The 1957 Treaties of Rome laid the

The 1957 Treaties of Rome laid the foundation for the creation of the EU. However, it was
not until the signing of the “Treaty Establishing a Constitution for Europe” (TCE) that the EU
possessed a legal personality, which means that it is able to represent itself as a single body in
certain circumstances under international law. Most significantly, it is able to sign treaties as a
single body where all its Member States agree. ASEAN’s agreement to draft a charter was
viewed as crucial because it could introduce major changes in how the original association operates,
among them breaking from its tradition of non-interference and mutual respect. The signing
of the Singapore Declaration followed swiftly after the ASEAN countries issued the Cebu Declaration
on the Blueprint of the ASEAN Charter, noting that ASEAN has matured into a regional
organization and is expanding its role as an integrated regional economy and a dynamic force
in maintaining regional peace and stability as envisaged in the Declaration of Bali Concord II
and its plans of action, roadmaps and the ASEAN Vision 2020, which envisions ASEAN as a
concert of Southeast Asia bonded together in a partnership for dynamic development and in a
community of caring societies.17 With the introduction of the new charter, ASEAN plans to accelerate
its integration by putting it on a similar legal footing to the EU, making it more rulesbased.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สนธิสัญญาโรม 1957 วางรากฐานสำหรับการสร้างของ EU อย่างไรก็ตาม ก็ไม่จนลงนาม "สนธิสัญญากำหนดให้รัฐธรรมนูญในยุโรป" (TCE) ที่สหภาพยุโรปต้องมีลักษณะทางกฎหมาย ซึ่งหมายความ ว่า จะสามารถแสดงตัวเองเป็นเนื้อเดียวในบางกรณีกฎหมายของต่างประเทศ สุดมาก ก็สามารถลงชื่อในสนธิสัญญาเป็นการตัวเดียวที่ยอมรับของรัฐสมาชิกทั้งหมด เป็นข้อตกลงของอาเซียนเพื่อร่างกฎบัตรการดูเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากมันสามารถแนะนำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวิธีการเชื่อมโยงเดิมการทำงานในหมู่พวกเขาทำลายจากประเพณีไม่มีสัญญาณรบกวน และการร่วมกันเคารพ ลงนามของการรายงานภาษีสิงคโปร์ตามอย่างรวดเร็วหลังจากอาเซียน ประเทศออกปฏิญญาเซบูซิตี้บนพิมพ์เขียวของกฎบัตรอาเซียน สังเกตว่า อาเซียนมี matured เป็นภูมิภาคองค์กร และขยายบทบาทของเศรษฐกิจภูมิภาคแบบบูรณาการและบังคับแบบในการรักษาสันติภาพในภูมิภาคและความมั่นคงเป็น envisaged ในรายงานของบาหลีคอนคอร์ด IIและแผนการดำเนินการ roadmaps และในอาเซียนวิสัยทัศน์ 2020 ที่ envisions อาเซียนเป็นการคอนเสิร์ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกผูกมัดร่วมกันในความร่วมมือ เพื่อการพัฒนาแบบไดนามิก และในการชุมชนของ societies.17 แห่งนี้ ด้วยการแนะนำกฎบัตรใหม่ แผนที่อาเซียนจะเร่งการบูรณาการ โดยเก็บไว้ในหลักกฎหมายที่คล้ายกับยุโรป ทำ rulesbased เพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1957 สนธิสัญญากรุงโรมวางรากฐานสำหรับการสร้างของสหภาพยุโรป อย่างไรก็ตามมันก็ไม่ได้จนกว่าการลงนามของ "สนธิสัญญาจัดตั้งรัฐธรรมนูญยุโรป" (TCE) ที่สหภาพยุโรปมีบุคลิกภาพทางกฎหมายซึ่งหมายความว่ามันสามารถที่จะเป็นตัวแทนของตัวเองเป็นร่างกายเดียวในบางสถานการณ์ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ สำคัญที่สุดมันสามารถที่จะลงนามในสนธิสัญญาเป็นร่างกายเดียวที่ทุกประเทศสมาชิกเห็นด้วย ข้อตกลงของอาเซียนที่จะร่างกฎบัตรถูกมองว่าเป็นสิ่งสำคัญเพราะมันสามารถนำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวิธีการที่สมาคมเดิมดำเนินงานในหมู่พวกเขาทำลายจากประเพณีของการไม่แทรกแซงและความเคารพซึ่งกันและกัน การลงนามในปฏิญญาสิงคโปร์ตามมาอย่างรวดเร็วหลังจากที่ประเทศในกลุ่มอาเซียนที่ออกปฏิญญาเซบูในพิมพ์เขียวของกฎบัตรอาเซียนสังเกตว่าอาเซียนได้ครบกำหนดลงในระดับภูมิภาคขององค์กรและมีการขยายบทบาทของการเป็นเศรษฐกิจระดับภูมิภาคแบบบูรณาการและพลังในการรักษาในระดับภูมิภาคสันติภาพและเสถียรภาพในขณะที่วาดภาพในปฏิญญาบาหลี Concord II และแผนของการดำเนินการแผนการพัฒนาและวิสัยทัศน์ของอาเซียนในปี 2020 ซึ่งวาดภาพอาเซียนเป็นคอนเสิร์ตเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผูกมัดร่วมกันในการเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาแบบไดนามิกและในชุมชนของสังคมดูแล17 ด้วยการแนะนำของกฎบัตรใหม่อาเซียนวางแผนที่จะเร่งบูรณาการโดยการวางไว้บนเกาะทางกฎหมายคล้ายกับสหภาพยุโรปที่ทำให้มันมากขึ้นrulesbased

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1957 สนธิสัญญากรุงโรมวางรากฐานสำหรับการสร้างของสหภาพยุโรป แต่มันไม่ได้จนกว่า
ลงนาม " สนธิสัญญาก่อตั้งธรรมนูญเพื่อยุโรป " ( TCE ) ที่สหภาพยุโรป
มีบุคลิกภาพทางกฎหมายซึ่งหมายความว่ามันสามารถที่จะเป็นตัวแทนของ ตัว เอง เป็น เดียวในร่างกาย
สถานการณ์บางอย่างภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ มากที่สุด มันสามารถที่จะลงนามในสนธิสัญญาเป็น
ตัวเดียวที่สมาชิกทั้งหมดเห็นด้วย ของความตกลงอาเซียนในการร่างกฎบัตรคือ
ดูเป็นสําคัญ เพราะมันอาจแนะนำการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในวิธีการที่สมาคมเดิมทํางาน ,
ในหมู่พวกเขาแบ่งจากประเพณีของหลักการไม่แทรกแซง และเคารพซึ่งกันและกัน การลงนาม
ของสิงคโปร์ประกาศตามมาอย่างรวดเร็วหลังจากประเทศอาเซียนได้ออกปฏิญญาเซบู
ในพิมพ์เขียวของกฎบัตรอาเซียน , noting ว่าอาเซียนได้พัฒนาเป็นองค์กรระดับภูมิภาคและมีการขยายบทบาทของ
เป็นแบบบูรณาการในภูมิภาคเศรษฐกิจและแบบไดนามิกแรง
ในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค เป็นภาพในการประกาศปฏิญญาบาหลี 2
และแผนปฏิบัติการ , โรดแมปและอาเซียนวิสัยทัศน์ 2020 ซึ่งวาดภาพอาเซียนเป็น
คอนเสิร์ตของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกผูกมัดเข้าด้วยกันในหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาแบบไดนามิกและในชุมชนการดูแล
societies.17 กับการแนะนำของกฎบัตรใหม่ อาเซียนมีแผนที่จะเร่ง
บูรณาการของมัน วางบนฐานรากทางกฎหมายคล้ายกับสหภาพยุโรปให้มากขึ้น rulesbased .