ABSTRACTAn applicable in vitro call

ABSTRACT
An applicable in vitro callus initiation and shoot regeneration of commercial sugar beet breeding lines was investigated. Procedures are described for producing different types of callus and competent callus formation able to produce shoots. Leaf, cotyledon and hypocotyl explants taken from in vitro grown seedlings were subjected to Murashige and Skoog (MS) medium containing different combination of plant growth regulators. The leaf explants of genotype 436 showed the highest competent callus production able to form shoot when 0.1 mg L-1 α-Naphthaleneacetic (NAA) acid was used in combination with 1 mg L-1 thidiazuron (TDZ). Hypocotyl explants of IC genotype showed the highest callus formation when 0.1 mg L-1 NAA was combined with 0.3 mg L-1 6-Benzylaminopurine (BAP). Cotyledon explants of IC genotype showed the high callus production when 0.3 mg L-1 TDZ was combined with 0.1 mg L-1 NAA. The result evaluation demonstrated that cotyledon explants of genotype 436 produced more callus than IC genotype which able to produce shoot and the best callus induction medium was MS medium in combination with 0.1 mg L-1 NAA and 1 mg L-1 TDZ. In conclusion, TDZ was more effective cytokinin than BAP and NAA was more efficient auxin than both Indol-3-Acetic Acid (IAA) and 2, 4-Dichlorophenoxyacetic acid (2, 4-D).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อเป็นแคลลัสการเพาะเลี้ยงที่ใช้เริ่มต้นและยิงฟื้นฟูของนทานเชิงพาณิชย์ที่พันธุ์บรรทัดถูกสอบสวน อธิบายขั้นตอนการผลิตชนิดต่าง ๆ ของแคลลัสและให้มีอำนาจก่อสามารถผลิตยอด นำมาจากกล้าไม้ที่ปลูกใน explants ใบ ต่อ และ hypocotyl ถูกต้อง Murashige และ Skoog (MS) ขนาดกลางที่มีแตกต่างกันชุดของหน่วยงานกำกับดูแลการเจริญเติบโตของพืช Explants ใบผลิตลักษณะทางพันธุกรรม 436 แสดงให้อำนาจสูงสุดสามารถฟอร์มยิงเมื่อใช้ร่วมกับ 1 mg L 1 thidiazuron (TDZ) 0.1 มิลลิกรัมกรดด้วยกองทัพ-Naphthaleneacetic (NAA) L 1 Explants hypocotyl ของ IC ลักษณะทางพันธุกรรมพบก่อให้สูงสุดเมื่อมี L-1 NAA 0.1 มิลลิกรัมรวมกับ 0.3 mg L-1 6-Benzylaminopurine (BAP) Explants ต่อของ IC ลักษณะทางพันธุกรรมแสดงให้เห็นการผลิตแคลลัสสูงเมื่อ 0.3 มิลลิกรัม TDZ L 1 รวมกับ 0.1 mg NAA L 1 การประเมินผลแสดงว่า ต่อ explants ของลักษณะทางพันธุกรรม 436 ผลิตให้มากขึ้นกว่าลักษณะทางพันธุกรรม IC ที่สามารถผลิตยิง และสื่อเหนี่ยวนำให้ดีที่สุดเป็นกลาง MS ร่วมกับ 0.1 มิลลิกรัม NAA L-1 มิลลิกรัมต่อ 1 TDZ L 1 TDZ มีประสิทธิภาพมากขึ้นเบียดเบียน cytokinin BAP และ NAA ถูกออกซินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าทั้ง Indol-3-อะซิติกกรด (IAA) และ 2 กรด 4-Dichlorophenoxyacetic (2, 4-D)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อบังคับในหลอดทดลองเริ่มต้นแคลลัสและการฟื้นฟูยิงของสายพันธุ์น้ำตาลหัวผักกาดเชิงพาณิชย์ได้รับการตรวจสอบ ขั้นตอนที่อธิบายไว้ในการผลิตที่แตกต่างกันของแคลลัสและแคลลัสมีอำนาจก่อตัวสามารถผลิตหน่อ ใบใบเลี้ยงและ hypocotyl ชิ้นที่นำมาจากในหลอดทดลองปลูกต้นกล้าที่ถูกยัดเยียดให้อาหารสูตร Murashige และ Skoog (MS) ขนาดกลางที่มีแตกต่างกันของการควบคุมการเจริญเติบโต ใบชิ้นส่วนของจีโนไทป์ 436 แสดงให้เห็นว่าการผลิตแคลลัสที่มีอำนาจสูงสุดสามารถที่จะสร้างถ่ายเมื่อ 0.1 มก. L-1-αแนปธาลี (NAA) กรดที่ใช้ในการรวมกันกับ 1 มิลลิกรัม L-1 thidiazuron (TDZ) hypocotyl ชิ้นส่วนของยีน IC แสดงให้เห็นว่าการสร้างแคลลัสที่สูงที่สุดเมื่อ 0.1 มก. L-1 NAA ได้ร่วมกับ 0.3 mg L-1 6 benzylaminopurine (BAP) ใบเลี้ยงชิ้นส่วนของยีน IC แสดงให้เห็นว่าการผลิตแคลลัสสูงเมื่อ 0.3 mg L-1 TDZ รวมกับ 0.1 มก. L-1 NAA การประเมินผลแสดงให้เห็นว่าชิ้นใบเลี้ยงของจีโนไทป์ 436 แคลลัสที่ผลิตมากกว่าจีโนไทป์ IC ซึ่งสามารถผลิตยิงและขนาดกลางเหนี่ยวนำแคลลัสที่ดีที่สุดคือสูตร MS ร่วมกับ 0.1 มก. L-1 NAA และ 1 มิลลิกรัม L-1 TDZ โดยสรุป TDZ มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าไซโตไคนิ BAP และ NAA เป็นมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่ทั้งสองออกซิน Indol-3-กรดอะซิติก (IAA) และ 2 กรด 4 dichlorophenoxyacetic (2, 4-D)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรมที่ใช้ในหลอดทดลองจากแคลลัส
การยิงการน้ำตาล beet พันธุ์พาณิชย์สายสอบสวน . ขั้นตอนที่อธิบายไว้ในการผลิตชนิดต่าง ๆ ของแคลลัส และเชี่ยวชาญการสร้างแคลลัสสามารถผลิตหน่อ ใบและเนื้อเยื่อใบเลี้ยง ย้ายมาจากการปลูกต้นกล้าที่ถูกต้องในอาหารสูตร Murashige and Skoog ( MS ) อาหารที่มีการรวมกันที่แตกต่างกันของสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช ใบ เลี้ยงของจีโนไทป์ 436 พบการผลิตแคลลัสสูงสุดสามารถฟอร์มเก่งยิงเมื่อ 0.1 มก. L-1 แอลฟาไพร่ฟ้าประชาชน ( NAA ) กรดที่ใช้ในการรวมกันกับ thidiazuron L-1 1 มก. ( TDZ )ระบบเนื้อเยื่อของไอซีจี พบว่า การเกิดแคลลัสสูงสุดเมื่ออยู่รวมกับ NAA 0.1 มก. L-1 0.3 มก. L-1 6-benzylaminopurine ( BAP ) ใบเลี้ยง เลี้ยง IC มีการผลิตกับแคลลัสสูงเมื่อ 0.3 มก. L-1 TDZ ถูกรวมกับ NAA 0.1 มก. L-1 .ผลการประเมินพบว่าเนื้อเยื่อใบเลี้ยงของจีโนไทป์เราผลิตแคลลัสมากกว่า IC genotype ซึ่งสามารถผลิตยิงที่ดีที่สุดและแคลลัส induction medium คือ MS ร่วมกับ NAA 0.1 มก. L-1 1 มก. L-1 TDZ . สรุปยอดได้ ) มีประสิทธิภาพมากกว่า BAP และ NAA เป็นออกซินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่า indol-3-acetic acid ( IAA ) และ 24-dichlorophenoxyacetic acid ( 2 , 4-D )