การวิจัยเชิงพรรณนาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการการสวมหมวกนิรภัย
และปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนแก่นนครวิทยาลัย อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น จำนวน 193 คน ที่ได้จากการสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งชั้นภูมิ (Stratified random sampling) เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหา โดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน และทดสอบความเที่ยงได้เท่ากับ… เก็บรวบรวมข้อมูลระหว่างวันที่12-16 กันยายน 2559 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและสถิติ Chi-Square
ผลการวิจัยพบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 74.6 อายุเฉลี่ย 17.08 ปี (S.D.=0.83) อายุมากที่สุด 19 ปี และน้อยที่สุด 16 ปี กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ร้อยละ 37.8 ผู้ปกครองประกอบอาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 38.9 พักอาศัยอยู่ในเขตอำเภอเมือง ร้อยละ 71.5 ใช้รถจักรยานยนต์ในฐานะผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ร้อยละ 40.9 ส่วนใหญ่ไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ร้อยละ 79.8 ค่ามัธยฐานระยะทางในการใช้รถจักรยานยนต์ในแต่ละวัน เท่ากับ 10 มากที่สุด 100 กิโลเมตร และน้อยที่สุด 1 กิโลเมตร ค่ามัธยฐานระยะเวลาใช้รถจักรยานยนต์เท่ากับ 3 ปี มากที่สุด 11 ปี น้อยที่สุด 1 ปี เคยประสบอุบัติเหตุ ร้อยละ 51.3 เคยกระทำความผิด ร้อยละ 46.6 และส่วนใหญ่มีหมวกนิรภัยเป็นของตัวเอง ร้อยละ 76.2 มีความรู้เกี่ยวกับหมวกนิรภัยอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 52.3 โดยค่าเฉลี่ยเท่ากับ 15.40 คะแนน(S.D.= 1.70) (จากคะแนนเต็ม 20 คะแนน) มีทัศนคติเกี่ยวกับหมวกนิรภัยอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 81.9 โดยค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.09 คะแนน(S.D.= 0.48) (จากคะแนนเต็ม 5 คะแนน) และมีพฤติกรรมการหมวกนิรภัยอยู่ในระดับสูง ร้อยละ 58.5 โดยค่าเฉลี่ยเท่ากับ 11.95 คะแนน(S.D.= 2.65) (จากคะแนนเต็ม 15 คะแนน) และเมื่อวิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัย พบว่า ตัวแปรคุณลักษณะส่วนบุคคลและข้อมูลทั่วไป ได้แก่ การมีหมวกนิรภัย มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสวมหมวกนิรภัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับความผิดพลาดไม่เกินร้อยละ 5 (p-value = 0.001) ส่วนตัวแปรเพศ อายุ ระดับการศึกษา อาชีพผู้ปกครอง เขตชุมชนที่พักอาศัย การใช้รถจักรยานยนต์ การมีใบอนุญาตขับขี่ ระยะทางในการใช้รถจักรยานยนต์ในแต่ละวัน ระยะเวลาในขับขี่รถจักรยานยนต์ ประสบการณ์ในการเกิดอุบัติเหตุ ประสบการณ์ในการกระทำความผิด ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสวมหมวก และพบว่า ความรู้และทัศนคติ ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการสวมหมวก ดังนั้นสถานศึกษาควรรณรงค์และสนับสนุนให้นักเรียนมีหมวกนิรภัยเป็นของตนเอง เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมการสวมหมวกนิรภัยขณะขับขี่รถจักรยานยนต์