Jean Patou, who had first raised he

Jean Patou, who had first raised hemlines to 18" off the floor with his "flapper" dresses of 1924, had begun lowering them again in 1927, using Vionnet's handkerchief hemline to disguise the change. By 1930, longer skirts and natural waists were shown everywhere.[7]

But it is Schiaparelli who is credited with "changing the outline of fashion from soft to hard, from vague to definite."[7] She introduced the zipper, synthetic fabrics, simple suits with bold color accents, tailored evening gowns with matching jackets, wide shoulders, and the color shocking pink to the fashion world. By 1933, the trend toward wide shoulders and narrow waists had eclipsed the emphasis on the hips of the later 1920s.[7] Wide shoulders would remain a staple of fashion until after the war.

In contrast with the hard chic worn by the "international set".[7] designers such as Britain's Norman Hartnell made soft, pretty dresses with fluttering or puffed sleeves and loose calf-length skirts suited to a feminine figure. His "white mourning"[8] wardrobe for the new Queen Elizabeth's 1938 state visit to Paris started a brief rage for all-white clothing[9]

Feminine curves were highlighted in the 1930s through the use of the bias-cut in dresses. Madeleine Vionnet was the innovator of the bias-cut and used this method to create sculptural dresses that molded and shaped over the body's contours as it draped the female form.[10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Jean Patou ที่แรกได้ยก hemlines 18 "ออกชั้นกับชุดของเขา"flapper"ของ 1924 เริ่มลดลงพวกเขาอีกครั้งใน 1927 ใช้ของ Vionnet hemline ผ้าเช็ดหน้าถูกเปลี่ยนแปลง โดย 1930 กระโปรงยาวและ waists ธรรมชาติถูกแสดงทุกที่ [7]แต่ Schiaparelli ที่เครดิตกับ "การเปลี่ยนแปลงของแฟชั่นจากนุ่มไปยาก จากคลุมไปแน่นอน" [7] เธอนำซิป ผ้าสังเคราะห์ ชุดง่าย ด้วยสีตัวหนา เน้น gowns เย็นมาผ่อนคลายกับการจับคู่เสื้อ ไหล่กว้าง และสีชมพูสู่แฟชั่นโลกตกตะลึง โดย 1933 โน้มไหล่กว้างและ waists แคบก็ได้เน้นสะโพกของปี 1920 ในภายหลัง [7] กว้างไหล่จะยังคง ตั๋วเย็บกระดาษของแฟชั่นจนกระทั่งหลังจากสงครามIn contrast with เก๋หนักที่สวมใส่ โดย "ชุดนานาชาติ" [7] ชุดอ่อน สวย ด้วย fluttering ทำนักออกแบบเช่น Hartnell นอร์มันของราชอาณาจักร หรือหลงไหลแขนและกระโปรงหลวมลูกความยาวเหมาะสมกับรูปผู้หญิง "ขาวครวญ" ตู้เสื้อผ้า [8] เที่ยวใหม่ควีนอลิซาเบธ 1938 รัฐสู่ปารีสเริ่มต้นความโกรธโดยย่อสำหรับเสื้อผ้าสีขาวทั้งหมด [9]เส้นโค้งผู้หญิงถูกเน้นในช่วงทศวรรษ 1930 โดยใช้ตัดอคติในชุด มาเดอเลน Vionnet ถูกก่อตัดอคติ และใช้วิธีนี้ในการสร้างชุดรูปที่แบบ และทรงผ่านรูปทรงของร่างกายมันมากแบบหญิง [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Jean Patou ที่ได้ยกแรก hemlines ถึง 18 "ออกจากชั้นกับ" วัยรุ่น "ชุดของปี 1924 ได้เริ่มลดพวกเขาอีกครั้งในปี 1927 โดยใช้ hemline ผ้าเช็ดหน้า Vionnet เพื่อปิดบังการเปลี่ยนแปลง. 1930 โดยกระโปรงยาวและเอวธรรมชาติที่มีการแสดง ทุกที่. [7] แต่มันก็เป็น Schiaparelli ที่จะให้เครดิตกับ "การเปลี่ยนร่างของแฟชั่นจากนุ่มอย่างหนักจากการที่ชัดเจนคลุมเครือ." [7] เธอแนะนำซิป, ผ้าใยสังเคราะห์, ชุดที่เรียบง่ายด้วยสำเนียงสีหนาเย็นเหมาะ ชุดแจ็คเก็ตที่มีการจับคู่ไหล่กว้างและสีชมพูตกตะลึงไปทั่วโลกแฟชั่น. 1933 โดยแนวโน้มไหล่กว้างและแคบเอวได้บดบังความสำคัญกับสะโพกของปี ค.ศ. 1920 ต่อมา. [7] ไหล่ไวด์จะยังคงเป็นหลัก ของแฟชั่นจนกระทั่งหลังสงคราม. ในทางตรงกันข้ามกับที่เก๋ไก๋อย่างหนักสวมใส่โดย "ชุดนานาชาติ". [7] ออกแบบเช่นสหราชอาณาจักรนอร์แมนฮาร์ตเนทำให้อ่อน, ชุดสวยด้วยกระพือหรือแขนพองและกระโปรงน่องยาวหลวมเหมาะกับผู้หญิง รูป ของเขา "ไว้ทุกข์สีขาว" [8] ตู้เสื้อผ้าใหม่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบสภาพเยี่ยม 1938 ไปยังกรุงปารีสเริ่มโกรธสั้น ๆ สำหรับเสื้อผ้าสีขาวทั้งหมด [9] เส้นโค้งของผู้หญิงเป็นไฮไลต์ในปี 1930 ผ่านการใช้อคติในการตัดชุด Madeleine Vionnet เป็นผู้ริเริ่มของอคติตัดและใช้วิธีการนี้ในการสร้างชุดประติมากรรมที่ขึ้นรูปและรูปมากกว่ารูปทรงของร่างกายตามที่พาดรูปแบบหญิง. [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Patou , ที่ได้ก่อนเลี้ยงยังไงถึง 18 " ปิดพื้นด้วย " ขนนก " ชุดของปี 1924 ได้เริ่มลดได้อีกใน 1927 ใช้ผ้าเช็ดหน้าของวียอนเน่ต์ hemline ปลอมตัว เปลี่ยน โดย 1930 , กระโปรงยาวเอวธรรมชาติได้ทุกที่ [ 7 ]

แต่มัน schiaparelli ที่เป็นเครดิตกับการเปลี่ยนร่างของแฟชั่นจากอ่อนไปแข็งจากคลุมเครือให้แน่นอน" [ 7 ] เธอเปิดซิป ผ้าสังเคราะห์ ชุดง่ายด้วยสี เสียงหนา ปรับแต่ง gowns เย็นกับการจับคู่เสื้อ ไหล่กว้าง และสีบานเย็นกับโลกแฟชั่น โดย 1933 , ไหล่กว้างและมีแนวโน้มที่เอวแคบได้บดบังเน้นสะโพก หลังปี ค.ศ. 1920 [ 7 ] กว้างไหล่จะยังคงเป็นหลักของแฟชั่น จนกระทั่งหลังสงคราม

ในทางตรงกันข้ามกับยากเก๋สวมใส่โดยตั้ง " นานาชาติ " [ 7 ] นักออกแบบเช่นของอังกฤษนอร์แมนฮาร์ตเนลให้นุ่มสวยชุดด้วยกระพือหรือพองแขนและความยาวน่องหลวมกระโปรงเหมาะกับรูปร่างของผู้หญิง เขาขาว " ไว้ทุกข์ " [ 8 ] ต้นใหม่ Queen Elizabeth ของ 1938 สภาพเยี่ยมปารีสเริ่มสั้น ความโกรธทั้งหมด [ 9 ]

เสื้อผ้าสีขาวเส้นโค้งของผู้หญิงถูกเน้นในช่วงทศวรรษที่ 1930 ผ่านการใช้อคติในการตัดชุด แมนเดอลิน วิโอเน่เป็นผู้ริเริ่มของอคติตัดและใช้วิธีนี้เพื่อสร้างชุดประติมากรรมที่ขึ้นรูป และรูปผ่านรูปทรงของร่างกายเป็น draped แบบฟอร์มหญิง [ 10 ]