6.2 The Three Signs of Being is the

6.2 The Three Signs of Being is the ways that the Buddha used to describe life. Nothing in life is perfect, (dukkha) It includes things like being bored and uncomfortable, and everything which is not satisfactory.
1. Everything in life - even solid things such as mountains - is changing, all the time. (anicca)
2. There is no soul. (anatta) Instead, the Buddha taught, what does carry on to the next life is a person's life force (Karma). The Karma can be good or bad, depending on how the person lives in this life. Karma is the law that every cause has an effect, i.e., our actions have results. This simple law explains a number of things: inequality in the world, why some are born handicapped and some gifted, why some live only a short life. Buddhists believe that our past actions have an effect on who or what we are in our next life.

The Buddha said that people should avoid extremes. They should not have or do too much, but neither should they have or do too little. The 'Middle Way' is the best.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

6.2 การสามสัญญาณของการเป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าใช้ในการอธิบายชีวิต มีอะไรในชีวิตที่สมบูรณ์แบบ (dukkha) มันรวมถึงการเบื่อ และอึดอัด และทุกอย่างที่ไม่น่าพอใจ1. ทุกอย่างในชีวิต - แม้สิ่งที่เป็นของแข็งเช่นภูเขา - มีการเปลี่ยนแปลง เวลา (anicca)2. มีจิตไม่ (อนัตตา) แทน พุทธสอน อะไรไม่ดำเนินชีวิตต่อไปเป็นพลังชีวิตของคน (กรรม) กรรมได้ดี หรือไม่ ดี ขึ้นอยู่กับว่าผู้ที่อาศัยอยู่ในชีวิตนี้ กรรมเป็นกฎหมายที่ทุกสาเหตุมีผล เช่น การกระทำของเรามีผลการ กฎหมายนี้ง่ายอธิบายถึงจำนวนของสิ่ง: ความไม่เท่าเทียมกันในโลก ทำไมบางเกิดมาพิการ และมี พรสวรรค์บางอย่าง ทำไมบางชีวิตเพียงระยะสั้น ชาวพุทธเชื่อว่า การกระทำของเราที่ผ่านมามีผลกระทบต่อใครหรือสิ่งที่เรามีในชีวิตของเราต่อไปพระพุทธเจ้าบอกว่า คนที่ควรหลีกเลี่ยงการสุดขั้ว พวกเขาไม่ควรมี หรือไม่มากเกินไป แต่ไม่ควรจะมี หรือไม่น้อยเกินไป แบบ' กลาง' สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

6.2 The Three สัญญาณของการเป็นอยู่ที่วิธีการที่พระพุทธรูปที่ใช้ในการอธิบายชีวิต ไม่มีสิ่งใดในชีวิตที่สมบูรณ์แบบ (ทุกข์) ซึ่งจะรวมถึงสิ่งที่ต้องการเบื่อและอึดอัดและทุกอย่างซึ่งไม่ได้เป็นที่น่าพอใจ.
1 ทุกอย่างในชีวิต - แม้สิ่งที่เป็นของแข็งเช่นภูเขา - มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (Anicca)
2 ไม่มีจิตวิญญาณ (อนัตตา) แทนพระพุทธเจ้าสอนสิ่งที่ไม่ดำเนินการในการที่จะมีชีวิตต่อไปคือพลังชีวิตของบุคคล (กรรม) กรรมจะดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับว่าคนที่อาศัยอยู่ในชีวิตนี้ กรรมคือกฎหมายว่าสาเหตุทุกคนมีผลกระทบคือการกระทำของเรามีผลการ กฎหมายนี้ง่ายอธิบายจำนวนของสิ่ง: ความไม่เท่าเทียมกันในโลกทำไมบางคนจะเกิดมาพิการและบางคนที่มีพรสวรรค์ทำไมบางอาศัยอยู่เพียงชีวิตสั้น ชาวพุทธเชื่อว่าการกระทำที่ผ่านมาของเรามีผลกระทบต่อใครหรือสิ่งที่เรามีในชีวิตของเราต่อไป. พระพุทธเจ้ากล่าวว่าคนที่ควรหลีกเลี่ยงการสุดขั้ว พวกเขาไม่ควรจะมีหรือทำมากเกินไป แต่ไม่พวกเขาควรจะทำหรือน้อยเกินไป 'การมัชฌิมาปฏิปทา' ที่ดีที่สุดคือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

6.2 สามสัญลักษณ์ของการเป็นวิธีที่พระพุทธเจ้าทรงใช้เพื่ออธิบายถึงชีวิต ไม่มีอะไรในชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ( ทุกขัง ) ซึ่งจะรวมถึงสิ่งที่ชอบเบื่อและอึดอัด และทุกอย่างที่ไม่น่าพอใจ1 . ทุกอย่างในชีวิต - แข็ง สิ่งต่าง ๆ เช่น ภูเขา - มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ( anicca )2 . ไม่มีวิญญาณ ( อนัตตา ) แทน พระพุทธเจ้าสอนอะไรไม่ถือในชีวิตต่อไป ชีวิตของบุคคลนั้นบังคับ ( กรรม ) กรรม จะเป็นดี หรือ ไม่ดี ขึ้นอยู่กับว่าคนที่อาศัยอยู่ในชีวิตนี้ กรรม เป็นกฎหมายที่ทุกเพราะมีลักษณะพิเศษ คือ การกระทำของเราได้ผล กฎหมายที่เรียบง่ายนี้จะอธิบายถึงจำนวนของสิ่งที่ : ความไม่เท่าเทียมกันในโลก ทำไมบางคนเกิดมาพิการ บางคนมีพรสวรรค์ ทำไมบางคนมีชีวิตเพียงสั้น ๆ ชีวิต ชาวพุทธเชื่อว่าการกระทำของเราที่ผ่านมามีผลกระทบต่อใครหรืออะไรเราในชีวิตของเราต่อไปพระพุทธเจ้ากล่าวว่า ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการสุดขั้ว พวกเขาไม่ควรมีหรือทำมากเกินไป แต่ก็ไม่ควรมี หรือทำน้อยเกินไป ' มัชฌิมาปฏิปทา ' เป็นดีที่สุด