MedievalMap of medieval Rome depict

Medieval

Map of medieval Rome depicting the Colosseum
The Colosseum underwent several radical changes of use during the medieval period. By the late 6th century a small church had been built into the structure of the amphitheater, though this apparently did not confer any particular religious significance on the building as a whole. The arena was converted into a cemetery. The numerous vaulted spaces in the arcades under the seating were converted into housing and workshops, and are recorded as still being rented out as late as the 12th century. Around 1200 the Frangipani family took over the Colosseum and fortified it, apparently using it as a castle.

Severe damage was inflicted on the Colosseum by the great earthquake in 1349, causing the outer south side, lying on a less stable alluvial terrain, to collapse. Much of the tumbled stone was reused to build palaces, churches, hospitals and other buildings elsewhere in Rome. A religious order moved into the northern third of the Colosseum in the mid-14th century and continued to inhabit it until as late as the early 19th century[citation needed]. The interior of the amphitheater was extensively stripped of stone, which was reused elsewhere, or (in the case of the marble façade) was burned to make quicklime.[14] The bronze clamps which held the stonework together were pried or hacked out of the walls, leaving numerous pockmarks which still scar the building today.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยุคแผนที่ของยุคกลางโรมภาพวาด Colosseum โคลีเซียมได้รับการเปลี่ยนแปลงที่รุนแรงหลายในการใช้ในช่วงเวลายุคกลาง ในช่วงปลายศตวรรษที่ 6 คริสตจักรที่มีขนาดเล็กได้รับการสร้างขึ้นในโครงสร้างของอัฒจันทร์แม้เรื่องนี้เห็นได้ชัดว่าไม่ได้หารืออย่างมีนัยสำคัญทางศาสนาใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้างที่เป็นทั้ง ที่เกิดเหตุถูกดัดแปลงเป็นสุสาน พื้นที่โค้งจำนวนมากในร้านค้าภายใต้ที่นั่งถูกดัดแปลงเป็นที่อยู่อาศัยและการฝึกอบรมและได้รับการบันทึกเป็นยังคงมีการให้เช่าเป็นปลายศตวรรษที่ 12 รอบ 1200 ครอบครัว Frangipani เอาไปโคลีเซียมและเสริมมันเห็นได้ชัดว่าใช้เป็นปราสาท. ความเสียหายอย่างรุนแรงได้รับการต่อสู้กับโคลีเซียมโดยแผ่นดินไหวใหญ่ใน 1349 ทำให้ทางด้านทิศใต้ด้านนอกนอนอยู่บนภูมิประเทศลุ่มน้ำที่มีความเสถียรน้อยกว่าที่จะยุบ . มากของหินร่วงลงถูกนำกลับมาใช้ในการสร้างพระราชวังโบสถ์โรงพยาบาลและอาคารอื่น ๆ ที่อื่น ๆ ในกรุงโรม ศาสนาย้ายเข้ามาอยู่ที่สามทางตอนเหนือของโคลีเซียมในช่วงกลางศตวรรษที่ 14 และยังคงอาศัยอยู่ในมันจนเป็นปลายศตวรรษที่ 19 [อ้างจำเป็น] การตกแต่งภายในของอัฒจันทร์ถูกปลดออกอย่างกว้างขวางของหินซึ่งถูกนำกลับมาใช้ที่อื่นหรือ (ในกรณีของfaçadeหินอ่อน) ถูกเผาเพื่อให้ปูนขาว. [14] ที่หนีบบรอนซ์ซึ่งถือหินด้วยกันถูกงัดหรือ hacked ออกจาก ผนังออก pockmarks จำนวนมากที่ยังคงแผลเป็นอาคารวันนี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แผนที่ของโรมในยุคกลางยุคกลาง


ภาพโคลอสเซียมโคลอสเซียมได้รับหลายราก การเปลี่ยนแปลงการใช้ในช่วงกลางยุค โดยปลายศตวรรษที่ 6 โบสถ์ขนาดเล็กที่ได้รับการสร้างขึ้นในโครงสร้างของอัฒจันทร์ แต่นี้เห็นได้ชัดไม่ได้ให้ความสำคัญใด ๆทางศาสนา โดยเฉพาะในอาคารโดยรวม เวทีถูกเปลี่ยนเป็นสุสานหลายเป็นในร้านค้าไม้ใต้ที่นั่งถูกแปลงเป็นเชิงที่อยู่อาศัย และบันทึกยังถูกเช่าเป็นปลายศตวรรษที่ 12 ประมาณ 1200 ลีลาวดีครอบครัวยึดอัฒจันทร์และเข้มแข็งแล้ว เห็นได้ชัดว่า การใช้มันเป็นปราสาท

เกิดความเสียหายถูกลือในโคลอสเซียม โดยมากเกิดแผ่นดินไหวแต่ก่อให้เกิดด้านใต้ นอกนอนบนทรายไม่มั่นคงภูมิประเทศ ล่มสลาย มากของเซาะหินถูกใช้เพื่อสร้างพระราชวัง โบสถ์ โรงพยาบาล และอาคารอื่น ๆที่อื่น ๆในโรม การสั่งซื้อทางศาสนาไปสามทางตอนเหนือของโคลีเซียมในศตวรรษที่ mid-14th และยังคงอาศัยอยู่จนเป็นสายเป็นต้นศตวรรษที่ 19 [ อ้างอิงที่จำเป็น ]การตกแต่งภายในของอัฒจันทร์เป็นอย่างกว้างขวางปล้นหิน ซึ่งถูกใช้ในที่อื่น หรือ ( ในกรณีของหินอ่อนเอฟเอ ADE 5 ) ถูกเผาทำปูนขาว [ 14 ] ทองแดง Clamps ซึ่งจัดขึ้น stonework ด้วยกันถูกงัดหรือเจาะออกมาจากผนังไปหลาย pockmarks ซึ่งยังคงรอยแผลเป็นอาคารวันนี้