If a borrower was delinquent in mak

If a borrower was delinquent in making timely mortgage payments, the lender would in most
cases take possession of the property in a process called foreclosure. Mortgage delinquencies
can be traced back to 2004 when interest rates started to rise. In 2004 the US Federal Reserve
started a cycle of interest rate rises that would lift borrowing costs from 1%, their lowest
since the 1950s. In fact it went on to increase interest rates 17 times in a row as it tried to
slow inflation. It paused in June 2006, setting the cost of borrowing costs at 5.25%. These
increases pushed many ARMs beyond the means of borrowers. It tipped borrowers over the
edge, making repayments unaffordable and contributed to the mortgage crisis. By the fourth
quarter of 2007, the rate of serious delinquency as measured by credit records stood at 2% of all
mortgage borrowers, up nearly 50% from the end of 2004.9 To understand the financial scale
of the problem, by November 2007 the value of US subprime mortgage payments outstanding
was estimated at $1.4 trillion.10 By October 2007, approximately 16% of subprime ARMs
were delinquent (Bernanke 2007). By January 2008, the delinquency rate had risen to 21%
and by May 2008 it was 25% (Bernanke 2008a, 2008b).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถ้าผู้กู้ยืมพ่อเงินจำนองทันเวลา ผู้ให้กู้จะเป็นกรณีใช้ความครอบครองของคุณสมบัติในกระบวนการเรียกว่า foreclosure Delinquencies จำนองสามารถติดตามย้อนกลับไปปี 2004 เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มสูงขึ้น ในปี 2004 รัฐบาลกลางสหรัฐฯ จองห้องพักเริ่มต้นวงจรการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่จะยกต้นทุนการกู้ยืมเงินจาก 1% ความต่ำตั้งแต่ ในความเป็นจริงมันก็จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 17 ในแถวตามความพยายามอัตราเงินเฟ้อที่ช้า มันหยุดชั่วคราวในเดือน 2006 มิถุนายน การต้นทุนของการกู้ยืมต้นทุนที่ 5.25% เหล่านี้เพิ่มดันแผ่นดินมากมายนอกเหนือจากวิธีการของผู้กู้ มันก้นผู้กู้ผ่านการขอบ การโอนชำระหรอกเกิดวิกฤตสินเชื่อบ้าน และข้าวยากหมากแพง โดยสี่ไตรมาสของปี 2007 อัตราลงรุนแรงวัดโดยระเบียนสินเชื่ออยู่ที่ 2% ของทั้งหมดผู้กู้จำนอง ขึ้นเกือบ 50% จากสิ้น 2004.9 เข้าใจมาตราส่วนทางการเงินปัญหา 2550 พฤศจิกายนโดย ค่าของ subprime ของสหรัฐฯ จำนองค้างชำระได้ประมาณที่ trillion.10 $1.4 โดย 2007 ตุลาคม ประมาณ 16% ของแผ่นดินฤตมีพ่อ (Bernanke 2007) โดย 2551 มกราคม อัตราการเปลี่ยนได้เพิ่มขึ้น 21%และ โดย 2008 may ก็ 25% (Bernanke 2008a, 2008b)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หากผู้กู้ที่ค้างชำระได้ในการชำระเงินจำนองทันเวลาผู้ให้กู้จะมากที่สุดในกรณีที่จะเข้าครอบครองอสังหาริมทรัพย์ในกระบวนการที่เรียกว่าการยึดสังหาริมทรัพย์ ลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระสินเชื่อที่อยู่อาศัยสามารถสืบย้อนกลับไปปี 2004 เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มขึ้น
ในปี 2004
ธนาคารกลางสหรัฐเริ่มวงจรของการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยที่จะยกต้นทุนการกู้ยืมตั้งแต่วันที่1%
ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี1950 ในความเป็นจริงมันไปในการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 17
ครั้งในแถวในขณะที่มันพยายามที่จะชะลออัตราเงินเฟ้อ มันหยุดชั่วคราวในเดือนมิถุนายนปี 2006 การตั้งค่าใช้จ่ายของต้นทุนการกู้ยืมที่ 5.25%
เหล่านี้เพิ่มขึ้นผลักดันแขนหลายนอกเหนือหมายของผู้กู้
มันปลายกู้กว่าขอบทำให้การชำระคืนเงินมาและมีส่วนทำให้วิกฤติการจำนอง โดยที่สี่ไตรมาสของปี 2007 อัตราการกระทำผิดร้ายแรงโดยวัดจากบันทึกเครดิตอยู่ที่ 2% ของทั้งหมดที่ผู้กู้จำนองเพิ่มขึ้นเกือบ50% จากสิ้น 2,004.9 ในการทำความเข้าใจในระดับทางการเงินของปัญหาในเดือนพฤศจิกายน 2007 ค่าของ การชำระเงินซับไพรม์สหรัฐจำนองที่โดดเด่นอยู่ที่ประมาณ$ 1.4 trillion.10 เดือนตุลาคมปี 2007 ประมาณ 16% ของแขนซับไพรม์ได้กระทำผิด(เบอร์นันเก้ 2007) โดยเดือนมกราคม 2008 อัตราการกระทำผิดได้เพิ่มขึ้นถึง 21% และในเดือนพฤษภาคม 2008 มันเป็น 25% (เบอร์นันเก้ 2008a, 2008b)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ถ้าผู้กู้เป็นอันธพาลในการชำระเงินจำนองเวลากู้จะในกรณีส่วนใหญ่
เข้าครอบครองทรัพย์สินในกระบวนการที่เรียกว่าการจำนอง delinquencies จำนอง
สามารถสืบย้อนไปถึงปี 2004 เมื่ออัตราดอกเบี้ยเริ่มสูงขึ้น ในปี 2004 เรา Federal Reserve
เริ่มวัฏจักรของอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นนั้นจะทำให้ต้นทุนการกู้ยืมจาก 1% ของตนสุด
ตั้งแต่ปี 1950ในความเป็นจริงมันก็จะเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 17 ครั้งในแถว มันพยายาม
ชะลอเงินเฟ้อ มันหยุดในเดือนมิถุนายน 2006 , การตั้งค่าค่าใช้จ่ายของต้นทุนการกู้ยืมที่ 5.25 % เหล่านี้
เพิ่มหลายนอกเหนือจากวิธีการผลักแขนของผู้กู้ มันบอกกู้ผ่าน
ขอบ การชำระคืน unaffordable และส่วนวิกฤตจำนอง โดยไตรมาสที่สี่
2007อัตราการกระทำผิดร้ายแรงซึ่งเป็นประวัติเครดิตอยู่ที่ 2% ของผู้กู้จำนองทั้งหมด
ขึ้นเกือบ 50% จากสิ้นปี 2004.9 เข้าใจระดับทางการเงิน
ของปัญหา โดยเดือนพฤศจิกายน 2550 มูลค่าของลูกหนี้จำนองการชำระเงินเราโดดเด่น
ประมาณ $ 1.4 trillion.10 ภายในเดือนตุลาคม 2550 ประมาณ 16 % ของช่วงแขน
ถูกอันธพาล ( ปี 2007 ) ในเดือนมกราคม 2008การลงคะแนนได้เพิ่มขึ้นถึง 21 %
และโดยพฤษภาคม 2551 เป็น 25% ( 2008a 2008b Bernanke , )