Stainless steels are examples of al

Stainless steels are examples of alloy steels, i.e. ones that
contain a d-block metal in addition to carbon. Stainless
steels have a significant content of the alloy metal and are
of high commercial value because of their high resistance
to corrosion. All contain a minimum of 10.5% (by mass)
of chromium and the resistance to corrosion arises from
the formation of a thin layer of Cr2O3 (13 000 pm thick)
over the surface of the steel. The oxide layer passivates
(see Section 9.4) the steel and is self-repairing, i.e. if some
of the oxide coating is scratched off, further oxidation of
the chromium in the steel necessarily repairs the ‘wound’.
A further property thatmakes stainless steels commercially
important is that they can be polished to satin or mirror
finishes and this is easily appreciated in the ranges of
stainless steel cutlery available to the consumer.
There are four main classes of stainless steel (austenitic,
ferritic, ferritic-austenitic (duplex) and martensitic), and
within these, a variety of different grades. The names ferritic
and austenitic follow from their structures: ferrite (b-Fe)
and austenite (g-Fe) lattices hosting the alloying elements.
The presence of Cr promotes the formation of the ferrite
structure, while the austenite lattice forms when Ni is
introduced. While ferritic and martensitic stainless steels
are magnetic, austenitic stainless steel is non-magnetic.
Further additives to some stainless steels are molybdenum
(which improves corrosion resistance) and nitrogen
(which adds strength and improves corrosion resistance).
Ferritic stainless steels commonly contain 17% Cr and
0.12% C. Such steels are used in household appliances
(e.g. washing machines and dishwashers) and in vehicle
trim. Increasing the carbon content of ferritic stainless
steels results in the formation of martensitic stainless
steels (which usually contain 11–13% Cr). These steels
are strong, hard and can be sharpened, and are used to
make knives and other blades. Austenitic stainless steels
contain 7% nickel (the most common grade contains
18% Cr, 9% Ni and 0.08% C) and are ductile,
making them suitable for use in the manufacture of
forks and spoons. The toughness and ease of welding of
austenitic stainless steels lead to their widespread use in
the manufacturing industry. In the home, austenitic
stainless steels are used in food processors and kitchen
sinks. A combination of ferritic and austenitic stainless
steels leads to the duplex stainless steels (22% Cr, 5%
Ni, 3% Mo, 0.15% N, 0.03% C) with properties that
make them suitable for use in, for example, hot-water
tanks. Further modifications to the main classes of
stainless steel lead to additional grades for specialized
applications.
Stainless steels appear in every facet of our lives, from
consumer goods (especially in the kitchen, where cleanliness
and corrosion-resistance are essential) to industrial
storage tanks, chemical plant components, vehicle parts
including exhaust pipes and catalytic converters (see
Section 26.6), and a wide range of industrial corrosionresistant
components. Building projects also make wide
use of stainless steels, both in construction and in external
decorative parts.
Further reading
Web-based site: www.worldstainless.org
Related information: Box 21.1 Chromium: resources and
recycling.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สเตนเลสเป็นตัวอย่างของเหล็กอัลลอยด์ เช่นคนที่ประกอบด้วยโลหะบล็อก-d นอกจากคาร์บอน สแตนเลสมีเนื้อหาสำคัญของโลหะผสมเหล็ก และมีของมูลค่าการค้าสูงเนื่องจากความต้านทานสูงการกัดกร่อน ทั้งหมดประกอบด้วยอย่างน้อย 10.5% (โดยมวล)โครเมียมและทนต่อการกัดกร่อนที่เกิดจากการก่อตัวของชั้นบาง ๆ ของ Cr2O3 (13 000 pm หนา)บนพื้นผิวของเหล็ก ชั้นออกไซด์ passivates(ดูข้อ 9.4) เหล็ก และจะซ่อมแซมด้วยตนเอง เช่นบางออกไซด์เคลือบผิวถูกขูดออก การออกซิเดชันของโครเมียมในเหล็กจำเป็นต้องซ่อมแซม 'บาดแผล'เพิ่มเติมคุณสมบัติ thatmakes สแตนเลส steels ในเชิงพาณิชย์ที่สำคัญคือ ว่า พวกเขาสามารถขัดถึงซาติน หรือกระจกเสร็จสิ้นและซึ่งจะได้ชื่นชมในช่วงของช้อนส้อมสแตนเลสพร้อมใช้งานไปยังผู้บริโภคมีสี่ประเภทของเหล็กกล้าไร้สนิม (austeniticเฟอริติก เฟอริติกสเต (duplex) และมาร์เตนซิติก), และภายในเหล่านี้ ความหลากหลายของเกรดที่แตกต่างกัน ชื่อเฟอริติกทำ ตามสเตจากโครงสร้างของพวกเขา: เฟอร์ไรต์ (b-Fe)และจัดองค์ประกอบผสมนี่ austenite (g-Fe)การปรากฏตัวของ Cr เสริมการก่อตัวของเฟอร์ไรท์โครงสร้าง ในขณะที่แบบตาข่าย austenite เมื่อ Niแนะนำ ในขณะที่เหล็กกล้าไร้สนิมเฟอริติก และมาร์เตนซิติกมีแม่เหล็ก เหล็กสแตนเลสเตจะไม่ใช่แม่เหล็กสารเติมแต่งเพิ่มเติมเพื่อบางสเตนเลสมีโมลิบดีนัม(ซึ่งช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน) และไนโตรเจน(ซึ่งเพิ่มความแข็งแรง และช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน)เหล็กสแตนเลเฟอริติกทั่วไปประกอบด้วย 17% Cr และค. 0.12% เหล็กดังกล่าวจะใช้ในเครื่องใช้ครัวเรือน(เช่นเครื่องซักผ้าและเครื่องล้างจาน) และ ในรถยนต์ตัดแต่ง เพิ่มปริมาณคาร์บอนเฟอริติกสแตนเลสเหล็กส่งผลให้การก่อตัวของมาร์เตนซิติกสแตนเลสเหล็ก (ซึ่งมักจะประกอบด้วย 11 – 13% Cr) เหล็กเหล่านี้มีความแข็งแรง หนัก และสามารถจะรุนแรง และถูกนำมาใช้ทำให้ใบมีดและใบมีด เหล็กสแตนเลสเตประกอบด้วย 7% นิกเกิล (เกรดทั่วไปประกอบด้วย18% Cr, 9% Ni และ 0.08% C) และเหนียวทำให้เหมาะสำหรับใช้ในการผลิตส้อมและช้อน ความเหนียวและความง่ายในการเชื่อมเหล็กสแตนเลสเตนำไปใช้อย่างกว้างขวางอุตสาหกรรมการผลิต ในบ้าน สเตสเตนเลสที่ใช้ในการเตรียมอาหารและห้องครัวเก็บของ การรวมกันของเฟอริติก และ austenitic สแตนเลสเหล็กที่นำไปสู่การสเตนเลสดูเพล็กซ์ (22% Cr, 5%3%, Ni Mo, 0.15% N, 0.03% C) มีคุณสมบัติที่ทำให้เหมาะสำหรับใช้ใน เช่น น้ำร้อนรถถัง การแก้ไขเพิ่มเติมการเรียนหลักของสแตนเลสทำให้เกรดเพิ่มเติมสำหรับผู้เชี่ยวชาญการใช้งานสเตนเลสที่ปรากฏในทุกแง่มุมของชีวิตของเรา จากสินค้าอุปโภคบริโภค (โดยเฉพาะในห้องครัว ที่สะอาดและทนต่อการกัดกร่อนมีความจำเป็น) การอุตสาหกรรมถังเก็บ โรงงานเคมี ชิ้นส่วนยานพาหนะท่อไอเสียและแก๊สพิษ (ดูหัวข้อ 26.6), และ corrosionresistant อุตสาหกรรมหลากหลายคอมโพเนนต์ โครงการทำให้กว้างใช้เหล็กกล้าไร้สนิม ทั้ง ในการก่อสร้าง และ ในภายนอกอะไหล่ตกแต่งอ่านเพิ่มเติมเว็บไซต์: www.worldstainless.orgข้อมูล: กล่อง 21.1 โครเมียม: ทรัพยากร และรีไซเคิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เหล็กสแตนเลเป็นตัวอย่างของเหล็กอัลลอยคน IE ที่
ประกอบด้วยโลหะ D-บล็อกนอกเหนือไปจากคาร์บอน สแตนเลส
เหล็กมีเนื้อหาที่สำคัญของโลหะอัลลอยและมี
มูลค่าการค้าสูงเนื่องจากความต้านทานสูงของพวกเขา
ต่อการกัดกร่อน ทั้งหมดมีน้อยที่สุด 10.5% (โดยมวล)
ของโครเมียมและความต้านทานการกัดกร่อนที่เกิดจากการ
ก่อตัวของชั้นบาง ๆ ของ Cr2O3 (? 13 000 นหนา) เดอะ
เหนือพื้นผิวของเหล็ก passivates ชั้นออกไซด์
(ดูมาตรา 9.4) เหล็กและเป็นตัวการซ่อมแซมเช่นถ้าบางส่วน
ของการเคลือบออกไซด์มีรอยขีดข่วนออกซิเดชั่นต่อไปของ
โครเมียมเหล็กจำเป็นต้องซ่อมแซม 'แผล'.
คุณสมบัติเพิ่มเติม thatmakes เหล็กสแตนเลสในเชิงพาณิชย์
ที่สำคัญคือพวกเขาสามารถขัดซาตินหรือกระจก
เสร็จสิ้นและนี้เป็นที่นิยมได้อย่างง่ายดายในช่วงของ
มีดสแตนเลสที่มีอยู่ให้กับผู้บริโภค.
มีสี่ชั้นเรียนหลักของสแตนเลส (สเตนเป็น
เฟอริติก, เฟอริติก-สเตน (Duplex) และ martensitic ) และ
ภายในเหล่านี้มีความหลากหลายของเกรดที่แตกต่างกัน ชื่อเฟอริติก
และติดตามสเตนจากโครงสร้างของพวกเขา: เฟอร์ไรท์ (B-FE)
และ austenite (G-FE) lattices โฮสติ้งองค์ประกอบผสมได้.
การปรากฏตัวของ Cr ส่งเสริมการก่อตัวของเฟอร์ไรต์
โครงสร้างในขณะที่รูปแบบตาข่าย austenite เมื่อ Ni จะ
แนะนำ . ในขณะที่เฟอริติกและ martensitic เหล็กสแตนเลส
มีแม่เหล็กสแตนเลสสเตนคือไม่ใช่แม่เหล็ก.
สารเติมแต่งต่อไปเหล็กสแตนเลสบางคนมีโมลิบดีนัม
(ซึ่งช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน) และไนโตรเจน
(ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงและช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน).
เหล็กสแตนเลสเฟอริติกทั่วไปประกอบด้วย 17% Cr และ
? 0.12% ซีเหล็กดังกล่าวจะถูกนำมาใช้ในเครื่องใช้ในครัวเรือน
(เครื่องเช่นซักผ้าและเครื่องล้างจาน) และในรถ
ตัด การเพิ่มขึ้นของปริมาณคาร์บอนของสแตนเลส
เหล็กผลในรูปแบบของสแตนเลส martensitic
เหล็ก (ซึ่งมักจะมี 11-13% Cr) เหล็กเหล่านี้
มีความแข็งแรงอย่างหนักและสามารถรุนแรงขึ้นและจะใช้ในการ
ทำมีดและใบอื่น ๆ เหล็กสแตนเลสเตน
มี? 7% นิกเกิล (ชั้นประถมศึกษาปีที่พบมากที่สุดมี
18% Cr, 9% และ Ni? 0.08% C) และมีความเหนียว
ทำให้พวกเขาเหมาะสำหรับการใช้งานในการผลิต
ส้อมและช้อน ความเหนียวและความสะดวกในการเชื่อม
เหล็กสแตนเลสเตนนำไปสู่การใช้งานอย่างแพร่หลายใน
อุตสาหกรรมการผลิต ในบ้านสเตน
เหล็กสแตนเลสที่ใช้ในการผลิตอาหารและห้องครัว
อ่างล้างมือ การรวมกันของสแตนเลสเฟอริติกและสเตน
เหล็กนำไปสู่เหล็กเพล็กซ์สแตนเลส (22% Cr, 5%
Ni, 3% Mo, 0.15% N? 0.03% C) ที่มีคุณสมบัติที่
ทำให้พวกเขาเหมาะสำหรับใช้ในตัวอย่างเช่นร้อน น้ำรดน้ำ
ถัง การแก้ไขเพิ่มเติมการเรียนหลักของ
ตะกั่วสแตนเลสเกรดเพิ่มเติมสำหรับเฉพาะ
การใช้งาน.
เหล็กสแตนเลสปรากฏในแง่มุมของชีวิตของเราทุกคนจาก
สินค้าอุปโภคบริโภค (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้องครัวที่ความสะอาด
และการกัดกร่อนต้านทานมีความจำเป็น) เพื่ออุตสาหกรรม
ถังเก็บ ส่วนประกอบโรงงานเคมี, ชิ้นส่วนยานพาหนะ
รวมทั้งท่อไอเสียและแปลงตัวเร่งปฏิกิริยา (ดู
มาตรา 26.6) และความหลากหลายของ corrosionresistant อุตสาหกรรม
ชิ้นส่วน โครงการก่อสร้างยังทำให้กว้าง
ใช้เหล็กสแตนเลทั้งในการก่อสร้างและภายนอก
ส่วนตกแต่ง.
อ่านเพิ่มเติม
เว็บไซต์เว็บ: www.worldstainless.org
ข้อมูลที่เกี่ยวข้อง: กล่อง 21.1 โครเมี่ยม: ทรัพยากรและ
การรีไซเคิล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เหล็กสแตนเลสมีตัวอย่างของเหล็กกล้าโลหะผสม เช่น คนที่ว่าประกอบด้วยรถโคชโลหะนอกจากคาร์บอน สแตนเลสเหล็กมีเนื้อหาที่สำคัญของโลหะผสมโลหะและของมูลค่าการค้าสูงเพราะความต้านทานสูงกับการกัดกร่อน ทั้งหมดประกอบด้วยอย่างน้อย 10.5 % ( โดยมวล )ของโครเมียมและความต้านทานการกัดกร่อนที่เกิดจากการก่อตัวเป็นชั้นบาง ๆของ Cr2O3 ( 13 , 000 น. หนา )กว่าพื้นผิวของเหล็ก ชั้น passivates ออกไซด์( ดูมาตรา 9.4 ) เหล็กและซ่อมแซมตนเอง เช่นถ้า บางของออกไซด์เคลือบเป็นรอยจากการออกซิเดชันของเพิ่มเติมโครเมียมเหล็กต้องซ่อม " บาดแผล "คุณสมบัติเพิ่มเติม thatmakes เหล็กกล้าไร้สนิมในเชิงพาณิชย์ที่สำคัญคือ พวกเขาสามารถขัดซาตินหรือกระจกเสร็จสิ้น และนี้เป็นที่นิยมได้ง่ายในช่วงของช้อนส้อมสเตนเลส บริการแก่ผู้บริโภคมี 4 คลาสหลักของเหล็กกล้าไร้สนิม ( ออสเทนนิติคเฟอร์ริติกเฟอร์ริติก , นิติก ( Duplex ) และมาร์เทนซิติค )ภายในเหล่านี้ ความหลากหลายของเกรดที่แตกต่างกัน ชื่อเฟอร์ริติกและเป็นวิทยาทานตามโครงสร้างของเฟอร์ไรท์ ( b-fe ) :และ austenite ( g-fe ) หน้าพื้นที่ผสมองค์ประกอบการปรากฏตัวของ CR ส่งเสริมการก่อตัวของเฟอร์ไรท์โครงสร้าง ในขณะที่ austenite แลทฟอร์มเมื่อ นิแนะนำ ขณะเฟอร์ริติก และเหล็กกล้าไร้สนิมมาร์เทนซิติกเป็นแม่เหล็ก , เหล็กกล้าไร้สนิมคือแม่เหล็ก .เพิ่มเติมสารบางเหล็กกล้าไร้สนิมมีโมลิบดีนัม( ซึ่งช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน และไนโตรเจน( ซึ่งจะเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อน )เหล็กกล้าไร้สนิมเฟอร์ริติกที่ประกอบด้วยโครเมียมร้อยละ 17 และ0.12 % C . เช่นเหล็กกล้าที่ใช้ในครัวเรือน( เช่นเครื่องซักผ้าและเครื่องล้างจาน ) และในยานพาหนะการตัดแต่ง การเพิ่มปริมาณคาร์บอนสเตนเลสเฟอร์ริติกเหล็กที่มีผลในการก่อตัวของเหล็กกล้าไร้สนิมมาร์เทนซิติกเหล็ก ( ซึ่งมักจะประกอบด้วย 11 – 13 % Cr ) เหล็กเหล่านี้มีความแข็งแรงมากและสามารถฝึกฝน และใช้ทำมีดและใบมีดอื่น ๆ เหล็กกล้าไร้สนิมออสเทนนิติคประกอบด้วย 7 % นิกเกิล ( เกรดทั่วไปส่วนใหญ่ประกอบด้วย18 % Cr , Ni 9% และ 0.08 % C ) และอ่อนทำให้พวกเขาเหมาะสำหรับใช้ในการผลิตส้อมและช้อน มีความเหนียวและความสะดวกในการเชื่อมสเตนเลสเหล็กตะกั่วของการใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมการผลิต ในบ้าน นิติกเหล็กสแตนเลสที่ใช้ในการผลิตอาหาร และห้องครัวจม การรวมกันของสเตนเลสเฟอร์ริติก และเหล็กทำให้เหล็กกล้าไร้สนิมดูเพล็กซ์ ( 22 % และ 5 %ชั้น 3 % โม , 0.15 % N , 0.03 % C ) ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้พวกเขาเหมาะสำหรับใช้ใน ตัวอย่างเช่น ร้อนรถถัง เพิ่มเติมเพื่อปรับเปลี่ยนชั้นหลักของสแตนเลสเกรดพิเศษเพิ่มเติมนำไปสู่การประยุกต์ใช้เหล็กสแตนเลสปรากฏในทุกๆด้านของชีวิตของเรา จากสินค้าอุปโภคบริโภค ( โดยเฉพาะในครัวที่สะอาดและความต้านทานการกัดกร่อนที่จำเป็น ) เพื่ออุตสาหกรรมถังเก็บเคมี , โรงงานประกอบชิ้นส่วนรถยนต์รวมทั้งท่อไอเสีย catalytic converters ( ดูมาตรา 15 ) และหลากหลายของอุตสาหกรรม corrosionresistantส่วนประกอบ โครงการอาคารยังให้กว้างใช้เหล็กสแตนเลส , การก่อสร้างทั้งในและภายนอกอะไหล่ตกแต่งอ่านเพิ่มเติมเว็บไซต์เว็บ www.worldstainless.orgข้อมูลที่เกี่ยวข้อง : กล่อง 21.1 โครเมียม : ทรัพยากรการรีไซเคิล