Postprandial hyperglycemia, in part

Postprandial hyperglycemia, in particular when accompanied by excessive hypertriglyceridemia, is associated with increased cardiovascular risk, mainly in overweight or obese subjects, as it favors oxidative stress, systemic inflammation and endothelial dysfunction. Thus, treatments that favorably modulate metabolism by reducing steep increases in postprandial serum glucose and triglycerides, are of considerable interest. Evidence suggests that (-)-epicatechin (EPI) is responsible for reductions in cardiometabolic risk associated with chocolate consumption; these effects may be associated with favorable effects of EPI on postprandial metabolism. The aims of this study were to assess the effects of EPI on postprandial metabolism in normal-weight and overweight/obese subjects. Twenty adult volunteers (normal and overweight) underwent oral metabolic tolerance tests in the absence and presence of oral EPI (1 mg kg-1). Metabolic responses were examined using indirect calorimetry and determining blood glucose and triglycerides at 0, 2 and 4 hours after metabolic load ingestion. Results show that EPI increased postprandial lipid catabolism, as evidenced by a significant decrease in the respiratory quotient, which implies an increase in fat oxidation. The effect was associated with significantly lower postprandial plasma glucose and triglycerides concentrations. The effects were more prominent in overweight subjects. In conclusion, EPI modulates postprandial metabolism by enhancing lipid oxidation accompanied by reductions in glycemia and triglyceridemia

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำตาลในเลือดสูงภายหลังตอนกลางวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมาพร้อมกับ hypertriglyceridemia มากเกินไปมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ในวิชาที่มีน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนตามที่โปรดปรานความเครียดออกซิเดชันอักเสบและความผิดปกติของระบบหลอดเลือด ดังนั้นการรักษาที่ชื่นชอบปรับการเผาผลาญอาหารโดยการลดการเพิ่มขึ้นที่สูงชันในระดับน้ำตาลในเลือดภายหลังตอนกลางวันและไตรกลีเซอไรด์เป็นที่สนใจมาก หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า (-)-epicatechin (EPI) เป็นผู้รับผิดชอบในการลดความเสี่ยง cardiometabolic เกี่ยวข้องกับการบริโภคช็อคโกแลตผลกระทบเหล่านี้อาจจะเกี่ยวข้องกับผลดีของ EPI ในการเผาผลาญภายหลังตอนกลางวัน จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้มีการประเมินผลกระทบของ EPI ในการเผาผลาญในภายหลังตอนกลางวันมีน้ำหนักปกติและมีน้ำหนักเกิน / วิชาโรคอ้วนยี่สิบอาสาสมัครผู้ใหญ่ (ปกติและมีน้ำหนักเกิน) ได้รับการทดสอบความทนทานต่อการเผาผลาญอาหารในช่องปากในกรณีที่ไม่มีและการปรากฏตัวของ EPI ในช่องปาก (1 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม 1) การตอบสนองของการเผาผลาญอาหารมีการตรวจสอบโดยใช้ความร้อนทางอ้อมและการกำหนดระดับน้ำตาลในเลือดและไตรกลีเซอไรด์ที่ 0, 2 และ 4 ชั่วโมงหลังจากที่การบริโภคภาระการเผาผลาญอาหาร ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่าเพิ่มขึ้น EPI catabolism ไขมันภายหลังตอนกลางวัน,เป็นหลักฐานโดยการลดลงอย่างมีนัยสำคัญในความฉลาดทางระบบทางเดินหายใจซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นของการเกิดออกซิเดชันของไขมัน ผลที่ได้มีความสัมพันธ์กับน้ำตาลในเลือดต่ำภายหลังตอนกลางวันและความเข้มข้นของไตรกลีเซอไรด์ ผลกระทบที่มีความโดดเด่นมากขึ้นในวิชาที่มีน้ำหนักเกิน ในการสรุปEPI modulates การเผาผลาญอาหารโดยการเพิ่มภายหลังตอนกลางวันเกิดออกซิเดชันของไขมันมาพร้อมกับการลด glycemia และ triglyceridemia

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Postprandial hyperglycemia โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตาม hypertriglyceridemia มากเกินไป เป็นเกี่ยวข้องกับหัวใจและหลอดเลือดเสี่ยง ส่วนใหญ่ในเรื่องของภาวะ หรืออ้วน สนับสนุนความเครียด oxidative อักเสบระบบ และทำการบุผนังหลอดเลือด ดังนั้น รักษาที่พ้องต้อง modulate เมแทบอลิซึมลดเพิ่มขึ้นสูงชันเซรั่ม postprandial กลูโคสและระดับไตรกลีเซอไรด์ ที่น่าสนใจมาก หลักฐานแนะนำว่า (-) -epicatechin (EPI) รับผิดชอบในการลดความเสี่ยง cardiometabolic ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ช็อคโกแลต ลักษณะพิเศษเหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับผลกระทบอันของ EPI postprandial เมแทบอลิซึม จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้มีการ ประเมินผลกระทบของ EPI การเผาผลาญ postprandial ในเรื่อง น้ำหนักปกติ และน้ำหนักเกิน/อ้วน อาสาสมัครผู้ใหญ่ 20 (ปกติ และภาวะ) ผ่านทดสอบเผื่อปากเผาผลาญในการขาดงานและสถานะของ EPI ปาก (มิลลิกรัมต่อ 1 กิโลกรัม-1) ตอบเผาผลาญถูกตรวจสอบโดยใช้ calorimetry ทางอ้อม และการกำหนดน้ำตาลในเลือด และระดับไตรกลีเซอไรด์ที่ 0, 2 และ 4 ชั่วโมงหลังจากกินโหลดเผาผลาญ ผลลัพธ์แสดงว่า EPI เพิ่มแคแทบอลิซึมไขมัน postprandial เห็นได้จากผลหารหายใจลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งหมายถึงการเพิ่มออกซิเดชันของไขมัน ผลที่สัมพันธ์กับความเข้มต่ำ postprandial พลาสมากลูโคสและระดับไตรกลีเซอไรด์ข้น ผลโดดเด่นมากในเรื่องภาวะ ในสรุป EPI modulates เผาผลาญ postprandial โดยเพิ่มการเกิดออกซิเดชันของไขมันพร้อมลด glycemia และ triglyceridemia

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

hyperglycemia postprandial โดยเฉพาะเมื่อพร้อมด้วย hypertriglyceridemia มากเกินไปเป็นความเสี่ยงต่อโรคหัวใจหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเป็นสำคัญในเรื่องน้ำหนักตัวมากเกินหรือโรคอ้วนและความเมตตาความตึงเครียดเสริมสร้าง ภูมิต้านทาน อักเสบอย่างเป็นระบบและเสื่อม สมรรถภาพ endothelial ดังนั้นการบำบัดที่สนับสนุนกล้ำเจริญเติบโตด้วยการลดการเพิ่มขึ้นสูงชันและไตรกลีเซอไรด์ในซีรัมกลูโคส postprandialมีส่วนได้เสียอย่างมาก มีหลักฐานชี้ให้เห็นว่า( - ) - epicatechin ( EPI )มีหน้าที่รับผิดชอบในการลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการ บริโภค cardiometabolic ช็อกโกแลตส่งผลกระทบเหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับความเจริญเติบโตของ EPI ใน postprandial วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เป็นการประเมินผลของ EPI ในเจริญเติบโต postprandial ในเรื่องปกติมีน้ำหนักเบาและมีน้ำหนักตัวมากเกินและโรคอ้วนยี่สิบอาสาสมัครผู้ใหญ่(ปกติและมีน้ำหนักตัวมากเกิน)ได้รับการทดสอบ Fault Tolerance กว้างขวางด้วยวาจาในการประชุมและการมีอยู่ของช่องปาก EPI ( 1 กก.มก. - 1 ) การตอบกลับอาการโรคทางเมตาบอลิซึมได้ตรวจสอบการใช้การวัดความร้อนโดยทางอ้อมและการกำหนดและไตรกลีเซอไรด์กลูโคสในเลือดที่ 02 และ 4 ชั่วโมงหลังจากถ่ายเอกซเรย์ สัมภาระ กว้างขวาง ผลลัพธ์แสดงว่า EPI ( lipid postprandial catabolism เพิ่มขึ้นจากที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดในผลลัพธ์ที่ได้จากการหารระบบทางเดินหายใจซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นในออกซิไดส์ไขมัน มีผลบังคับใช้ที่มีความเกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของน้ำตาลกลูโคสในพลาสม่าและไตรกลีเซอไรด์ postprandial น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ผลที่ได้รับมากกว่าอย่างชัดเจนในเรื่องมีน้ำหนักตัวมากเกิน ในบทสรุปEPI อัตราขยายเจริญเติบโต postprandial โดยการเพิ่ม ประสิทธิภาพ การออกซิไดส์( lipid พร้อมด้วยการลดใน triglyceridemia และ glycemia