2. HACCP, current EU regulations, a

2. HACCP, current EU regulations, and QMRA
Hazard Analysis and Critical Control Point (HACCP) concept was first developed in the 1960s by NASA (Untermann, 1999). It was designed to prevent microbial, physical and chemical hazards in food for the space missions. Today HACCP is an internationally recognized system (set of guidelines) and is widely used for safe food production. Successful HACCP system manifests that it is applied along the complete food SC. When properly applied it ensures consistent food safety levels.
The new food law in EU, Regulation 178/2002 (Regulation (EC) No 178/2002 of the European Parliament and of the Council of 28 January2002) that was applied from 1st January 2005 states that food companies have the primary responsibility for safe food production. As implemented from 1st January 2006, the new food hygiene lawRegulation 852/2004 (Regulation (EC) No 852/2004 of the European Parliament and of the Council of 29 April 2004) requires all food companies in all member states (except farms) to operate food safety programmes based on the seven HACCP principles contained in the Codex Alimentarius.
The introduction of HACCP rises to the issue of national and international equivalence of implemented HACCP in food SCs. At the national level there is a need for competent authority who would validate the implemented HACCP. At the international level it is necessary to determine the equivalence of HACCP procedures implemented in different countries. It is not clear whether the current regulations can provide assurance of equivalence on international level, which in most cases means that compliance for export based solely on home regulations cannot be established.
Though QMRA is the necessary step needed to inform and properly conduct the hazard analysis step of HACCP and to identify adequate control mechanisms for the critical control points (e.g., Notermans and Mead, 1996 and Tuominen et al., 2003), HACCP itself is a qualitative approach. There are suggestions that HACCP in the future should evolve in such a way to incorporate also the Quantitative Microbial Risk Assessment (QMRA) (McMeekin et al., 2006 and Notermans and Mead, 1996). It has been pointed out that qualitative risk assessment cannot address the process’s inherent variability in any meaningful manner (Buchanan & Whiting, 1998). Since QMRA is a quantitative approach, a synthesis of both approaches should produce a food safety system which will be able to offer higher reliability. One of the aspects where QMRA can clearly help HACCP is that it can provide quantitative estimates of the risk in the critical control points taking into account the variability of the parameters in the food SC. It is also possible that HACCP integrated with QMRA will be easier to compare for equivalence world-wide, due to the added quantitative dimension. If the QMRA is implemented in practice, the determination of equivalence between very different systems could become more straightforward.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

2. HACCP กฎระเบียบ EU ปัจจุบัน และ QMRAแนวคิดการวิเคราะห์อันตรายและจุดควบคุมวิกฤต (HACCP) ก่อนถูกพัฒนาในปี 1960 โดยองค์การนาซ่า (Untermann, 1999) มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันอันตรายจากจุลินทรีย์ ทางกายภาพ และทางเคมีในอาหารสำหรับภารกิจอวกาศ ปัจจุบัน HACCP เป็นระบบยอมรับในระดับสากล (ชุดทางการ) และใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการผลิตอาหารปลอดภัย ระบบ HACCP ที่ประสบความสำเร็จก็ปรากฏมีใช้ตามอาหารสมบูรณ์ SC. เมื่อใช้อย่างถูกต้องได้อย่างระดับความปลอดภัยของอาหารที่สอดคล้องกันกฎหมายอาหารใหม่ในยุโรป ระเบียบ 178/2002 (ระเบียบ (EC) No 178/2002 สภายุโรป และคณะ 28 January2002) ที่นำมาใช้ตั้งแต่ 1 มกราคมปี 2548 ระบุว่า อาหารบริษัทมีความรับผิดชอบหลักสำหรับการผลิตอาหารปลอดภัย ที่ดำเนินการจาก 1 2006 มกราคม ใหม่อาหารสุขอนามัย lawRegulation 852/2004 (ระเบียบ (EC) No 852/2004 ของ รัฐสภายุโรป และคณะ 29 2004 เมษายน) ต้องบริษัทอาหารทั้งหมดในรัฐสมาชิกทั้งหมด (ยกเว้นฟาร์ม) เพื่อดำเนินโครงการความปลอดภัยอาหารตาม HACCP หลักเจ็ดใน Alimentarius ตซูบิชิแนะนำ HACCP ขึ้นกับปัญหาของประเทศ และระหว่างประเทศเทียบเท่าของ HACCP ดำเนินในอาหารอันคุ้มค่า ระดับชาติ มีความจำเป็นสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่จะตรวจสอบ HACCP ดำเนินการ ระดับนานาชาติ ได้พยายามเทียบเท่าของ HACCP ขั้นตอนดำเนินการในต่างประเทศ ไม่ชัดเจนว่าระเบียบปัจจุบันสามารถให้ประกันของเทียบเท่าในระดับนานาชาติ ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่ไม่สามารถสร้างกฎระเบียบที่ส่งออกตามระเบียบภายในบ้านแม้ว่า QMRA เป็นขั้นตอนจำเป็นต้องแจ้งให้ทราบ และดำเนินขั้นตอนการวิเคราะห์อันตรายของ HACCP ได้อย่างถูกต้อง และระบุกลไกการควบคุมที่เพียงพอสำหรับจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (เช่น Notermans และทุ่ง หญ้า 1996 และ Tuominen และ al., 2003), HACCP เองเป็นวิธีการเชิงคุณภาพ มีข้อเสนอแนะว่า HACCP ในอนาคตควรพัฒนาในลักษณะการรวมเชิงปริมาณจุลินทรีย์ความเสี่ยงประเมิน (QMRA) (McMeekin และ al., 2006 และ Notermans และ มีด 1996) นอกจากนี้ จะมีการชี้ให้เห็นว่า การประเมินความเสี่ยงเชิงคุณภาพไม่สามารถความแปรผันโดยธรรมชาติของกระบวนการอย่างมีความหมายใด ๆ (buchanan ทำยอดและ Whiting, 1998) เนื่องจาก QMRA เป็นวิธีการเชิงปริมาณ การสังเคราะห์วิธีทั้งควรสร้างระบบความปลอดภัยอาหารซึ่งจะสามารถนำเสนอความน่าเชื่อถือสูง ด้านที่ QMRA สามารถช่วย HACCP อย่างชัดเจนคือให้ประเมินเชิงปริมาณของความเสี่ยงในจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมที่คำนึงถึงความแปรผันของพารามิเตอร์ในอาหาร SC. ก็ยังเป็นไปได้ว่า HACCP รวมกับ QMRA จะได้ง่ายต่อการเปรียบเทียบสำหรับเทียบเท่าโลก เนื่องจากเพิ่มมิติเชิงปริมาณ ถ้า QMRA ที่ใช้ในการปฏิบัติ กำหนดเทียบเท่าระหว่างระบบที่แตกต่างกันมากอาจเป็นตรงไปตรงมามากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

2. HACCP, กฎระเบียบในปัจจุบันสหภาพยุโรปและ QMRA
การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (HACCP) แนวคิดการพัฒนาครั้งแรกในปี 1960 โดยองค์การนาซ่า (Untermann, 1999) มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้จุลินทรีย์อันตรายทางกายภาพและเคมีในอาหารสำหรับภารกิจอวกาศ HACCP วันนี้เป็นระบบที่ยอมรับในระดับสากล (ชุดของแนวทาง) และใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตอาหารที่ปลอดภัย ที่ประสบความสำเร็จของระบบ HACCP ปรากฏว่ามันถูกนำไปใช้พร้อมอาหาร SC สมบูรณ์ เมื่อนำมาใช้อย่างถูกต้องจะตรวจสอบระดับความปลอดภัยของอาหารที่สอดคล้องกัน.
กฎหมายอาหารใหม่ในสหภาพยุโรปกฎระเบียบ 178/2002 (Regulation (EC) No 178/2002 ของรัฐสภายุโรปและของสภา 28 January2002) ที่ถูกนำมาใช้จาก 1 มกราคม 2005 รัฐ บริษัท ผู้ผลิตอาหารที่มีความรับผิดชอบหลักในการผลิตอาหารที่ปลอดภัย ในฐานะที่นำมาใช้ตั้งแต่ 1 มกราคม 2006, สุขอนามัยอาหารใหม่ lawRegulation 852/2004 (Regulation (EC) No 852/2004 ของรัฐสภายุโรปและคณะมนตรีที่ 29 เมษายน 2004) กำหนดให้ บริษัท ผู้ผลิตอาหารในประเทศสมาชิกทั้งหมด (ยกเว้นฟาร์ม) เพื่อ ดำเนินการโปรแกรมความปลอดภัยของอาหารบนพื้นฐานของหลักการ HACCP เจ็ดที่มีอยู่ใน Codex Alimentarius.
การแนะนำของ HACCP ขึ้นไปถึงปัญหาของความเท่าเทียมกันในระดับชาติและระหว่างประเทศของ HACCP มาใช้ในอาหาร SCs ในระดับชาติที่มีความจำเป็นสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจที่จะตรวจสอบการดำเนินการ HACCP ในระดับนานาชาติที่มีความจำเป็นต้องตรวจสอบความเท่าเทียมกันของขั้นตอนการดำเนินการ HACCP ในประเทศต่างๆ มันไม่ได้เป็นที่ชัดเจนไม่ว่าจะเป็นกฎระเบียบในปัจจุบันสามารถให้ความเชื่อมั่นของความเท่าเทียมกันในระดับระหว่างประเทศซึ่งในกรณีส่วนใหญ่หมายความว่าการปฏิบัติเพื่อการส่งออกเพียงลำพังบนพื้นฐานกฎระเบียบของบ้านไม่สามารถจัดตั้งขึ้น.
แม้ว่า QMRA เป็นขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อแจ้งและต้องดำเนินการวิเคราะห์อันตราย ขั้นตอนของ HACCP และเพื่อระบุกลไกการควบคุมที่เพียงพอสำหรับจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม (เช่น Notermans และทุ่งหญ้าปี 1996 และ Tuominen et al., 2003), HACCP ตัวเองเป็นเชิงคุณภาพ มีข้อเสนอแนะว่า HACCP ในอนาคตที่ควรพัฒนาในลักษณะที่จะรวมยังเป็นเชิงปริมาณจุลินทรีย์การประเมินความเสี่ยง (QMRA) (McMeekin et al., 2006 และ Notermans และทุ่งหญ้า 1996) มันได้รับการชี้ให้เห็นว่าการประเมินความเสี่ยงเชิงคุณภาพไม่สามารถอยู่โดยธรรมชาติแปรปรวนของกระบวนการในลักษณะที่มีความหมายใด ๆ (บูคานันและไวทิง 1998) ตั้งแต่ QMRA เป็นวิธีการเชิงปริมาณการสังเคราะห์ของวิธีการทั้งสองควรผลิตระบบความปลอดภัยของอาหารที่จะสามารถที่จะนำเสนอความน่าเชื่อถือสูง หนึ่งในแง่มุมที่ QMRA อย่างชัดเจนสามารถช่วย HACCP คือว่ามันสามารถให้ข้อมูลประมาณการเชิงปริมาณของความเสี่ยงในจุดวิกฤตที่ต้องควบคุมโดยคำนึงถึงความแปรปรวนของพารามิเตอร์ในอาหารที่เซาท์แคโรไลนา นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่า HACCP รวมกับ QMRA จะง่ายต่อการเปรียบเทียบสำหรับความเท่าเทียมกันทั่วโลกเนื่องจากการเพิ่มมิติเชิงปริมาณ หาก QMRA จะดำเนินการในทางปฏิบัติการตัดสินใจของความเท่าเทียมกันระหว่างระบบที่แตกต่างกันมากอาจจะกลายเป็นตรงไปตรงมามากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 . HACCP , กฎระเบียบของสหภาพยุโรปในปัจจุบัน และ qmra
การวิเคราะห์อันตรายและจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม ) เป็นแนวความคิดที่พัฒนาขึ้นครั้งแรกในทศวรรษที่ 1960 โดยนาซา ( untermann , 1999 ) มันถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันจุลินทรีย์ กายภาพ และอันตรายจากสารเคมีในอาหารสําหรับพื้นที่ภารกิจ วันนี้ HACCP เป็นระบบที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ( ชุดของแนวทาง ) และใช้กันอย่างแพร่หลายในการผลิตอาหารปลอดภัยระบบ HACCP ที่ประสบความสำเร็จแสดงว่ามันประยุกต์ตามสาขาวิชาอาหารเสร็จสมบูรณ์อย่างถูกต้องเมื่อใช้มันช่วยให้ระดับความปลอดภัยที่สอดคล้องกัน .
กฎหมายอาหารใหม่ในสหภาพยุโรประเบียบ 178 / 2002 ( ระเบียบ ( EC ) ไม่ 178 / 2002 ของรัฐสภายุโรปและสภา 28 january2002 ) ที่ประยุกต์จาก 1 มกราคม 2005 ระบุว่า บริษัทอาหารมีความรับผิดชอบหลักในการผลิตอาหารปลอดภัย เป็น ดำเนินการ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549ใหม่ด้านสุขอนามัยอาหาร lawregulation 852 / 2004 ( ระเบียบ ( EC ) ไม่มี 852 / 2004 ของรัฐสภายุโรปและสภา 29 เมษายน 2547 ) มีบริษัทอาหารทั้งหมดในประเทศสมาชิกทั้งหมด ( ยกเว้นฟาร์ม ) เพื่อใช้งานโปรแกรมความปลอดภัยอาหารตามเจ็ด HACCP หลักการที่มีอยู่ใน Codex Alimentarius .
ความรู้เบื้องต้นของระบบเพิ่มขึ้นถึงปัญหาของการใช้ระบบแห่งชาติใน SCS และอาหารนานาชาติ ในระดับชาติ ต้องมีความสามารถที่จะใช้อำนาจตรวจสอบ HACCP ในระดับระหว่างประเทศ มันเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตรวจสอบค่าของ HACCP ขั้นตอนดำเนินการในประเทศที่แตกต่างกันมันไม่ชัดเจนว่ากฎระเบียบปัจจุบันสามารถให้ความเชื่อมั่นของเทียบเท่าในระดับสากล ซึ่งส่วนใหญ่หมายความว่า คุณภาพส่งออก แต่เพียงผู้เดียวในกฎระเบียบของบ้านไม่สามารถ
ตั้งขึ้นแม้ว่า qmra เป็นขั้นตอนที่จำเป็นที่จำเป็นเพื่อแจ้งและดำเนินการขั้นตอนอย่างถูกต้องการวิเคราะห์อันตรายของ HACCP และระบุกลไกการควบคุมเพียงพอสำหรับจุดวิกฤตที่ต้องควบคุม ( เช่น notermans และทุ่งหญ้า , 1996 และ tuominen et al . , 2003 ) , HACCP ตัวเองเป็นวิธีการเชิงคุณภาพมีข้อเสนอแนะว่า HACCP ในอนาคต ควรพัฒนาในลักษณะรวมและปริมาณการประเมินความเสี่ยงจุลินทรีย์ ( qmra ) ( mcmeekin et al . , 2006 และ notermans และทุ่งหญ้า , 1996 ) จะได้รับการชี้ให้เห็นว่า การประเมินความเสี่ยงเชิงคุณภาพไม่สามารถที่อยู่ของกระบวนการซ่อนเร้นความแปรปรวนในลักษณะที่มีความหมายใด ๆ ( Buchanan & Whiting , 1998 )ตั้งแต่ qmra เป็นวิธีการเชิงปริมาณการสังเคราะห์ทั้งสองวิธีควรผลิตอาหารปลอดภัย ซึ่งระบบจะสามารถให้ความน่าเชื่อถือที่สูงขึ้น หนึ่งในแง่มุมที่ qmra อย่างชัดเจนสามารถช่วย HACCP คือมันสามารถให้ปริมาณการประเมินความเสี่ยงในการควบคุมจุดคับขันคำนึงถึงความผันแปรของตัวแปรในสาขาอาหารนอกจากนี้ยังเป็นไปได้ว่า HACCP รวมกับ qmra จะง่ายต่อการเปรียบเทียบเพื่อความเท่าเทียมของโลก เนื่องจากการเพิ่มปริมาณขนาด ถ้า qmra จะดําเนินการในการปฏิบัติ การกำหนดความสมดุลระหว่างระบบที่แตกต่างกันมากอาจกลายเป็น
ตรงไปตรงมามากขึ้น