This study evaluated the efficacy o

This study evaluated the efficacy of the yeast Pichia membranaefaciens alone or in combination with chitosan in controlling anthracnose in citrus fruits. The possible mechanisms were also analyzed. Results showed that the combination of P. membranaefaciens (1 × 108 cells/mL) and chitosan (0.01%, w/v) was better than the yeast alone in inhibiting Colletotrichum gloeosporioides infections. P. membranaefaciens which exhibited an antagonistic activity, attached to the hyphae of C. gloeosporioides and competed for space and nutrients. P. membranaefaciens secreted hydrolytic enzymes, such as chitinase and β-1,3-glucanase in Lilly–Barnett minimal salt medium supplied with cell wall preparation of C. gloeosporioides as the sole carbon source. Moreover, the yeast could survive with chitosan at a relative low concentration in vivo and in vitro. Chitosan inhibited spore germination and mycelial growth of C. gloeosporioides, and it induced marked morphological and structural changes of the pathogen. The beneficial effect of chitosan on enhancing the biocontrol activity of P. membranefaciens in inhibiting the anthracnose of citrus fruits is a result of the interactions among chitosan, P. membranaefaciens, C. gloeosporioides, and the citrus fruits

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ประเมินประสิทธิภาพของยีสต์ Pichia membranaefaciens คนเดียว หรือร่วมกับไคโตซานในการควบคุม anthracnose ในผลไม้ส้ม ยังมีวิเคราะห์กลไกที่เป็นไปได้ ผลการศึกษาพบว่าชุดของ P. membranaefaciens (1 × 108 เซลล์/มิลลิลิตร) และไคโตซาน (0.01%, w/v) ดีกว่ายีสต์เพียงอย่างเดียวในการยับยั้งเชื้อ Colletotrichum gloeosporioides P. membranaefaciens ซึ่งจัดแสดงกิจกรรมเป็นปรปักษ์ แนบ hyphae ของ C. gloeosporioides และแข่งขันสำหรับพื้นที่และสารอาหาร P. membranaefaciens หลั่งเอนไซม์ไฮโดรไลติก เช่น chitinase และβ-1, 3-glucanase ในลิลลี่ – บาร์เน็ตต์เกลือปานกลางน้อยที่สุดมาพร้อมกับการเตรียมผนังเซลล์ C. gloeosporioides เป็นแหล่งคาร์บอนแต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ ยีสต์สามารถอยู่รอด ด้วยไคโตซานที่ความเข้มข้นต่ำสุดสัมพัทธ์ในหลอดทดลอง และในสัตว์ทดลอง ไคโตซานยับยั้งการงอกของสปอร์ และเจริญเติบโต mycelial ของ C. gloeosporioides และเกิดเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐาน และโครงสร้างของเชื้อโรค ผลประโยชน์ของไคโตซานเสริมกิจกรรม biocontrol ของ P. membranefaciens ในการยับยั้ง anthracnose ของผลไม้ส้มเป็นผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างไคโตซาน P. membranaefaciens, C. gloeosporioides และผลไม้ส้ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ได้รับการประเมินประสิทธิภาพของ membranaefaciens ยีสต์ Pichia เพียงอย่างเดียวหรือใช้ร่วมกับไคโตซานในการควบคุมแอนแทรกโนในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว กลไกที่เป็นไปได้นอกจากนี้ยังถูกนำมาวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่าการรวมกันของพี membranaefaciens (1 × 108 เซลล์ / มิลลิลิตร) และไคโตซาน (0.01% w / v) ก็ยังดีกว่ายีสต์เพียงอย่างเดียวในการยับยั้งเชื้อรา Colletotrichum gloeosporioides การติดเชื้อ พี membranaefaciens ซึ่งแสดงกิจกรรมปฏิปักษ์ที่แนบมากับเส้นใยของ C. gloeosporioides และการแข่งขันสำหรับพื้นที่และสารอาหาร พี membranaefaciens หลั่งเอนไซม์ย่อยสลายเช่นไคติเนสและβ-1,3-glucanase ในสื่อเกลือน้อยลิลลี่-บาร์เน็ตต์ที่มาพร้อมกับการเตรียมความพร้อมของผนังเซลล์ของ C. gloeosporioides เป็นแหล่งคาร์บอน แต่เพียงผู้เดียว นอกจากนี้ยีสต์สามารถอยู่รอดได้ด้วยไคโตซานที่ความเข้มข้นต่ำเมื่อเทียบกับในร่างกายและในหลอดทดลอง ไคโตซานมีฤทธิ์ยับยั้งการงอกของสปอร์และการเจริญเติบโตของเส้นใย C. gloeosporioides และชักนำการทำเครื่องหมายการเปลี่ยนแปลงทางสัณฐานวิทยาและโครงสร้างของเชื้อโรค ผลประโยชน์ของไคโตซานต่อการเสริมสร้างกิจกรรมการควบคุมทางชีวภาพของพี membranefaciens ในการยับยั้งแอนแทรกโนของผลไม้ส้มเป็นผลมาจากการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างไคโตซาน, P. membranaefaciens, C. gloeosporioides และผลไม้ส้ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาการประเมินความสามารถของยีสต์ pichia membranaefaciens คนเดียวหรือใช้ร่วมกับไคโตซานในการควบคุมโรคแอนแทรคโนสในผลไม้ส้ม กลไกที่เป็นไปได้คือ ยังวิเคราะห์ ผลการศึกษาพบว่า การรวมกันของ พี membranaefaciens ( 1 × 108 เซลล์ / มิลลิลิตร ) และไคโตซาน ( 0.01 % W / V ) ได้ดีกว่ายีสต์คนเดียวในการยับยั้งเชื้อ Colletotrichum gloeosporioides . หน้า membranaefaciens ซึ่งมีพันธุกรรมที่แนบกับของ C . gloeosporioides ) และการแข่งขันสำหรับพื้นที่ และรัง หน้า membranaefaciens หลั่งเอนไซม์ย่อยสลาย เช่น ไคติเนส และบีตา - 1 ในลิลลี่– Barnett minimal medium เกลือพร้อมกับการเตรียมการของ C . gloeosporioides ผนังเซลล์เป็นแหล่งคาร์บอน นอกจากนี้ยีสต์สามารถอยู่รอดด้วยไคโตซานที่ความเข้มข้นต่ำญาติชนิดหลอด ไคโตซานสามารถยับยั้งการงอกของสปอร์และการเจริญเติบโตของเชื้อรา C . gloeosporioides ได้ดีที่สุด และเกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสัณฐานวิทยาและเครื่องหมายของเชื้อโรค ผลประโยชน์ของไคโตซานในการส่งเสริมกิจกรรมของ พี ไบโอคอนโทรล membranefaciens ในการยับยั้งโรคแอนแทรคโนสของผลไม้ส้มเป็นผลของปฏิสัมพันธ์ระหว่างไคโตซาน , หน้า membranaefaciens , C . gloeosporioides และผลไม้ตระกูลส้ม