Palm Oil Quality during RefiningCru

Palm Oil Quality during Refining
Crude palm oil is refined to clean up the oil for edible purposes as well as for aesthetic acceptance by consumers who require a bland and light colored oil. Palm oil can be refined either by the chemical or physical refining process. The difference between the two processes is that the acid neutralization step is omitted in the physical refining process as compared to the chemical refining process. The free fatty acids are removed by the deodorization step in the physical refining process. Chemical refining is carried out at a lower temperature than the physical refining process and the residence time is also shorter. This would imply that there is a larger destruction of tocopherols and tocotrienols in the latter process. It also has a bigger chance of oxidative damage should there be an air leakage during the process. The higher processing temperature would lower the storage stability of the oil (Gapor & Berger, 1982; Loncin & Jacobsberg, 1963). In physical refining, it is important to eliminate phosphorus as much as possible during degumming and to prevent phosphoric acid slip-through, as this would affect the efficiency of heat bleaching later on in the process. Time-temperature effect is stronger in physical refining, as evidenced by the higher temperature used in the process and the longer residence time.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

คุณภาพปาล์มน้ำมันระหว่างโรงกลั่นน้ำมันปาล์มบริสุทธิ์เพื่อล้างน้ำมันเพื่อกินเป็นอย่างดีสำหรับความงามยอมรับโดยผู้บริโภคที่ต้องการสูง และสีน้ำมันสีได้ น้ำมันปาล์มได้รับอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยสารเคมี หรือทางกายภาพกระบวนการกลั่น ความแตกต่างระหว่างกระบวนการสองคือ ว่า ละเว้นขั้นตอนปฏิกิริยาสะเทินกรดในกระบวนการกลั่นทางกายภาพเมื่อเทียบกับสารเคมีปรับกระบวนการ กรดไขมันอิสระจะถูกเอาออก โดยการกำจัดกลิ่นนั้นขั้นตอนในกระบวนการกลั่นทางกายภาพ กลั่นเคมีดำเนินที่อุณหภูมิต่ำกว่ากระบวนการกลั่นทางกายภาพ และเวลาเรสซิเดนซ์ยังมีสั้น นี้จะมีทำลายใหญ่ของ tocopherols และ tocotrienols ในกระบวนการหลังที่คุณสามารถเป็นสิทธิ์แบบ มีโอกาสเสียหาย oxidative ใหญ่จะมีการรั่วไหลของอากาศระหว่าง ประมวลผลอุณหภูมิสูงขึ้นจะลดความเสถียรเก็บน้ำมัน (Gapor และเบอร์เกอร์ 1982 Loncin & Jacobsberg, 1963) ในโรงกลั่นจริง มันเป็นสิ่งสำคัญใน การกำจัดฟอสฟอรัสมากที่สุดในระหว่างการเอายางออก และ เพื่อป้องกันไม่ให้กรดฟอสฟอริกจัดส่งผ่าน นี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพของการฟอกสีในภายหลังในกระบวนการความร้อน เวลาอุณหภูมิผลจะแข็งแกร่งในโรงกลั่นจริง เป็นเป็นหลักฐาน โดยอุณหภูมิสูงที่ใช้ในการพำนักนาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำมันปาล์มที่มีคุณภาพในช่วงการกลั่น
น้ำมันปาล์มดิบคือการกลั่นในการทำความสะอาดน้ำมันสำหรับวัตถุประสงค์ในการกินได้เช่นเดียวกับการได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคความงามที่ต้องการน้ำมันอ่อนโยนและสีอ่อน น้ำมันปาล์มสามารถกลั่นทั้งโดยกระบวนการกลั่นสารเคมีหรือทางกายภาพ ความแตกต่างระหว่างทั้งสองกระบวนการคือว่าขั้นตอนการวางตัวเป็นกลางของกรดถูกละไว้ในกระบวนการกลั่นทางกายภาพเมื่อเทียบกับกระบวนการกลั่นสารเคมี กรดไขมันอิสระจะถูกลบออกโดยขั้นตอนการกำจัดกลิ่นในกระบวนการกลั่นทางกายภาพ กลั่นเคมีจะดำเนินการที่อุณหภูมิต่ำกว่ากระบวนการกลั่นทางกายภาพและเวลาที่อยู่อาศัยยังเป็นที่สั้นกว่า ซึ่งจะบ่งบอกว่ามีการทำลายล้างขนาดใหญ่ของ tocopherols และ tocotrienols ในกระบวนการหลัง นอกจากนี้ยังมีโอกาสใหญ่ของความเสียหายออกซิเดชันควรจะมีการรั่วไหลของอากาศในระหว่างกระบวนการ อุณหภูมิในการประมวลผลที่สูงขึ้นจะลดการเก็บรักษาน้ำมัน (Gapor และเบอร์เกอร์, 1982; Loncin & Jacobsberg 1963) ในการกลั่นทางกายภาพมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำจัดฟอสฟอรัสมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในระหว่างการลอกกาวและเพื่อป้องกันไม่ให้กรดฟอสฟอรัสลื่นผ่านเช่นนี้จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการฟอกความร้อนในภายหลังในกระบวนการ ผลกระทบเวลาที่อุณหภูมิจะแข็งแกร่งในการกลั่นทางกายภาพเป็นหลักฐานโดยอุณหภูมิสูงที่ใช้ในกระบวนการและเวลาที่อยู่อาศัยอีกต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ปาล์มน้ํามันคุณภาพในระหว่างการกลั่นบริสุทธิ์น้ำมันปาล์มดิบ
คือทำความสะอาดน้ำมันเพื่อบริโภค ตลอดจนในการยอมรับโดยผู้บริโภคที่ต้องอ่อนไหว และแสงสีน้ำมัน ปาล์มน้ำมันสามารถกลั่นให้โดยกระบวนการทางเคมี หรือจากทางกายภาพความแตกต่างระหว่างสองกระบวนการคือกรดสะเทินขั้นตอนจะถูกตัดออกในกระบวนการกลั่นทางกายภาพเมื่อเทียบกับสารเคมีจากกระบวนการ ส่วนกรดไขมันอิสระจะถูกเอาออกโดยการขจัดกลิ่น ขั้นตอนในกระบวนการกลั่นทางกายภาพ การกลั่นสารเคมีจะดำเนินการที่อุณหภูมิต่ำกว่ากระบวนการกลั่นทางกายภาพและระยะเวลาก็สั้นลงนี้จะบ่งบอกว่ามีขนาดใหญ่ทำลายโทโคฟีรอลและโทโคไทรอีนในกระบวนการหลัง มันยังมีโอกาสที่ใหญ่กว่าของความเสียหายออกซิเดชันควรจะมีการรั่วไหลของอากาศในระหว่างกระบวนการ การประมวลผลสูงอุณหภูมิจะลดกระเป๋าเสถียรภาพของน้ำมัน ( gapor & Berger , 1982 ; Loncin & jacobsberg , 1963 ) ในการกลั่นทางกายภาพมันเป็นสิ่งสำคัญที่จะกำจัดฟอสฟอรัสมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ในการลอกกาว และเพื่อป้องกัน กรดฟอสฟอริค ใบผ่าน นี้จะมีผลต่อประสิทธิภาพของความร้อนการฟอกสีในภายหลังในกระบวนการ ผลของอุณหภูมิเวลาที่แข็งแกร่งในการกลั่นทางกายภาพเป็น evidenced โดยสูงกว่าอุณหภูมิที่ใช้ในกระบวนการ และยิ่งเวลาที่อยู่ .