The civil rights movement of the 19

The civil rights movement of the 1960s led to the replacement of these ethnic quotas with per-country limits. Since then, the number of first-generation immigrants living in the United States has quadrupled, from 9.6 million in 1970 to about 38 million in 2007. Nearly 14 million immigrants entered the United States from 2000 to 2010. and over one million persons were naturalized as U.S. citizens in 2008. Since the per-country limit applies the same maximum on the number of visas to all countries regardless of their population, it has had the effect of severely restricting the legal immigration of persons born in Mexico, India, China, and the Philippines – currently the leading countries of origin of immigrants to the United States.
Family reunification accounts for approximately two-thirds of legal immigration to the US every year. As of 2009, 66% of legal immigrants were admitted on this basis, along with 13% admitted for their employment skills and 17% for humanitarian reasons.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เคลื่อนย้ายพลเรือน rights ของปี 1960 นำไปแทนโควต้าชนเผ่าเหล่านี้มีขีดจำกัดสำหรับแต่ละประเทศ ตั้งแต่นั้น จำนวนรุ่นอพยพอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามี quadrupled จาก 9.6 ล้านในปี 1970 เพื่อประมาณ 38 ล้านบาทในปี 2550 นานเกือบ 14 ล้านป้อนสหรัฐอเมริกาจาก 2000 ถึง 2553 และกว่าหนึ่งล้านคนถูก naturalized เป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาในปี 2008 เนื่องจากวงเงินสำหรับแต่ละประเทศใช้สูงสุดเดียวกันจำนวนวีซ่ากับทุกประเทศโดยประชากรของพวกเขา มันมีผลของการจำกัดการตรวจคนเข้าเมืองตามกฎหมายของบุคคลที่เกิดในเม็กซิโก อินเดีย จีน และ ฟิลิปปินส์ – ปัจจุบันประเทศชั้นนำของจุดเริ่มต้นของการอพยพสู่สหรัฐอเมริกาอย่างรุนแรงครอบครัวพักบัญชีสำหรับประมาณสองในสามของกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐอเมริกาทุกปี 2552, 66% ของคนเข้าเมืองตามกฎหมายได้ยอมรับตามนี้ ตามที่ยอมรับในทักษะของพวกเขาจ้าง 13% และ 17% สำหรับเหตุผลด้านมนุษยธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนของปี 1960 นำไปสู่การเปลี่ยนโควต้าของกลุ่มชาติพันธุ์เหล่านี้มีข้อ จำกัด ต่อประเทศ ตั้งแต่นั้นมาจำนวนของผู้อพยพรุ่นแรกที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกาได้ปากต่อปากจาก 9,600,000 ในปี 1970 ที่ประมาณ 38 ล้านบาทในปี 2007 เกือบ 14 ล้านผู้อพยพเข้ามาในสหรัฐอเมริกาจากปี 2000 ถึงปี 2010 และกว่าหนึ่งล้านคนได้รับสัญชาติ ในฐานะพลเมืองสหรัฐในปี 2008 เนื่องจากขีด จำกัด ต่อประเทศใช้สูงสุดเดียวกันกับจำนวนของการขอวีซ่าของทุกประเทศโดยไม่คำนึงถึงประชากรของพวกเขาก็มีผลกระทบอย่างรุนแรงจากการ จำกัด การตรวจคนเข้าเมืองตามกฎหมายของบุคคลที่เกิดในเม็กซิโก, อินเดีย, จีน, และฟิลิปปินส์ - ปัจจุบันประเทศชั้นนำที่มาของผู้อพยพไปยังสหรัฐอเมริกา
บัญชีรวมครอบครัวประมาณสองในสามของตรวจคนเข้าเมืองตามกฎหมายที่จะสหรัฐอเมริกาทุกปี 2009 ขณะที่ 66% ของผู้อพยพทางกฎหมายเป็นที่ยอมรับบนพื้นฐานนี้พร้อมกับ 13% ยอมรับสำหรับทักษะการจ้างงานของพวกเขาและ 17% ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเคลื่อนไหวสิทธิพลเมืองของทศวรรษที่ 1960 นำไปสู่การเปลี่ยนโควต้าชาติพันธุ์เหล่านี้ที่มีต่อประเทศจำกัด ตั้งแต่รุ่นแรกแล้ว จำนวนของผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกามี quadrupled จาก 9.6 ล้านในปี 1970 ประมาณ 38 ล้านบาท เกือบ 14 ล้านอพยพเข้าสหรัฐอเมริกาจากปี 2553 และมากกว่าหนึ่งล้านคนสัญชาติสหรัฐฯประชาชนใน 2008 เนื่องจากแต่ละประเทศใช้วงเงินสูงสุดเดียวกันบนหมายเลขวีซ่า ทุกประเทศ โดยไม่คำนึงถึงของประชากรของพวกเขาจะมีผลกระทบอย่างรุนแรง จำกัด กฎหมายคนเข้าเมืองของบุคคลที่เกิดในเม็กซิโก อินเดีย จีน และฟิลิปปินส์ ซึ่งขณะนี้ประเทศชั้นนําของประเทศของผู้อพยพไปยังสหรัฐอเมริกา .
รวมบัญชีสำหรับประมาณสองในสามของกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองสหรัฐฯ ทุกปี ครอบครัว ขณะที่ 2009 66 เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพทางกฎหมายยอมรับบนพื้นฐานนี้ พร้อมกับยอมรับว่า มีการจ้างงานร้อยละ 13 และ 17 % เหตุผลด้านมนุษยธรรมของพวกเขา