แทบทุกคืนในบ้านของพวกบั๊คเก็ต อาหาร

แทบทุกคืนในบ้านของพวกบั๊คเก็ต อาหารเย็นคือซุปกะหล่ำน้ำใสหนึ่งชาม ซึ่งเด็กน้อย ชาร์ลี (เฟรดดี้ ไฮร์มอร์) เต็มใจยิ่งที่จะแบ่งปันกับ แม่ (เฮเลน่า บอนแนม คาร์เตอร์) และ พ่อ (โนอาห์ เทย์เลอร์) และปู่ย่าตายายทั้งสองคู่ของเขา บ้านของพวกเขาเป็นบ้านเก่าโกโรโกโสหลังเล็กที่ใกล้จะพังเต็มที แต่เต็มไปด้วยความรัก สิ่งสุดท้ายที่ชาร์ลีเห็นจากหน้าต่างบ้าน คือโรงงานช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของ วิลลี่ วองก้า (จอห์นนี เดปป์)และเขาจะม่อยหลับไป เพื่อฝันว่ามีอะไรอยู่ในนั้น

แต่แล้ว เรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิด ชาร์ลีเก็บเงินได้จากถนนที่คลุมไปด้วยหิมะ และนำมันไปซื้อช็อคโกแล็ตวองก้า ชนิดผสมเข้าเนื้อเนียน เหนียวนุ่มแสนอร่อย ด้วยความคิดเพียงว่าเขาหิวโซขนาดหนัก และมันจะอร่อยแค่ไหน ที่นั่นเขาพบแผ่นสีทองข้างใต้กระดาษห่อ มันคือตั๋วใบสุดท้าย..ชาร์ลีจะได้ไปที่โรงงาน! ปู่โจ (เดวิด เคลลี่) ของเขา ตื่นเต้นกับข่าวนี้มากเสียจนกระเด้งลุกออกจากเตียงได้ ราวกับว่าอายุน้อยลงไปหลายปีในทันทีทันใด และระลึกได้ถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกว่านี้ ตอนที่เขาเคยทำงานในโรงงาน ก่อนที่วิลลี่ วองก้าจะปิดประตูด้านที่ติดกับเมืองตลอดกาล ทั้งครอบครัวตกลงใจว่า ปู่โจควรเป็นคนที่จะไปกับชาร์ลี ในการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตของเขา เมื่อได้เข้าไปข้างใน ชาร์ลีต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพอันน่าทึ่งที่ได้เห็นเป็นระยะ เครื่องไม้เครื่องมืออัศจรรย์ที่ส่องประกายแวววาว ด้วยการประดิษฐ์ขึ้นมาโดยวองก้าเอง ซึ่งกวนส่วนผสม ส่งเสียง และผิวปาก ในระหว่างที่สร้างสรรค์ขนมแปลกๆ ใหม่ๆ นานาชนิด บรรดาคนงานชาว อูมปา-ลูมป้าส์ (ดีพ รอย)

จอห์นนี เดปป์ เฟรดดี้ ไฮร์มอร์ และ เดวิด เคลลี่ในภาพยนตร์ชาร์ลีได้แต่คาดเดาว่าที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่ และทำไมเขาจึงอุทิศชีวิตให้กับการทำขนมหวานนั้น ในขณะเดียวกันที่บรรดาเด็กคนอื่นๆ ทำตัวเกเร และคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง เสียจนแทบไม่ชื่นชมกับงานประดิษฐ์ที่น่าอัศจรรย์ของวองก้า ความโลภ ความเอาแต่ใจตัวเอง ความหยาบคายร้ายกาจ และรู้ดีไปหมด ได้นำพวกเขาไปสู่ความยุ่งยาก ที่บีบบังคับให้ต้องออกจากการชมโรงงาน ก่อนที่จะจบรายการไปทีละคน

เมื่อเหลือเพียงแค่ชาร์ลี บั๊คเก็ตตัวน้อย วิลลี่ วองก้าก็เผยความลับสุดท้ายของเขา รางวัลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี : กุญแจโรงงาน หลังจากที่โดดเดี่ยวจากครอบครัวมาแสนนาน วองก้ารู้สึกว่า ถึงเวลาที่เขาจะต้องหาผู้สืบทอดจักรวาลขนมหวานของเขา ใครสักคนที่เขาเชื่อได้ว่า จะสานต่องานแห่งชีวิตของเขา และเป็นเหตุผลที่เขาจัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้น เพื่อเลือกเด็กคนหนึ่งที่พิเศษสุด สิ่งที่เขาไม่เคยคาดหวังไว้ก็คือ การกระทำที่โอบอ้อมอารีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ครั้งนี้ อาจนำมาซึ่งของขวัญล้ำค่ายิ่งกว่าอันหาใดเทียม เป็นการตอบแทนแก่เขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แทบทุกคืนในบ้านของพวกบั๊คเก็ตอาหารเย็นคือซุปกะหล่ำน้ำใสหนึ่งชามซึ่งเด็กน้อยชาร์ลี (เฟรดดี้ไฮร์มอร์) เต็มใจยิ่งที่จะแบ่งปันกับแม่ (เฮเลน่าบอนแนมคาร์เตอร์) และพ่อ (โนอาห์เทย์เลอร์) และปู่ย่าตายายทั้งสองคู่ของเขาบ้านของพวกเขาเป็นบ้านเก่าโกโรโกโสหลังเล็กที่ใกล้จะพังเต็มทีแต่เต็มไปด้วยความรักสิ่งสุดท้ายที่ชาร์ลีเห็นจากหน้าต่างบ้านคือโรงงานช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของวิลลี่วองก้า (จอห์นนีเดปป์) และเขาจะม่อยหลับไปเพื่อฝันว่ามีอะไรอยู่ในนั้นแต่แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิดชาร์ลีเก็บเงินได้จากถนนที่คลุมไปด้วยหิมะและนำมันไปซื้อช็อคโกแล็ตวองก้าชนิดผสมเข้าเนื้อเนียนเหนียวนุ่มแสนอร่อยด้วยความคิดเพียงว่าเขาหิวโซขนาดหนักและมันจะอร่อยแค่ไหนที่นั่นเขาพบแผ่นสีทองข้างใต้กระดาษห่อมันคือตั๋วใบสุดท้าย...ชาร์ลีจะได้ไปที่โรงงาน ปู่โจ (เดวิดเคลลี่) ของเขาตื่นเต้นกับข่าวนี้มากเสียจนกระเด้งลุกออกจากเตียงได้ราวกับว่าอายุน้อยลงไปหลายปีในทันทีทันใดและระลึกได้ถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกว่านี้ตอนที่เขาเคยทำงานในโรงงานก่อนที่วิลลี่วองก้าจะปิดประตูด้านที่ติดกับเมืองตลอดกาลทั้งครอบครัวตกลงใจว่าปู่โจควรเป็นคนที่จะไปกับชาร์ลีในการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเมื่อได้เข้าไปข้างในชาร์ลีต้องตื่นตาตื่นใจกับภาพอันน่าทึ่งที่ได้เห็นเป็นระยะเครื่องไม้เครื่องมืออัศจรรย์ที่ส่องประกายแวววาวด้วยการประดิษฐ์ขึ้นมาโดยวองก้าเองซึ่งกวนส่วนผสมส่งเสียงและผิวปากในระหว่างที่สร้างสรรค์ขนมแปลก ๆ ใหม่ ๆ นานาชนิดบรรดาคนงานชาวอูมปา-ลูมป้าส์ (ดีพรอย)จอห์นนีเดปป์เฟรดดี้ไฮร์มอร์และเดวิดเคลลี่ในภาพยนตร์ชาร์ลีได้แต่คาดเดาว่าที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่และทำไมเขาจึงอุทิศชีวิตให้กับการทำขนมหวานนั้นในขณะเดียวกันที่บรรดาเด็กคนอื่น ๆ ทำตัวเกเรและคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเสียจนแทบไม่ชื่นชมกับงานประดิษฐ์ที่น่าอัศจรรย์ของวองก้าความโลภความเอาแต่ใจตัวเองความหยาบคายร้ายกาจและรู้ดีไปหมดได้นำพวกเขาไปสู่ความยุ่งยากที่บีบบังคับให้ต้องออกจากการชมโรงงานก่อนที่จะจบรายการไปทีละคนวิลลี่เมื่อเหลือเพียงแค่ชาร์ลีบั๊คเก็ตตัวน้อยวองก้าก็เผยความลับสุดท้ายของเขารางวัลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี: กุญแจโรงงานหลังจากที่โดดเดี่ยวจากครอบครัวมาแสนนานวองก้ารู้สึกว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องหาผู้สืบทอดจักรวาลขนมหวานของเขาใครสักคนที่เขาเชื่อได้ว่าจะสานต่องานแห่งชีวิตของเขาและเป็นเหตุผลที่เขาจัดการแข่งขันครั้งนี้ขึ้นเพื่อเลือกเด็กคนหนึ่งที่พิเศษสุดสิ่งที่เขาไม่เคยคาดหวังไว้ก็คือการกระทำที่โอบอ้อมอารีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ครั้งนี้อาจนำมาซึ่งของขวัญล้ำค่ายิ่งกว่าอันหาใดเทียมเป็นการตอบแทนแก่เขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แทบทุกคืนในบ้านของพวกบั๊คเก็ต ซึ่งเด็กน้อยชาร์ลี (เฟรดดี้ไฮร์มอร์) เต็มใจยิ่งที่จะแบ่งปันกับแม่ (เฮเลน่าบอนแนมคาร์เตอร์) และพ่อ (โนอาห์เทย์เลอร์) และปู่ย่าตายายทั้งสองคู่ ของเขา แต่เต็มไปด้วยความรัก คือโรงงานช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของวิลลี่วองก้า (จอห์นนีเดปป์) และเขาจะม่อยหลับไป เรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิด และนำมันไปซื้อช็อคโกแล็ตวองก้าชนิดผสมเข้าเนื้อเนียนเหนียวนุ่มแสนอร่อย และมันจะอร่อยแค่ไหน ปู่โจ (เดวิดเคลลี่) ของเขา ตอนที่เขาเคยทำงานในโรงงานก่อนที่วิลลี่ ทั้งครอบครัวตกลงใจว่าปู่โจควรเป็นคนที่จะไปกับชาร์ลี เมื่อได้เข้าไปข้างใน ด้วยการประดิษฐ์ขึ้นมาโดยวองก้าเองซึ่งกวนส่วนผสมส่งเสียงและผิวปากในระหว่างที่สร้างสรรค์ขนมแปลก ๆ ใหม่ ๆ นานาชนิดบรรดาคนงานชาวอูมปา - ลูมป้าส์ (ดีพรอย) จอห์นนีเดปป์ เฟรดดี้ไฮร์มอร์และเดวิด ในขณะเดียวกันที่บรรดาเด็กคนอื่น ๆ ทำตัวเกเรและคิดถึง แต่เรื่องของตัวเอง ความโลภความเอาแต่ใจตัวเองความหยาบคายร้ายกาจและรู้ดีไปหมดได้นำพวกเขาไปสู่ความยุ่งยาก บั๊คเก็ตตัวน้อยวิลลี่วองก้าก็เผยความลับสุดท้ายของเขารางวัลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี: กุญแจโรงงาน วองก้ารู้สึกว่า ใครสักคนที่เขาเชื่อได้ว่าจะสานต่องานแห่งชีวิตของเขา เพื่อเลือกเด็กคนหนึ่งที่พิเศษสุดสิ่งที่เขาไม่เคยคาดหวังไว้ก็คือ เป็นการตอบแทนแก่เขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แทบทุกคืนในบ้านของพวกบั๊คเก็ตอาหารเย็นคือซุปกะหล่ำน้ำใสหนึ่งชามซึ่งเด็กน้อยชาร์ลี ( เฟรดดี้ไฮร์มอร์ ) เต็มใจยิ่งที่จะแบ่งปันกับแม่ ( เฮเลน่าบอนแนมคาร์เตอร์ ) และพ่อ ( โนอาห์เทย์เลอร์ )บ้านของพวกเขาเป็นบ้านเก่าโกโรโกโสหลังเล็กที่ใกล้จะพังเต็มทีแต่เต็มไปด้วยความรักสิ่งสุดท้ายที่ชาร์ลีเห็นจากหน้าต่างบ้านคือโรงงานช็อคโกแล็ตขนาดใหญ่ของวิลลี่วองก้า ( จอห์นนีเดปป์ ) และเขาจะม่อยหลับไป
แต่แล้วเรื่องมหัศจรรย์ก็บังเกิดชาร์ลีเก็บเงินได้จากถนนที่คลุมไปด้วยหิมะและนำมันไปซื้อช็อคโกแล็ตวองก้าชนิดผสมเข้าเนื้อเนียนเหนียวนุ่มแสนอร่อยด้วยความคิดเพียงว่าเขาหิวโซขนาดหนักและมันจะอร่อยแค่ไหนมันคือตั๋วใบสุดท้าย .. ชาร์ลีจะได้ไปที่โรงงาน !ปู่โจ ( เดวิดเคลลี่ ) ของเขาตื่นเต้นกับข่าวนี้มากเสียจนกระเด้งลุกออกจากเตียงได้ราวกับว่าอายุน้อยลงไปหลายปีในทันทีทันใดและระลึกได้ถึงช่วงเวลาที่เคยมีความสุขกว่านี้ตอนที่เขาเคยทำงานในโรงงานวองก้าจะปิดประตูด้านที่ติดกับเมืองตลอดกาลทั้งครอบครัวตกลงใจว่าปู่โจควรเป็นคนที่จะไปกับชาร์ลีในการผจญภัยครั้งหนึ่งในชีวิตของเขาเมื่อได้เข้าไปข้างในเครื่องไม้เครื่องมืออัศจรรย์ที่ส่องประกายแวววาวด้วยการประดิษฐ์ขึ้นมาโดยวองก้าเองซึ่งกวนส่วนผสมส่งเสียงและผิวปากในระหว่างที่สร้างสรรค์ขนมแปลกๆใหม่ๆนานาชนิดบรรดาคนงานชาวอูมปา - ลูมป้าส์ ( ดีพรอย )

จอห์นนีเดปป์เฟรดดี้ไฮร์มอร์และเดวิดเคลลี่ในภาพยนตร์ชาร์ลีได้แต่คาดเดาว่าที่จริงแล้วเขาเป็นใครกันแน่และทำไมเขาจึงอุทิศชีวิตให้กับการทำขนมหวานนั้นในขณะเดียวกันที่บรรดาเด็กคนอื่นๆทำตัวเกเรเสียจนแทบไม่ชื่นชมกับงานประดิษฐ์ที่น่าอัศจรรย์ของวองก้าความโลภความเอาแต่ใจตัวเองความหยาบคายร้ายกาจและรู้ดีไปหมดได้นำพวกเขาไปสู่ความยุ่งยากที่บีบบังคับให้ต้องออกจากการชมโรงงาน
เมื่อเหลือเพียงแค่ชาร์ลีบั๊คเก็ตตัวน้อยวิลลี่วองก้าก็เผยความลับสุดท้ายของเขารางวัลใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมี :กุญแจโรงงานหลังจากที่โดดเดี่ยวจากครอบครัวมาแสนนานวองก้ารู้สึกว่าถึงเวลาที่เขาจะต้องหาผู้สืบทอดจักรวาลขนมหวานของเขาใครสักคนที่เขาเชื่อได้ว่าจะสานต่องานแห่งชีวิตของเขาเพื่อเลือกเด็กคนหนึ่งที่พิเศษสุดสิ่งที่เขาไม่เคยคาดหวังไว้ก็คือการกระทำที่โอบอ้อมอารีอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ครั้งนี้อาจนำมาซึ่งของขวัญล้ำค่ายิ่งกว่าอันหาใดเทียมเป็นการตอบแทนแก่เขา