Aims and objectives. To prospective

Aims and objectives. To prospectively evaluate the effects of a nurse-led educational intervention on the management of hyperphosphataemia
as well as knowledge of phosphate among patients with end-stage renal disease.
Background. Haemodialysis and phosphate binder therapy are the major methods used to reduce the phosphate level in
dialysis patients. However, patient education related to hyperphosphataemia, diet and phosphate binders may be another
important factor associated with the success of the control of the hyperphosphataemia.
Design. This prospective randomised controlled trial was conducted during the period from June 2009–March 2011 at the
HD units of two hospitals in Tianjin, China.
Methods. A total of 80 participants were randomly assigned to experimental group (n = 40) and control group (n = 40).
Participants in the experimental group received the nurse-led intensive educational programme, including individualised
education and educational session about diet and medicine regimes, etc., while participants in the control group received the
routine guidance.
Results. There were statistically significant differences between the study groups in decline in serum phosphorus and calcium–
phosphorus product levels and improvement in patients’ general knowledge three months postintervention, and these differences
sustained until the end of the study. Increased serum calcium level was observed both in the experimental group and in
the control group, but there was no significant difference between groups. No statistical significance was found regarding
serum albumin level between the groups. No significant difference in the serum parathyroid hormone level was found between
the groups by month 6.
Conclusions. Nurse-led intensive educational programme plays an important role in the control of hyperphosphataemia
among patients with end-stage renal disease.
Relevance to clinical practice. Chronic kidney failure patients with hyperphosphataemia are more likely to benefit from
nurse-led intensive educational programmes.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินผลกระทบทันทีของการแทรกแซงการศึกษาพยาบาลนำในการบริหารจัดการของฟอสฟอรัสมากเกินไป
เช่นเดียวกับความรู้ของฟอสเฟตในผู้ป่วยที่มีระยะสุดท้ายโรคไตวายเรื้อรัง.
พื้นหลัง ล้างไตและการรักษาด้วยสารยึดเกาะฟอสเฟตเป็นวิธีการที่สำคัญที่ใช้ในการลดระดับฟอสเฟตใน
ผู้ป่วยล้างไต อย่างไรก็ตามการศึกษาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการรับประทานอาหารที่มีฟอสฟอรัสมากเกินไปและสารฟอสเฟตอาจเป็นอีก
ปัจจัยที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จของการควบคุมของฟอสฟอรัสมากเกินไป.
การออกแบบ ทดลองควบคุมแบบสุ่มในอนาคตนี้ได้ดำเนินการในช่วงระยะเวลาตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2009- มีนาคม 2011 ที่
หน่วย HD ของทั้งสองโรงพยาบาลในเทียนจินประเทศจีน.
วิธี ทั้งหมด 80 ผู้เข้าร่วมถูกสุ่มให้กลุ่มทดลอง (n = 40) และกลุ่มควบคุม (n = 40).
ผู้เข้าร่วมในกลุ่มทดลองได้รับอย่างเข้มข้นพยาบาลนำโปรแกรมการศึกษารวมทั้งเป็นรายบุคคล
การศึกษาและการเซสชั่นการศึกษาเกี่ยวกับความเข้มข้นของอาหารและยารักษาโรค ฯลฯ ในขณะที่ผู้เข้าร่วมในกลุ่มควบคุมที่ได้รับ
การแนะนำประจำ.
ผล มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระหว่างกลุ่มการศึกษาในการลดลงในซีรั่มและฟอสฟอรัส calcium-
สินค้าระดับฟอสฟอรัสและการปรับปรุงในผู้ป่วยความรู้ทั่วไปสามเดือน postintervention และความแตกต่างเหล่านี้
ไว้จนกว่าจะสิ้นสุดของการศึกษา เซรั่มเพิ่มระดับแคลเซียมพบว่าทั้งในกลุ่มทดลองและ
กลุ่มควบคุม แต่ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญระหว่างกลุ่ม ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติก็พบเกี่ยวกับ
ระดับอัลบูมิซีรั่มระหว่างกลุ่ม ไม่มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในระดับฮอร์โมนซีรั่มถูกพบระหว่าง
กลุ่มโดย 6.
สรุปผลการวิจัย หลักสูตรเร่งรัดพยาบาลนำการศึกษามีบทบาทสำคัญในการควบคุมของฟอสฟอรัสมากเกินไป
ในผู้ป่วยที่มีระยะสุดท้ายโรคไตวายเรื้อรัง.
ความสัมพันธ์กันกับการปฏิบัติทางคลินิก ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังที่มีฟอสฟอรัสมากเกินไปมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จาก
โปรแกรมการศึกษาอย่างเข้มข้นพยาบาลนำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์ เพื่อการประเมินผลของพยาบาลทำให้การแทรกแซงทางการศึกษาในการจัดการ hyperphosphataemia
รวมทั้งความรู้ของฟอสเฟตในผู้ป่วยที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย .
พื้นหลัง การฟอกเลือด และบำบัดสารยึดเกาะฟอสเฟตเป็นหลักวิธีที่ใช้เพื่อลดระดับฟอสเฟตใน
ผู้ป่วยฟอกเลือด อย่างไรก็ตามการศึกษาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับ hyperphosphataemia , อาหารและสารฟอสเฟต อาจเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับ
ความสำเร็จของการควบคุมของ hyperphosphataemia .
ออกแบบ นี้สามารถคาดหวังที่ควบคุมการทดลองใช้ในระหว่างเดือนมิถุนายน 2552 –มีนาคม 2011 ที่
HD หน่วยสองโรงพยาบาลในเทียนจิน , จีน
วิธีทั้งหมด 80 คนสุ่มเป็นกลุ่มทดลอง ( n = 40 ) และกลุ่มควบคุม ( N = 40 ) .
ผู้เข้าร่วมในกลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมการศึกษาพยาบาล LED อย่างเข้มข้น รวมทั้ง individualised
การศึกษาและการศึกษาเกี่ยวกับอาหาร และ ยา อาหาร เซสชั่น ฯลฯ ในขณะที่ผู้เข้าร่วมในกลุ่มควบคุมได้รับ
แนะแนว ตามปกติ
ผลลัพธ์มีความแตกต่างกันระหว่างกลุ่มประชากรลดลงในซีรั่มฟอสฟอรัสและแคลเซียมและฟอสฟอรัสผลิตภัณฑ์ระดับ
และการปรับปรุงในผู้ป่วย ความรู้ทั่วไป สามเดือน postintervention และความแตกต่างเหล่านี้
ยั่งยืนจนกว่าจะจบการศึกษา เซรั่มเพิ่มระดับแคลเซียมพบทั้งในกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมใน
,แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างกลุ่ม ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ พบว่า ระดับอัลบูมินในเลือด
ระหว่างกลุ่ม ไม่มีความแตกต่างในซีรั่มพาราไทรอยด์ฮอร์โมนที่พบระหว่างกลุ่มโดยเดือน 6
.
สรุป พยาบาลนำเข้มข้นโปรแกรมการศึกษามีบทบาทสำคัญในการควบคุม hyperphosphataemia
ในผู้ป่วยที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย .
ความเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติทางคลินิก ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังด้วย hyperphosphataemia มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากโปรแกรมการศึกษาพยาบาล
LED เข้มข้น