RME according to Treffers (1987) and Bakker (2004), which we summarize as follows:
a. Phenomenological exploration or the use of meaningful contexts. A rich and meaningful context or phenomenon, concrete or abstract, should be explored to support students in developing intuitive notions that can be the basis to build awareness. b. Using models and symbols for progressive mathematization. A variety of context problems, models, schemas, diagrams, and symbols can support the development of progressive mathematization gradually from intuitive, informal, context-bound notions towards more formal mathematical concepts. c. Selfreliance: students’ own constructions and strategies. It is assumed that what students do in the learning processes is meaningful to them. Students are given the freedom to come up with their own construction and strategies in solving mathematical problems. d. Interactivity. The learning process is part of an interactive instruction where individual work is combined with consulting fellow students, group discussion, class discussion, presentation of one’s own strategies, evaluation of various strategies on various levels and explanation by the teacher. Hence, students can learn from each other either in groups or in whole-class discussion. e. Intertwinement. It is important to consider an instructional sequence and its relation to other related topics.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีถี่ถ้วนห้าของ RME ตาม Treffers (1987) และ Bakker (2004), ซึ่งเราสรุปเป็นดังนี้: ก. phenomenological สำรวจหรือการใช้งานของบริบทที่มีความหมาย บริบทที่หลากหลาย และมีความหมาย หรือปรากฏการณ์ คอนกรีต หรือ นามธรรม ควรได้รับการสำรวจเพื่อสนับสนุนนักเรียนในการพัฒนาความเข้าใจง่ายซึ่งสามารถเป็นพื้นฐานในการสร้างการรับรู้ b. ใช้รุ่นและสัญลักษณ์สำหรับโปรเกรสซี mathematization ความหลากหลายของบริบทปัญหา รุ่น แบบแผน แผนภาพ และสัญลักษณ์สามารถสนับสนุนการพัฒนาของโปรเกรสซี mathematization ค่อย ๆ จากใช้งานง่าย นอกระบบ ผูก กับบริบทความเข้าใจต่อแนวคิดทางคณิตศาสตร์อย่างเป็นทางการ ค. Selfreliance: ของนักเรียนเองก่อสร้างและกลยุทธ์ มันจะสันนิษฐานว่า สิ่งที่นักเรียนทำในกระบวนการเรียนรู้มีความหมายกับพวกเขา นักเรียนจะได้มีอิสระที่จะเกิดขึ้นกับโครงสร้างและกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ของตนเอง งการติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของคำสั่งแบบโต้ตอบที่รวมพร้อมให้คำปรึกษาเพื่อน สนทนากลุ่ม เรียนสนทนา กลยุทธ์หนึ่งของการนำเสนอ การประเมินกลยุทธ์ต่าง ๆ ในระดับต่าง ๆ และคำอธิบายแต่ละงาน โดยครู ด้วยเหตุนี้ นักเรียนสามารถเรียนรู้จากคนอื่น ๆ ในกลุ่ม หรือทั้งชั้นเรียนสนทนา อี intertwinement มันเป็นสิ่งสำคัญที่ควรพิจารณาลำดับการเรียนการสอนและมีความสัมพันธ์กับหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีห้าหลักคำสอนของ RME ตาม Treffers (1987) และแบกเกอร์ (2004) ซึ่งเราสรุปดังนี้:
สำรวจปรากฏการณ์วิทยาหรือการใช้บริบทที่มีความหมาย บริบทที่อุดมไปด้วยและมีความหมายหรือปรากฏการณ์ที่เป็นรูปธรรมหรือนามธรรมควรจะสำรวจเพื่อสนับสนุนให้นักศึกษาในการพัฒนาความคิดที่ใช้งานง่ายที่สามารถเป็นพื้นฐานในการสร้างการรับรู้ B โดยใช้แบบจำลองและสัญลักษณ์สำหรับ mathematization ก้าวหน้า ความหลากหลายของปัญหาบริบทรุ่น schemas ไดอะแกรมและสัญลักษณ์สามารถสนับสนุนการพัฒนาของ mathematization ก้าวหน้าเรื่อย ๆ จากที่ใช้งานง่ายทางการพัฒนาการบริบทผูกพันที่มีต่อแนวคิดทางคณิตศาสตร์เป็นทางการมากขึ้น C Selfreliance: นักเรียน 'การก่อสร้างเองและกลยุทธ์ สันนิษฐานว่าเป็นสิ่งที่นักเรียนทำในกระบวนการเรียนรู้มีความหมายกับพวกเขา นักเรียนจะได้รับอิสระในการที่จะเกิดขึ้นกับการก่อสร้างของตัวเองและกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ D การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนการสอนแบบโต้ตอบที่ทำงานของแต่ละบุคคลจะถูกรวมกับการให้คำปรึกษาเพื่อนนักศึกษาอภิปรายกลุ่มอภิปรายในชั้นเรียนนำเสนอกลยุทธ์ของตัวเองหนึ่งของกลยุทธ์การประเมินผลต่างๆในระดับต่าง ๆ และคำอธิบายโดยครูผู้สอน ดังนั้นนักเรียนสามารถเรียนรู้จากกันและกันทั้งในกลุ่มหรือในการอภิปรายทั้งชั้นเรียน E Intertwinement มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องพิจารณาลำดับการเรียนการสอนและความสัมพันธ์กับหัวข้ออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง