Efficiency Wage According to effici

Efficiency Wage
According to efficiency-wage theory, high wages.may increase efficiency and actually lower labor costs if they:
1. Attract higher-quality applicants.
2. Lower turnover.
3. Increase worker effort.
4. Reduce "shirking" (what economists say when they mean "screwing around"). The higher the wage, the less likely it is that an. employee would be able to find another job that pays as well. Also, the risk of losing. one's high-paying job depends on how like ij, it is that you can be replaced. One indicator is the unemployment rate. (Karl Marx referred to the unemployed .as a "reserve army" that employers can use to replace current workers.) Thus, efficiency wage predicts that high effort will be most likely and shirking likely to the degree that the wage premium is high and the unemployment rate is high.
5. Reduce the need to supervise employees (academics say "monitoring"). So, basically, efficiency increases by hiring better employees or motivating present employees to work smarter or harder. The underlying assumption is that pay level determines effort, again, an appealing notion that is difficult to document. Later in this chapter (see the Appendix), we-show how something called utility theory can help compare the costs and benefits of different pay level policies. We will also discuss how business strategy plays a role in pay level choice.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ค่าจ้างมีประสิทธิภาพ ตามทฤษฎีค่าจ้างประสิทธิภาพ wages.may สูงเพิ่มประสิทธิภาพและต้นทุนแรงงานต่ำจริงหากพวกเขา: 1. ดึงดูดผู้สมัครคุณภาพสูง 2. ราคาย่อม 3. เพิ่มความพยายามของผู้ปฏิบัติงาน 4. ลด "shirking" (อะไรนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าเมื่อมีความหมายว่า "ขันรอบ") สูงกว่าค่าจ้าง โอกาสน้อยเป็นพนักงานในฐานะที่จะสามารถที่จะหางานอื่นที่จ่ายเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ความเสี่ยงของการสูญเสีย ของสูงจ่ายงานขึ้นอยู่กับวิธีเช่น ij มันเป็นที่คุณสามารถถูกแทน ตัวบ่งชี้ที่ 1 มีอัตราการว่างงาน (คาร์ลมาร์กซ์เรียก.as ว่างงานมี "สำรองกองทัพ" ที่นายจ้างสามารถใช้แทนแรงงานที่ปัจจุบัน) ดังนั้น ค่าจ้างมีประสิทธิภาพคาดการณ์ว่า ความสูงจะมีแนวโน้มมากที่สุด และ shirking มีแนวโน้มที่ว่า ค่าจ้างจะสูง และอัตราการว่างงานสูง 5. ลดการกำกับดูแลพนักงาน (นักวิชาการบอกว่า "ตรวจสอบ") ดังนั้น เป็นพื้น ประสิทธิภาพขึ้น โดยจ้างพนักงานที่ดีกว่าหรือพนักงานอยู่ที่สร้างแรงจูงใจทำงานอย่างชาญฉลาด หรือยาก สมมติฐานพื้นฐานคือ ค่าจ้างที่กำหนดระดับความพยายาม อีกครั้ง มีความคิดที่น่าสนใจว่ายากเอกสาร ต่อมาในบทนี้ (ดูภาคผนวก), เราแสดงว่าสิ่งที่เรียกว่าทฤษฎีอรรถประโยชน์สามารถช่วยเปรียบเทียบต้นทุนและผลประโยชน์ของนโยบายระดับค่าจ้างต่าง ๆ นอกจากนี้เรายังจะหารือวิธีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีบทบาทในระดับค่าจ้าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประสิทธิภาพการใช้ค่าจ้าง
ตามทฤษฎีที่มีประสิทธิภาพค่าจ้าง wages.may สูงเพิ่มขึ้นจริงอย่างมีประสิทธิภาพและต้นทุนค่าแรงงานต่ำถ้าพวกเขา:
1 ดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพสูงขึ้น.
2 ผลประกอบการที่ต่ำกว่า.
3 เพิ่มความพยายามของผู้ปฏิบัติงาน.
4 ลด "เลี่ยง" (สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าเมื่อพวกเขาหมายถึง "การกวดขันรอบ") สูงกว่าค่าจ้างที่มีแนวโน้มน้อยมันก็คือการ พนักงานจะสามารถที่จะหางานที่จ่ายได้เป็นอย่างดีอีก นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงของการสูญเสีย งานสูงจ่ายหนึ่งขึ้นอยู่กับวิธีการเช่น IJ ก็คือการที่คุณสามารถเปลี่ยนได้ ตัวบ่งชี้หนึ่งคืออัตราการว่างงาน (Karl Marx เรียกว่าต้ว่างงาน "สำรองกองทัพ" ที่นายจ้างสามารถใช้เพื่อทดแทนแรงงานในปัจจุบัน.) ดังนั้นค่าจ้างประสิทธิภาพการคาดการณ์ว่าความพยายามสูงจะมีโอกาสมากที่สุดและมีแนวโน้มที่จะเลี่ยงระดับพรีเมี่ยมที่ค่าจ้างที่สูงและ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับสูง.
5 ลดความจำเป็นในการกำกับดูแลพนักงานของ บริษัท (นักวิชาการบอกว่า "การตรวจสอบ") ดังนั้นโดยทั่วไปมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นโดยการจ้างพนักงานที่ดีกว่าหรือสร้างแรงจูงใจให้พนักงานปัจจุบันทำงานอย่างชาญฉลาดหรือยาก สมมติฐานพื้นฐานว่าระดับการจ่ายเงินเป็นตัวกำหนดความพยายามอีกครั้งความคิดที่น่าสนใจที่เป็นเรื่องยากที่เอกสาร ต่อมาในบทนี้ (ดูภาคผนวก) เราแสดงว่าสิ่งที่เรียกว่าทฤษฎีอรรถประโยชน์สามารถช่วยเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายและผลประโยชน์ของนโยบายระดับการจ่ายเงินที่แตกต่างกัน นอกจากนี้เรายังจะหารือถึงวิธีกลยุทธ์ทางธุรกิจที่มีบทบาทในการเลือกระดับการจ่ายเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค่าจ้างประสิทธิภาพทฤษฎีค่าจ้างตามประสิทธิภาพสูง wages.may เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนแรงงาน ถ้าพวกเขา :1 . ดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณภาพสูง2 . ผลประกอบการที่ลดลง3 . เพิ่มคนงาน ความพยายาม4 . ลด " ไม่มี " ( สิ่งที่นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าเมื่อพวกเขาหมายถึง " ป่วน " ) สูงกว่าค่าจ้าง อาจน้อยกว่านั้น . พนักงานจะสามารถไปหางานอื่นที่จ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ความเสี่ยงของการสูญเสีย หนึ่งของงานจ่ายสูง ขึ้นอยู่กับว่าชอบแอลเจ มันคือการที่คุณสามารถแทนที่ 1 ตัวบ่งชี้ คือ อัตราการว่างงาน ( คาร์ล มาร์กซ์เรียกว่าตกงาน เป็น " สำรองกองทัพ " ที่นายจ้างสามารถใช้เพื่อแทนที่แรงงาน ปัจจุบัน ) ดังนั้น ค่าจ้างประสิทธิภาพสูง คาดการณ์ว่า ความพยายามจะมากที่สุด และไม่มีโอกาสที่จะเป็นระดับที่ค่าจ้างพิเศษสูงและอัตราการว่างงานสูง5 . ลดต้องดูแลพนักงาน ( นักวิชาการ บอกว่า " การตรวจสอบ " ) ดังนั้นโดยทั่วไปเพิ่มประสิทธิภาพโดยการจ้างพนักงานดีกว่า หรือการจูงใจคนปัจจุบันที่จะทำงานอย่างชาญฉลาดหรือหนัก อัสสัมชัญเป็นต้นระดับที่กำหนดคือ ให้พยายามอีกครั้งที่น่าสนใจความคิดที่เป็นเรื่องยากที่จะ เอกสาร ในภายหลังในบทนี้ ( ดูภาคผนวก ) เราแสดงให้เห็นว่าสิ่งที่เรียกว่าทฤษฎีอรรถประโยชน์ช่วยเปรียบเทียบต้นทุนและประโยชน์ของนโยบายระดับค่าจ้างที่แตกต่างกัน นอกจากนี้เรายังจะหารือเกี่ยวกับบทบาทในระดับจ่ายทางเลือกกลยุทธ์ทางธุรกิจ