Milton's eyesight had been steadily

Milton's eyesight had been steadily declining for years, most likely the result of untreated glaucoma. By February 1652, he had gone completely blind. At a time before Braille, recorded books or any of the technologies that assist visually impaired people today, blindness was like an intellectual death sentence. Milton was determined not to let that happen. He dictated his business correspondence to a transcriber for as long as he could, and insisted that his daughters read to him. Milton composed a poem to explain his feelings.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สายตาของมิลตันได้รับลดลงเรื่อย ๆ ปี มากที่สุดผลการบำบัดโรคต้อหิน โดย 1652 รายการกุมภาพันธ์ เขาได้ไปตาบอดสนิท เมื่อก่อนอักษรเบรลล์ สมุดบันทึกหรือในเทคโนโลยีที่ช่วยคนพิการสายตาวันนี้ ตาบอดเป็นเหมือนประโยคตายทางปัญญา มิลตันถูกกำหนดไม่ให้ปัญหาที่เกิดขึ้น เขาบอกของเขาจดหมายธุรกิจไปที่ transcriber สำหรับตราบเท่าที่เขาสามารถที่ และยืนยันว่า ที่ ลูกสาวของเขาอ่านเขา มิประกอบด้วยบทกวีเพื่ออธิบายความรู้สึกของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สายตาของมิลตันได้รับการลดลงเรื่อย ๆ มานานหลายปีมากที่สุดน่าจะเป็นผลของโรคต้อหินรับการรักษา โดยกุมภาพันธ์ 1652 เขาได้หายไปอย่างสมบูรณ์ตาบอด ในช่วงเวลาก่อนที่จะอักษรเบรลล์ที่บันทึกหนังสือหรือใด ๆ ของเทคโนโลยีที่ช่วยให้คนพิการทางสายตาในวันนี้ตาบอดเป็นเหมือนประหารชีวิตทางปัญญา มิลตันก็ตัดสินใจที่จะไม่ให้มันเกิดขึ้น เขาบอกจดหมายโต้ตอบทางธุรกิจของเขาที่จะ Transcriber ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้และยืนยันว่าลูกสาวของเขาอ่านให้เขา มิลตันประกอบด้วยบทกวีที่จะอธิบายความรู้สึกของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สายตาของมิลตันได้รับอย่างต่อเนื่องลดลงสำหรับปี มากที่สุด ผลของชนิดสาร ในเดือนกุมภาพันธ์ที่เขาได้ไปตาบอดสนิท ครั้งก่อนอักษรเบรลล์ หนังสือที่บันทึกหรือใด ๆของเทคโนโลยีที่ช่วยให้ผู้พิการทางสายตาในวันนี้ ตาบอด เป็นเหมือนประโยคตายทางปัญญา มิลตัน ตั้งใจจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้น เค้าบอก การติดต่อทางธุรกิจของเขาจะเป็นผู้แก้ไขดัดแปลงสำหรับตราบเท่าที่เขาสามารถ และยืนยันว่าลูกสาวของเขาอ่านให้เขา มิลตัน แต่งบทกวีที่จะอธิบายถึงความรู้สึกของเขา