AbstractThis study investigated the

Abstract
This study investigated the effects of caffeine supplementation on thermoregulation and body fluid balance during prolonged exercise in a thermoneutral environment (25 degrees C, 50% RH). Seven trained male subjects exercised on a treadmill at an intensity of 70-75% of maximal oxygen consumption to self-determined exhaustion. Subjects exercised once after caffeine and once after placebo ingestion, given in a double-blind crossover design. Five milligrams per kilogram body weight of caffeine followed by 2.5 mg.kg-1 of caffeine were given 2 and 0.5 h before exercise, respectively. Rectal temperature was recorded and venous blood samples were withdrawn every 15 min. Water loss and sweat rate were calculated from the difference between pre- and post-exercise body weight, corrected for liquid intake. Following caffeine ingestion, when compared with placebo, no significant difference in final temperature or in percent change in plasma volume were found. No significant differences were observed in total water loss (1376 +/- 154 vs. 1141 +/- 158 mL, respectively), sweat rate (12.4 +/- 1.1 vs. 10.9 +/- 0.7 g.m-2.min-1, respectively), rise in rectal temperature (2.1 +/- 0.3 vs. 1.5 +/- 0.4 degrees C, respectively), nor in the calculated rate of heat storage during exercise (134.4 +/- 17.7 vs. 93.5 +/- 22.5 W, respectively). Thus, in spite of the expected rise in oxygen uptake, caffeine ingestion under the conditions of this study does not seem to disturb body fluid balance or affect thermoregulation during exercise performance.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อการศึกษานี้ตรวจสอบผลของคาเฟอีนแห้งเสริมในการปรับอุณหภูมิกายและของเหลวในร่างกายสมดุลในระหว่างออกกำลังกายเป็นเวลานานในสภาพแวดล้อม thermoneutral (25 องศา C, 50% RH) เจ็ดเรื่องชายฝึกใช้บน treadmill ที่ความเข้มข้น 70-75% ของปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุดกับจุดประสงค์ที่กำหนดด้วยตนเอง เรื่องใช้ครั้งเดียวหลัง จากคาเฟอีน และครั้ง หลัง กินยาหลอก ในแบบไขว้คู่คนตาบอด Milligrams ห้าต่อกิโลกรัมน้ำหนักของคาเฟอีนตาม ด้วย mg.kg 1 2.5 ของคาเฟอีนได้รับ 0.5 h ก่อนออกกำลังกาย และ 2 ตามลำดับ บันทึกอุณหภูมิไส้ และตัวอย่างเลือดดำถูกถอนทุก 15 นาทีน้ำอัตราการสูญเสียและเหงื่อได้คำนวณจากผลต่างระหว่างก่อน และหลังออกกำลังกายน้ำหนัก สำหรับบริโภคของเหลว ต่อกินคาเฟอีน เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอก ไม่สำคัญความแตกต่างอุณหภูมิสุดท้าย หรือเปลี่ยนเปอร์เซ็นต์ปริมาณพลาสมาพบ ไม่แตกต่างกันถูกสังเกตในการสูญเสียน้ำรวม (1376 +/-154 เทียบกับ 1141 +/-158 mL ตามลำดับ), เหงื่ออัตรา (12.4 +/-1.1 เทียบกับ 10.9 +/-0.7 g.m-2.min-1 ตามลำดับ), เพิ่มขึ้นอุณหภูมิไส้ (2.1 +/-0.3 เทียบกับ 1.5 +/-0.4 องศา C ตามลำดับ), หรือ ในอัตราที่คำนวณเก็บความร้อนในระหว่างการออกกำลังกาย (134.4 +/-17.7 เทียบกับ 93.5 +/-22.5 W ตามลำดับ) ดังนั้น ทั้ง ๆ ที่คาดเพิ่มขึ้นในการดูดซับออกซิเจน กินคาเฟอีนภายใต้เงื่อนไขของการศึกษานี้ไม่ดูเหมือน ไปรบกวนสมดุลของเหลวในร่างกายมีผลต่อการปรับอุณหภูมิกายในระหว่างการออกกำลังกายประสิทธิภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาผลกระทบของการเสริมคาเฟอีนในการควบคุมอุณหภูมิและความสมดุลของของเหลวในร่างกายระหว่างการออกกำลังกายเป็นเวลานานในสภาพแวดล้อมที่ thermoneutral (25 องศาเซลเซียส, 50% RH) เซเว่นผ่านการฝึกอบรมอาสาสมัครชายออกกำลังกายบนลู่วิ่งที่ระดับความเข้มของ 70-75% ของการใช้ออกซิเจนสูงสุดไปหมดพิจารณาตัวเอง วิชาที่ใช้สิทธิครั้งเดียวหลังจากที่คาเฟอีนและเมื่อหลังการกลืนกินยาหลอกได้รับในการออกแบบครอสโอเวอร์แบบ double-blind ห้ามิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวของคาเฟอีนตามด้วย 2.5 mg.kg-1 ของคาเฟอีนที่ได้รับที่ 2 และ 0.5 ชั่วโมงก่อนการใช้สิทธิตามลำดับ อุณหภูมิทางทวารหนักได้รับการบันทึกและเก็บตัวอย่างเลือดดำถูกถอนออกทุก 15 นาที การสูญเสียน้ำและอัตราเหงื่อจะถูกคำนวณจากความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังการออกกำลังกายน้ำหนักตัวแก้ไขสำหรับการบริโภคของเหลว ต่อไปนี้การบริโภคคาเฟอีนเมื่อเทียบกับยาหลอกไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในอุณหภูมิสุดท้ายหรือร้อยละการเปลี่ยนแปลงในปริมาณพลาสม่าของเขาถูกพบ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการสูญเสียน้ำทั้งหมด (1376 +/- 154 กับ 1141 +/- 158 มิลลิลิตรตามลำดับ) อัตราเหงื่อ (12.4 +/- 1.1 เทียบกับ 10.9 +/- 0.7 กรัม-2.min-1 ตามลำดับ) เพิ่มขึ้นในอุณหภูมิทางทวารหนัก (2.1 +/- 0.3 เทียบกับ 1.5 +/- 0.4 องศาเซลเซียสตามลำดับ) หรือในอัตราที่คำนวณการจัดเก็บความร้อนระหว่างการออกกำลังกาย (134.4 +/- 17.7 เทียบกับ 93.5 +/- 22.5 W ตามลำดับ) ดังนั้นในทั้งๆที่มีการเพิ่มขึ้นคาดว่าในการดูดซึมออกซิเจนการบริโภคคาเฟอีนภายใต้เงื่อนไขของการศึกษาครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่รบกวนสมดุลของร่างกายของเหลวหรือส่งผลกระทบต่อการควบคุมอุณหภูมิในระหว่างการทำงานการออกกำลังกาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

นามธรรม
งานวิจัยนี้ได้ศึกษาผลของคาเฟอีนที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและความสมดุลของของเหลวในร่างกายในขณะออกกำลังนานในสภาพแวดล้อม thermoneutral ( 25 องศา C 50 เปอร์เซ็นต์ ) คนชาย 7 ฝึกออกกำลังกายบนลู่วิ่งที่ความเข้มของ 70-75 % ของปริมาณการใช้ออกซิเจนสูงสุดที่ตนเองกำหนดซะอีกวิชาที่ใช้เมื่อหลังจากคาเฟอีนและ หลังจากรับประทานยาหลอกให้ในแบบครอสโอเวอร์ ดีไซน์ 5 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัว ตามด้วย 2.5 mg.kg-1 คาเฟอีนคาเฟอีนได้รับ 2 และ 0.5 ชั่วโมงก่อนการออกกำลังกาย ตามลำดับ บันทึกอุณหภูมิและตัวอย่างเลือดจากหลอดเลือดดำถูกถอนออกทุก 15 นาทีการสูญเสียน้ำและเหงื่อ ซึ่งคำนวณจากความแตกต่างระหว่างก่อนและหลังน้ำหนักตัว การออกกำลังกาย การแก้ไขสำหรับการบริโภคของเหลว ติดตามคาเฟอีนการบริโภคเมื่อเทียบกับยาหลอก ไม่มีความแตกต่างในอุณหภูมิสุดท้าย หรือร้อยละการเปลี่ยนของปริมาณเลือดที่พบ ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญที่พบในการสูญเสียน้ำทั้งหมด ( 742 / - 154 - 158 vs 806 / มิลลิลิตรตามลำดับ ) อัตราเหงื่อ ( 12.4 / - / - 0.7 g.m-2.min-1 1.1 และ 10.9 ตามลำดับ ) เพิ่มขึ้นในอุณหภูมิทวารหนัก ( 2.1 / - 0.3 และ 1.5 / - 0.4 องศาเซลเซียส ตามลำดับ และในการคำนวณอัตราที่เก็บความร้อนในระหว่างการออกกำลังกาย ( 134.4 / - 17.7 กับ 11 / - 22.5 W ) ตามลำดับ . ดังนั้น แม้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในการใช้ออกซิเจนคาเฟอีนการบริโภคภายใต้เงื่อนไขของการศึกษานี้ไม่ได้ดูเหมือนจะรบกวนสมดุลของเหลวในร่างกาย หรือมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในระหว่างการปฏิบัติ ออกกำลังกาย