The Balanced Scorecard was designed

The Balanced Scorecard was designed with the realization that traditional financial measures were not adequate to measure and manage intangible assets. The Scorecard added customers, internal business processes and learning and growth perspectives to evaluate the over all corporate performance and to correct that imbalance. This new dimension complemented the conventional financial measures and provided management with a broader perspective around both physical and intangible assets. The scorecard assists management to focus on long-term objective rather than on the more narrow, short-term, bottom-line financial outcomes. The scorecard's primary benefit is that it assists to focus everyone's attention towards the future. Firms achieve the greatest effect when they utilize the scorecard system to drive organizational change. Moreover, utilizing the scorecard, executives can see cause-and-effect relationships that clarify how every objective measurement they choose should be part of a chain of events that leads the corporate goal.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Balanced Scorecard มาสำนึกว่า มาตรการทางการเงินแบบดั้งเดิมได้ไม่เพียงพอที่จะวัด และจัดการสินทรัพย์ไม่มีตัวตน ดัชนีชี้วัดการเพิ่มลูกค้า กระบวนการทางธุรกิจภายใน และมุมมองการเรียนรู้และเติบโตในการประเมินมากกว่าประสิทธิภาพทั้งหมดขององค์กรและ การแก้ไขที่ไม่สมดุล มิติใหม่นี้เสริมมาตรการทางการเงินทั่วไป และให้จัดการกับมุมมองกว้างรอบด้านร่างกาย และไม่มีตัวตนสินทรัพย์ ดัชนีชี้วัดที่ช่วยให้การโฟกัส บนวัตถุประสงค์ระยะยาว แทนที่แคบมาก ระยะสั้น ทำเงิน ประโยชน์หลักของดัชนีชี้วัดคือ ว่า มันช่วยให้ความสำคัญของทุกคนให้ความสนใจต่ออนาคต บริษัทให้บรรลุผลมากที่สุดเมื่อพวกเขาใช้ระบบดัชนีชี้วัดการเปลี่ยนแปลงองค์กรของไดรฟ์ นอกจากนี้ ใช้ดัชนีชี้วัด ผู้บริหารสามารถดูความสัมพันธ์ของสาเหตุ และผลกระทบที่ชี้แจงว่าทุกวัดวัตถุประสงค์ที่เลือกควรจะเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ของเหตุการณ์ที่นำไปสู่เป้าหมายขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จดแต้มได้รับการออกแบบด้วยความตระหนักว่ามาตรการทางการเงินแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอในการวัดและจัดการสินทรัพย์ไม่มีตัวตน บัตรคะแนนเพิ่มลูกค้ากระบวนการทางธุรกิจภายในและการเรียนรู้และการเจริญเติบโตของมุมมองในการประเมินประสิทธิภาพขององค์กรมากกว่าและเพื่อแก้ไขความไม่สมดุลที่ มิติใหม่แห่งนี้ครบครันมาตรการทางการเงินแบบเดิมและให้การบริหารจัดการที่มีมุมมองที่กว้างรอบสินทรัพย์ทั้งทางร่างกายและไม่มีตัวตน ดัชนีชี้วัดการบริหารจัดการที่ช่วยให้ความสำคัญกับวัตถุประสงค์ในระยะยาวมากกว่าแคบมากขึ้นในระยะสั้นผลทางการเงินด้านล่างบรรทัด ประโยชน์หลักของดัชนีชี้วัดคือว่ามันช่วยเพื่อเน้นความสนใจของทุกคนไปสู่​​อนาคต บริษัท ให้บรรลุผลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเมื่อพวกเขาใช้ระบบดัชนีชี้วัดในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงองค์กร นอกจากนี้การใช้ดัชนีชี้วัดผู้บริหารสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบที่อธิบายวิธีการทุกวัดวัตถุประสงค์ที่พวกเขาเลือกควรเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ของเหตุการณ์ที่นำไปสู่​​เป้าหมายขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดัชนีชี้วัดความสมดุลถูกออกแบบมา ด้วยตระหนักว่ามาตรการทางการเงินแบบดั้งเดิมไม่เพียงพอที่จะวัดและจัดการสินทรัพย์ไม่มีตัวตน . สำหรับเพิ่มลูกค้ากระบวนการทางธุรกิจภายในและการเรียนรู้และมุมมองการประเมินทั้งหมดขององค์กรประสิทธิภาพและถูกต้องที่ไม่สมดุลย์ มิติใหม่นี้ครบครันปกติมาตรการทางการเงินและให้ผู้บริหารมีมุมมองที่กว้างขึ้น ทั่วทั้งร่างกาย และทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตน . สำหรับช่วยจัดการเพื่อมุ่งเน้นเป้าหมายระยะยาวมากกว่าในที่แคบมากขึ้น ระยะสั้น ด้านล่างบรรทัดการเงินผลลัพธ์ ของดัชนีชี้วัดหลัก ประโยชน์ก็คือว่ามันช่วยให้มุ่งเน้นความสนใจของทุกคนที่มีต่ออนาคต บริษัท บรรลุผลมากที่สุดเมื่อพวกเขาใช้ระบบการประเมินผลทำให้องค์กรเปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ การใช้ดัชนีชี้วัด ผู้บริหารสามารถมองเห็นความสัมพันธ์ของเหตุและผลที่อธิบายว่าทุกวัตถุประสงค์การวัด พวกเขาเลือกควรเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ของเหตุการณ์ที่นำไปสู่เป้าหมายขององค์กร