Results and limitations: The preval

Results and limitations: The prevalence of kidney stones was 8.8% (95% confidence interval [CI], 8.1–9.5). Among men, the prevalence of stones was 10.6% (95% CI, 9.4–11.9), compared with 7.1% (95% CI, 6.4–7.8) among women. Kidney stones were more common among obese than normal-weight individuals (11.2% [95% CI, 10.0–12.3] compared with 6.1% [95% CI, 4.8–7.4], respectively; p < 0.001). Black, non-Hispanic and Hispanicindividualswerelesslikelytoreportahistoryofstonediseasethanwerewhite, non-Hispanicindividuals(black,non-Hispanic:oddsratio[OR]:0.37[95%CI,0.28–0.49], p < 0.001; Hispanic: OR: 0.60 [95% CI, 0.49–0.73], p < 0.001). Obesity and diabetes were strongly associated with a history of kidney stones in multivariable models. The cross-sectional survey design limits causal inference regarding potential risk factors for kidney stones.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลลัพธ์และข้อจำกัด: ความชุกของนิ่วในไตคือ 8.8% (95% confidence ช่วง [CI], 8.1-9.5) ในผู้ชาย ความชุกของหินเป็น 10.6% (95% CI, 9.4 – 11.9), เมื่อเทียบกับ 7.1% (95% CI, 6.4-7.8) ในหมู่ผู้หญิง นิ่วพบมากในหมู่อ้วนกว่าคนน้ำหนักปกติ (11.2% [95% CI, 10.0 – 12.3] เมื่อเทียบกับ 6.1% [95% CI, 4.8-7.4], ตามลำดับ p < 0.001) สีดำ Hispanicindividualswerelesslikelytoreportahistoryofstonediseasethanwerewhite, Hispanicindividuals(black,non-Hispanic:oddsratio[OR]:0.37[95%CI,0.28–0.49], p < 0.001; ไม่ใช่และไม่ใช่ละ สเปน: หรือ: 0.60 [95% CI, 0.49-0.73], p < 0.001) โรคอ้วนและโรคเบาหวานถูกขอเกี่ยวข้องกับประวัติของนิ่วในไตในรูปแบบ multivariable การออกแบบหน้าตัดสำรวจจำกัดอนุมานเชิงสาเหตุเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นสำหรับนิ่วในไต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลการค้นหาและข้อ จำกัด : ความชุกของโรคนิ่วในไตเป็น 8.8% (95% Con Fi มั่นใจช่วง [CI], 8.1-9.5) ในหมู่มนุษย์ชุกของหินเป็น 10.6% (95% CI, 9.4-11.9) เมื่อเทียบกับ 7.1% (95% CI, 6.4-7.8) ในหมู่ผู้หญิง นิ่วในไตเป็นเรื่องปกติมากขึ้นในหมู่อ้วนกว่าบุคคลที่มีน้ำหนักปกติ (11.2% [95% CI, 10.0-12.3] เมื่อเทียบกับ 6.1% [95% CI, 4.8-7.4] ตามลำดับ; p <0.001) ดำ, ที่ไม่ใช่ฮิสแปและ Hispanicindividualswerelesslikelytoreportahistoryofstonediseasethanwerewhite ไม่ใช่ Hispanicindividuals (สีดำ, ที่ไม่ใช่ฮิสแป: oddsratio [OR]: 0.37 [95% CI, 0.28-0.49], p <0.001; ฮิสแปหรือ: 0.60 [95% CI, 0.49- 0.73], p <0.001) โรคอ้วนและโรคเบาหวานมีความสัมพันธ์อย่างมากกับประวัติศาสตร์ของนิ่วในไตในรูปแบบหลายตัวแปร การออกแบบการสำรวจภาคตัดขวาง จำกัด การอนุมานสาเหตุเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงที่มีศักยภาพสำหรับนิ่วในไต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลและข้อจำกัด : ความชุกของนิ่วคือ 8.8 เท่า ( 95% CI dence con จึงช่วง [ ] , 8.1 – 9.5 ) ในหมู่ผู้ชาย ความชุกของหินเป็น 10.6% ( 95% CI , 9.4 และ 11.9 ) เมื่อเทียบกับ 7.1% ( 95% CI , 6.4 – 7.8 ) ของผู้หญิง นิ่วในไตถูกพบมากในคนอ้วนน้ำหนักกว่าบุคคลปกติ ( 11.2% [ 95%CI , 10.0 และ 12.3 ] เทียบกับ 6.1% [ 95%CI , 4.8 – 7.4 ] ตามลำดับ ; p < 0.001 ) ดำ , ไม่ hispanicindividualswerelesslikelytoreportahistoryofstonediseasethanwerewhite สเปนและไม่ hispanicindividuals ( สีดำ , สเปน : oddsratio [ หรือ ] : 0.37 [ 95%CI , 0.28 และ 0.49 , p < 0.001 ; สเปน : หรือ : 1 [ 95% CI 0.73 0.49 ) ] , p < 0.001 ) โรคอ้วนและเบาหวานถูกเชื่อมโยงอย่างยิ่งกับประวัติของนิ่วในไตในรุ่น multivariable . การออกแบบเชิงสำรวจภาคตัดขวาง จำกัด การอนุมานสาเหตุด้านปัจจัยความเสี่ยงที่มีศักยภาพสำหรับนิ่วในไต