IntroductionRetention is a continuo

Introduction
Retention is a continuous, widespread concern of colleges and universities worldwide. A high rate of attrition can hurt an institution’s bottom line. The growth, sustenance, and ultimate survival of these institutions are determined by having a higher number of new enrollees and persisting students over the number of dropouts and stopouts. Exactly how to maintain that sustainable ratio continues to baffle academics and administrators alike. While there have been many suggested approaches, Tinto’s theory is perhaps most commonly referred to. Having its origins from Durkheim’s theory of suicide, Tinto’s Social Integration Theory proposed that a student’s persistence in a certain educational institution is determined by two main factors: academic integration and social integration. For faculty administrators, this suggests that their retention efforts place much of their focus on the two factors mentioned above.
Any long-term study of student retention—and attrition—would require many preceding steps to be taken. One of these consists of determining the students’ satisfaction with the institution. In their study of Tinto’s theory, Liu and Liu (2000) have shown satisfaction to be a major determinant of student persistence. It may be considered an integral part of any retention campaign to measure satisfaction.

This goes without saying that satisfaction is not the only factor that predicts retention, and since retention is the ultimate goal, other factors such as individual student competency, student-faculty relationships, and family/financial support also have to be looked into. For this study, attention is focused on the level of satisfaction among students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำคงเป็นปัญหาต่อเนื่อง แพร่หลายของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วโลก Attrition อัตราสูงสามารถทำร้ายสถาบันที่บรรทัดด้านล่าง เจริญเติบโต บวงสรวง การอยู่รอดที่ดีที่สุดของสถาบันเหล่านี้ถูกกำหนด โดยมีจำนวนสิทธิ์ใหม่สูง และ persisting นักเรียนจำนวนตกและ stopouts ว่าวิธีการรักษาอัตราส่วนที่ยั่งยืนยัง baffle นักวิชาการและผู้ดูแลที่เหมือนกัน ในขณะที่มีหลายแนวทางแนะนำ ทฤษฎีของ Tinto บางทีมักเรียกว่า มีกำเนิดจากทฤษฎีของ Durkheim ฆ่าตัวตาย Tinto ของสังคมรวมทฤษฎีเสนอว่า การคงอยู่ของนักศึกษาในสถาบันการศึกษาที่แน่นอนจะถูกกำหนด โดยปัจจัยหลักสอง: รวมทางวิชาการและทางสังคม สำหรับคณะผู้ดูแล นี้ชี้ให้เห็นว่า ความพยายามของพวกเขาคงทำมากของการโฟกัสในปัจจัยทั้งสองดังกล่าวข้างต้นการศึกษาระยะยาวของนักเรียน — และ attrition — ต้องหลายขั้นตอนก่อนหน้านี้จะต้องดำเนินการ หนึ่งประกอบด้วยกำหนดความพึงพอใจของนักศึกษากับสถาบัน ในการศึกษาทฤษฎีของ Tinto หลิวและหลิว (2000) ได้แสดงความพึงพอใจให้ ดีเทอร์มิแนนต์หลักของนักเรียนมีอยู่ ก็อาจถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการรักษาใด ๆ การวัดความพึงพอใจ นี้ไปโดยไม่บอกว่า ความพึงพอใจไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำนายคง และคงเป็น เป้าหมายสูงสุด ปัจจัยอื่น ๆ เช่นความสามารถของนักเรียนแต่ละ ความสัมพันธ์ของนักศึกษาคณะ และสนับสนุนครอบครัว/การเงินยังต้องค้นหาใน สำหรับการศึกษานี้ สนใจเป็นไปเน้นระดับความพึงพอใจในหมู่นักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
การเก็บรักษาเป็นอย่างต่อเนื่องความกังวลอย่างกว้างขวางของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วโลก อัตราที่สูงของการขัดสีสามารถทำร้ายบรรทัดล่างของสถาบันการศึกษา การเจริญเติบโตของการดำรงชีวิตและความอยู่รอดที่ดีที่สุดของสถาบันเหล่านี้จะถูกกำหนดโดยมีจำนวนที่สูงขึ้นของ enrollees ใหม่และ persisting นักเรียนมากกว่าจำนวน dropouts และ stopouts ว่าวิธีการรักษาว่าอัตราส่วนที่ยั่งยืนยังคงทำให้ยุ่งเหยิงนักวิชาการและผู้บริหารเหมือนกัน ขณะที่มีการแนะนำวิธีการหลายทฤษฎี Tinto ของอาจจะเป็นส่วนใหญ่เรียกกันทั่วไปว่า มีต้นกำเนิดจากทฤษฎี Durkheim ของการฆ่าตัวตาย Tinto ทฤษฎีสังคมบูรณาการเสนอว่าการคงอยู่ของนักเรียนในสถาบันการศึกษาบางอย่างจะถูกกำหนดโดยสองปัจจัยหลัก: บูรณาการวิชาการและบูรณาการทางสังคม สำหรับผู้บริหารคณาจารย์นี้แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามของพวกเขาเก็บรักษาวางมากของการโฟกัสของพวกเขาในสองปัจจัยดังกล่าวข้างต้น.
ใด ๆ การศึกษาในระยะยาวของนักเรียนการเก็บรักษาและการขัดสีจะต้องมีขั้นตอนก่อนหน้าจำนวนมากจะต้องดำเนินการ หนึ่งในจำนวนนี้ประกอบด้วยการพิจารณาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีสถาบันการศึกษา ในการศึกษาของพวกเขาของทฤษฎี Tinto ของหลิวและหลิว (2000) ได้แสดงความพึงพอใจที่จะเป็นปัจจัยสำคัญของการคงอยู่ของนักเรียน มันอาจจะได้รับการพิจารณาเป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์การเก็บรักษาใด ๆ ในการวัดความพึงพอใจ. นี้ไปโดยไม่บอกว่าความพึงพอใจไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่ทำนายการเก็บรักษาและตั้งแต่การเก็บรักษาเป็นเป้าหมายสูงสุด, ปัจจัยอื่น ๆ เช่นความสามารถนักเรียนเป็นรายบุคคลและความสัมพันธ์ของนักศึกษาคณะ และครอบครัว / การสนับสนุนทางการเงินนอกจากนี้ยังจะต้องมีการมองเข้าไปใน สำหรับการศึกษาครั้งนี้จะเน้นความสนใจในระดับของความพึงพอใจในหมู่นักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ความคงทนเป็นอย่างต่อเนื่อง ปัญหาแพร่หลายของวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยทั่วโลก อัตราที่สูงของการทำอันตราย บรรทัดล่าง ของสถาบัน การเจริญเติบโต , อาหาร , การอยู่รอดและสูงสุดของสถาบันเหล่านี้จะกำหนดโดยมีตัวเลขที่สูงขึ้นของ enrollees ใหม่และ persisting นักเรียนกว่าจำนวน dropouts และ stopouts .ว่าวิธีการรักษาที่ยั่งยืนอัตราส่วนยังคงยุ่งเหยิงนักวิชาการและผู้บริหารเหมือนกัน ในขณะที่มีการเสนอแนวทางหลาย ทฤษฎีแรงเป็นบางทีมักเรียกว่า . มีต้นกำเนิดจากเดิร์กไฮม์ทฤษฎีการฆ่าตัวตายตินของบูรณาการทางสังคมทฤษฎีเสนอว่า การคงอยู่ของนักเรียนในบางสถาบันการศึกษาจะพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลัก : บูรณาการวิชาการและสังคมบูรณาการ สำหรับผู้บริหารคณะนี้ ชี้ให้เห็นว่า ความพยายามของพวกเขาในสถานที่มากของการโฟกัสของตนบนสองปัจจัยที่กล่าวข้างต้น .
ระยะยาวการศึกษานักศึกษาจะต้องมีหลายขั้นตอนก่อนการเกิด หนึ่งเหล่านี้ประกอบด้วยการกำหนดความพึงพอใจของนักศึกษากับสถาบัน ในการศึกษาทฤษฎี Tinto , หลิว และ หลิว ( 2000 ) ได้แสดงความพอใจที่จะเป็นปัจจัยสําคัญของการคงอยู่ของนักเรียนมันอาจจะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญการใด ๆเพื่อวัดความพึงพอใจ

นี้ไปโดยไม่บอกว่า ความพึงพอใจไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่คาดการณ์ ความคงทน และเนื่องจากการเป็นเป้าหมายสูงสุด ปัจจัยอื่น ๆเช่นสมรรถนะนักศึกษาเป็นรายบุคคล ความสัมพันธ์ คณะนักเรียน และสนับสนุนทางการเงินของครอบครัวยังต้องมองเข้าไปใน ในการศึกษานี้ความสนใจมุ่งเน้นความพึงพอใจของนักศึกษา