FSF provides for the temporal encap

FSF provides for the temporal encapsulation of subsystems to support the composability and reusability of available components including legacy subsystems. FSF also represents a higher level of abstraction relative to the operating system primitives. It provides an abstract API that makes time a first class citizen, making it easier to build real-time applications. Instead of concentrating on condition variables, timers, or other low-level RTOS mechanisms, the application developer is able to think in terms of deadlines, execution time budgets, or high-level synchronization primitives.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

FSF มี encapsulation ขมับของย่อยเพื่อสนับสนุนที่ composability และ reusability ประกอบพร้อมใช้งานรวมทั้งการย่อยแบบดั้งเดิม FSF ยังแทน abstraction ที่สัมพันธ์กับการนำระบบปฏิบัติการในระดับที่สูงขึ้น จะให้ API เป็นนามธรรมที่เวลาเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ทำให้ง่ายต่อการสร้างโปรแกรมประยุกต์แบบเรียลไทม์ นักพัฒนาแอพลิเคชันจะไม่สามารถคิดว่า กำหนดเวลา งบประมาณเวลาดำเนินการ หรือนำตรงระดับสูงแทน concentrating บนเงื่อนไขตัวแปร ตัวจับเวลา หรือกลไกอื่น ๆ RTOS ต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

FSF ให้สำหรับการห่อหุ้มชั่วคราวของระบบย่อยเพื่อสนับสนุน composability และสามารถนำมาใช้ส่วนประกอบที่มีอยู่รวมทั้งระบบย่อยมรดก FSF ยังแสดงให้เห็นถึงระดับที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับสิ่งที่เป็นนามธรรมพื้นฐานของระบบปฏิบัติการ มันมี API นามธรรมที่ทำให้เวลาเป็นพลเมืองชั้นแรกทำให้ง่ายต่อการสร้างโปรแกรมเรียลไทม์ แทนที่จะมุ่งเน้นตัวแปรสภาพจับเวลาหรือกลไกอื่น ๆ RTOS ระดับต่ำพัฒนาโปรแกรมสามารถที่จะคิดในแง่ของการกำหนดเวลางบประมาณเวลาดำเนินการหรือประสานวิทยาการระดับสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

FSF มีการห่อหุ้มชั่วคราวของระบบสนับสนุนและ composability ใช้ส่วนประกอบที่มีอยู่รวมทั้งระบบมรดก FSF ยังเป็นระดับที่สูงขึ้นของสิ่งที่เป็นนามธรรมเมื่อเทียบกับระบบปฏิบัติการ primitives . มันมี API ที่เป็นนามธรรมที่ทำให้เวลาเป็นพลเมืองชั้นหนึ่ง ทำให้ง่ายต่อการสร้างโปรแกรมประยุกต์แบบเรียลไทม์แทนที่จะมุ่งเน้นตัวแปร , เงื่อนไขเวลา หรืออื่น ๆ ระดับ RTOS กลไก ผู้พัฒนาโปรแกรมสามารถที่จะคิดในแง่ของเวลาการเวลา งบประมาณ หรือ สำหรับการประสาน primitives .