SET-listed Thai Oil Plc (TOP), Thai

SET-listed Thai Oil Plc (TOP), Thailand's largest oil refiner, is still on track to expand its capacity by another 100,000 tonnes to add value to its bunker oil by converting it into petrol, said Atikom Terbsiri, the president and chief executive.
However, the plan is expected to be slightly delayed as the project to build up a new fourth crude distillation unit (CDU) is still undergoing a feasibility study, he said.
"The project is being evaluated. We are looking into the engineering details, costs and investment worthiness," Mr Atikom told the Bangkok Post .The project was previously expected to be finalised by the end of this year.
"The study is due to be finalised early next year, with construction expected to start in the second quarter or early third quarter of next year," he said.
The investment cost is around 35 billion baht as the project aims to not only increase the company's refining capacity, but also increase its refining efficiency to produce cheap bunker oil for making other highervalue products such as diesel and jet fuel, the demand for which is rising.
Thai Oil has a refining capacity of 275,000 to 300,000 barrels per day. Of the total, 7-9% is bunker oil, or around 20,000 barrels per day.
"When the new CDU is built, we will produce higher-value petrol," said Mr Atikom. The new unit will increase refining capacity to 400,000 barrels per day.
He said gross refining margin was expected to remain high at around US$8 a barrel, which allows the company to make a profit.
Now is the right time for Thai Oil to start investing and expand refining capacity as global oil prices remain low, which helps with construction and production costs, said Mr Atikom. The higher capacity after expansion should meet rising projected demand levels, he said.
The company expects global oil prices to stay in a range of $45-50 a barrel, rising to $50-55 next year.
Thai Oil posted a net profit of 7.8 billion baht in the second quarter this year, up from 4.7 billion year-on-year.
TOP shares closed Friday on the SET at 68.75 baht, up one baht, in trade worth 667 million baht.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จดทะเบียนไทยน้ำมันจำกัด(มหาชน) (TOP), สำหรับปรับน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยังคงอยู่บนแทร็กจะขยายความจุอีก 100,000 ตันเพื่อเพิ่มมูลค่าของน้ำมันเตา โดยแปลงเป็นเบนซิน กล่าวว่า ตั้งแต่ Atikom ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อย่างไรก็ตาม แผนคาดว่าจะล่าช้าเล็กน้อย ตามโครงการสร้างหน่วยกลั่นน้ำมันดิบสี่ใหม่(เดินเครื่อง) ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไป เขากล่าวว่า "โครงการรับการประเมิน เรากำลังเป็นและรายละเอียด ค่าใช้จ่าย และความคุ้มค่าในการลงทุน นาย Atikom บอกว่า บางกอกโพสต์ โครงการก่อนหน้านี้คาดว่างานฯ โดยสิ้นปีนี้ เขากล่าวว่า "การศึกษาครบงานฯ ช่วงต้นปีหน้า กับการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มในไตรมาสที่สองหรือช่วงไตรมาส 3 ของปีถัดไป ต้นทุนเงินลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท ตามเป้าหมายโครงการที่จะไม่เพียงแต่บริษัทเพิ่มขึ้นของกำลังการกลั่น แต่ยัง เพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นการผลิตน้ำมันเตาราคาถูกสำหรับทำผลิตภัณฑ์อื่น ๆ highervalue เช่นน้ำมันดีเซลและ jet ความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น น้ำมันมีความจุกลั่น 275,000 300,000 บาร์เรลต่อวัน 7-9% เป็นของ น้ำมันเตา หรือประมาณ 20,000 บาร์เรลต่อวัน "เมื่อเดินเครื่องใหม่ถูกสร้างขึ้น เราจะผลิตน้ำมันมูลค่าสูง กล่าวว่า นาย Atikom หน่วยใหม่จะเพิ่มปริมาณการกลั่นไป 400,000 บาร์เรลต่อวัน เขากล่าวว่า คาดว่ากำไรการกลั่นขั้นต้นยังคงสูงที่ประมาณ 8 ดอลลาร์ สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถทำกำไร ขณะนี้เป็นเวลาเหมาะสมสำหรับน้ำมันไทยเพื่อเริ่มต้นการลงทุน และขยายกำลังการกลั่น ตามราคาน้ำมันยังคงต่ำ ซึ่งช่วยให้ มีต้นทุนการผลิตและก่อสร้าง กล่าวว่า นาย Atikom ความจุสูงขึ้นหลังจากที่ขยายควรตอบสนองเพิ่มขึ้นคาดการณ์ความต้องการระดับ เขากล่าวว่า บริษัทคาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ในช่วงของ 45-50 ดอลลาร์ ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้นไป $50-55 ปีหน้า น้ำมันไทยโพสต์ 7.8 พันล้านบาทกำไรสุทธิในไตรมาสสองปีนี้ ขึ้นจาก 4.7 พันล้านในปี หุ้นยอดนิยมปิดวันศุกร์ชุด 68.75 บาท ค่าบาทหนึ่ง ในการค้า 667 ล้านบาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยออยล์ จำกัด (TOP), โรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของไทยยังคงอยู่บนเส้นทางที่จะขยายกำลังการผลิตอีก 100,000 ตันเพื่อเพิ่มมูลค่าน้ำมันเตาโดยการแปลงมันเป็นน้ำมันอธิคมเติบศิริกรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า
อย่างไรก็ตามแผนดังกล่าวคาดว่าจะล่าช้าเล็กน้อยในขณะที่โครงการที่จะสร้างขึ้นใหม่ที่สี่หน่วยกลั่นน้ำมันดิบ (CDU) ยังคงอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เขากล่าวว่า.
"โครงการจะถูกประเมิน. เรากำลังมองเข้าไปในรายละเอียดวิศวกรรม ค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่าของการลงทุน "นายอธิคมบอกโครงการบางกอกโพสต์ได้โดยเริ่มต้นที่คาดว่าก่อนหน้านี้จะมีข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้.
" การศึกษาเป็นเพราะจะมีข้อสรุปในต้นปีหน้ากับการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มในไตรมาสที่สองหรือ ไตรมาสที่สามในช่วงต้นของปีถัดไป "เขากล่าว.
ค่าใช้จ่ายในการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 35 พันล้านบาทโครงการนี้มีเป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นไม่เพียง แต่กำลังการกลั่นน้ำมันของ บริษัท ฯ แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นในการผลิตน้ำมันเตาราคาถูกสำหรับการทำผลิตภัณฑ์ highervalue อื่น ๆ เช่น ดีเซลและน้ำมันเครื่องบินมีความต้องการที่จะเพิ่มขึ้น.
ไทยออยล์มีกำลังการกลั่น 275,000 ถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน ในจำนวนนี้ 7-9% เป็นน้ำมันเตาหรือประมาณ 20,000 บาร์เรลต่อวัน.
"เมื่อ CDU ใหม่ถูกสร้างขึ้นเราจะผลิตน้ำมันมีมูลค่าสูงขึ้น" นายอธิคมกล่าว หน่วยธุรกิจใหม่จะเพิ่มกำลังการกลั่น 400,000 บาร์เรลต่อวัน.
เขากล่าวว่าค่าการกลั่นที่คาดว่าจะยังคงสูงอยู่ที่ประมาณ US $ 8 ต่อบาร์เรลซึ่งช่วยให้ บริษัท สามารถทำกำไร.
ตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับไทยออยล์เพื่อเริ่มต้นการลงทุน และขยายกำลังการกลั่นน้ำมันเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับต่ำซึ่งจะช่วยให้มีการก่อสร้างและต้นทุนการผลิตนายอธิคมกล่าวว่า กำลังการผลิตที่สูงขึ้นหลังจากที่ขยายตัวควรจะตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของระดับที่คาดการณ์เขากล่าวว่า.
บริษัท คาดว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะอยู่ในช่วง 45-50 $ ต่อบาร์เรลเพิ่มขึ้นถึง $ 50-55 ปีถัดไป.
ไทยออยล์มีกำไรสุทธิของ 7800000000 บาทในไตรมาสที่สองของปีนี้เพิ่มขึ้นจาก 4700000000 ปีต่อปี.
หุ้น TOP ปิดวันศุกร์ SET ที่ 68.75 บาทเพิ่มขึ้นหนึ่งบาทในการค้ามูลค่า 667,000,000 บาท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชุดจดทะเบียนไทยน้ำมัน จำกัด ( ด้านบน ) , กลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย , ยังคงเป็นในการติดตามเพื่อขยายขีดความสามารถอีก 100000 ตันเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับของบังเกอร์ โดยแปลงเป็นเบนซิน น้ำมัน กล่าวว่า การแข่งขันการไปรษณีย์ , ประธานและหัวหน้าผู้บริหารอย่างไรก็ตาม แผนคาดว่าจะล่าช้าเล็กน้อย เป็นโครงการที่จะสร้างขึ้นใหม่ที่สี่ดิบหน่วยกลั่น ( CDU ) ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ เขากล่าวว่า" เป็นโครงการประเมิน เราจะมองเข้าไปในวิศวกรรมรายละเอียดค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่าของการลงทุน " นายอธิคมบอกบางกอกโพสต์ โดยโครงการนี้คาดว่าจะสรุปภายในสิ้นปีนี้" การศึกษาเนื่องจากจะสรุปต้นปีหน้า โดยการก่อสร้างคาดว่าจะเริ่มในไตรมาส 2 หรือไตรมาสแรกของปีถัดไป " เขากล่าวต้นทุนลงทุนประมาณ 35 ล้านบาท โดยโครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อไม่เพียง แต่เพิ่มความสามารถในการกลั่นของ บริษัท แต่ยังเพิ่มประสิทธิภาพการกลั่นผลิตน้ำมันเตาราคาถูกสำหรับทำผลิตภัณฑ์ highervalue อื่นๆ เช่น ดีเซล และน้ำมันเครื่องบิน ความต้องการที่เพิ่มขึ้นไทยน้ำมันที่มีการปรับเพิ่ม 300000 275 , 000 บาร์เรลต่อวัน ของทั้งหมด , 7-9 % คือ น้ำมันเตา หรือประมาณ 20 , 000 บาร์เรลต่อวัน" เมื่อ CDU ใหม่ถูกสร้างขึ้น เราจะผลิตน้ำมันมูลค่าสูง " นายอธิคม . หน่วยใหม่จะเพิ่มกําลังการกลั่นเพื่อ 400000 บาร์เรลต่อวันเขาบอกว่า / 54 กำไรคาดว่าจะยังคงสูงที่ประมาณ US $ 8 ต่อบาร์เรล ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถทํากําไรขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับคนไทย น้ำมันจะเริ่มลงทุน และขยายศักยภาพการกลั่น ขณะที่ราคาน้ำมันทั่วโลกยังคงต่ำ ซึ่งช่วยให้ต้นทุนการก่อสร้างและการผลิต นายอธิคม . มีความจุสูง หลังจากการขยายควรตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากระดับ , เขากล่าวว่า .บริษัท คาดว่าราคาน้ํามันโลกจะอยู่ในช่วงของ $ 45-50 บาร์เรล เพิ่มขึ้นถึง $ 50-55 ปีถัดไปไทยน้ำมันโพสต์กําไรสุทธิ 7.8 พันล้านบาท ในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 4.7 พันล้านปีต่อปีTOP หุ้นปิดวันศุกร์ ในฉากที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 1 บาท มูลค่าการค้า 667 ล้านบาท