In 1948 Earle Swensen opened his ic

In 1948 Earle Swensen opened his ice cream store on Hyde and Union Streets. Since then, more than 180 flavors have been created, Swensen's franchises have opened worldwide, and Swensen became a multimillionaire.

Earle Swensen, the son of a Norwegian brick mason, started making ice cream on a Navy troop ship in the South Pacific during World War II. He only had the ingredients for vanilla, chocolate, and strawberry, but he said the sailors didn't care what flavor he made – they just wanted something cold in the hot climate. Back in San Francisco, he became a Deputy City Assessor. When a small store became vacant on Russian Hill, he started his empire with $750. Realizing he needed more capital, he borrowed an additional $5000. Swensen listened to his customers and started creating ice cream per their requests. He increased the butterfat content to 14%, which was unusual at that time. His reasoning was that many people smoked or had cocktails before dinner – they needed the extra butterfat to enjoy the flavor because their taste buds were not as sharp. He always had ice cream for dessert, and although vanilla was one of his favorite flavors, he personally created many new ones. He said that when he invented a new flavor, he would sometimes wake up his wife Nora Mae in the middle of the night because Adam’s Apple or Caramel Cashew was too exciting to keep to himself.

Marilyn Hemby Berger, who grew up on Green Street between Hyde and Larkin, told GuideLines that San Francisco has always been a city of ethnic neighborhoods, and this area was Italian. In the early 1950s the neighborhood had a small town feeling. Marilyn remembers that on every holiday, her grandmother would fill a plate with the food the family was eating for dinner and give it to the cable car drivers. On the return run, the drivers returned the empty plates.

According to Marilyn, whose older brother scooped ice cream at Swensen’s as a teenager, it was the first store that sold only ice cream. Before that people went to drug store soda fountains. Across the street from Swensen’s was the Searchlight Market, a mom-and-pop store that is still there. On the other corner one can still see on the transom the name of Home Drugs, now replaced by a gift and home furnishings store. The cable car ran down the street. She has fond memories of Halloween when Swensen gave out small children’s-sized cones with orange sherbet and chocolate ice cream. Other people remember it as pumpkin and licorice – but everyone agrees that it was Earle himself giving out the free cones.

Marilyn’s friend Pat Stone (they lived next door to each other) remembers Swensen as a very generous and kind man. “This was our favorite place, our hangout. There was a group of 15 to 20 kids from the block who would go to Swensen’s almost every day.” Pat also remembers Earle Swensen being at the store every day for long hours. Her favorite ice cream was pistachio with the cone dipped in chocolate. Marilyn loved the Sticky Chewy Chocolate. Both Marilyn and Pat remember that parking in the neighborhood was just as bad then as it is today. When we think back to the 1950s, we think it must have been easier to find a place to park, but Pat says no one had garages – this was before the houses were raised and garages added. Both women eventually moved to the suburbs – that is, the Sunset District.

Earle Swensen began franchising in the 1960s with the idea that each owner could operate his own store, and by 1976 he was grossing over $20 million a year. He sold the chain in the early 1980s but kept the original store. Swensen lived until the age of 83. The company has had several acquisitions, became a publicly owned inter-national company, and had some downturns due to competition from the rise of premium ice cream and yogurt brands in supermarkets. They added a line of low-fat frozen yogurts for the calorie conscious, but have kept flavors like Sticky Chewy Chocolate – still being scooped at the flagship store at Hyde and Union.

Sources: San Francisco Chronicle, 4/2/73 and 10/22/76 Interviews with Marilyn Berger and Pat Stone

Historic photo reprinted with permission, SF History Center, SF Public Library

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใน 1948 Earle สเวนเปิดร้านไอศครีมของเขาบนถนนยูเนียนและไฮด์ จึง กว่า 180 รสชาติได้ เปิดแฟรนไชส์สเวนเซ่นส์ทั่วโลก และสเวนกลายเป็น multimillionaire ที่เมสัน Earle สเวน บุตรของอิฐนอร์เวย์ เริ่มทำไอศกรีมบนเรือกำลังพลเรือในแปซิฟิกใต้ในระหว่างสงครามโลก เขามีส่วนผสม กับวานิลลา ช็อกโกแลต สตรอเบอร์รี่ เพียง แต่เขากล่าวว่า ลูกเรือไม่ได้ดูแลอะไรเขาทำรสชาติ – พวกเขาต้องเย็นบางสิ่งบางอย่างในสภาพอากาศร้อน ใน San Francisco เขาประเมินเป็นเมืองรอง เมื่อร้านค้าขนาดเล็กกลายเป็นว่างรัสเซียเขา เขาเริ่มต้นอาณาจักรของเขากับ $750 เพราะเขาต้องการเงินทุนเพิ่มเติม เขายืมเพิ่มเติม 5000 $ สเวนฟังลูกค้าของเขา และเริ่มสร้างไอศกรีมต่อคำขอ เขาเพิ่มเนื้อหาของ 14% ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติที่ เหตุผลของเขาได้ว่า พวกเขาจำเป็นของพิเศษเพลิดเพลินไปกับรสชาติของต่อมรับรสได้ไม่คมชัดเพราะคนรมควัน หรือมีค็อกเทลก่อนอาหารค่ำ– เขามักจะมีไอศครีมของหวาน และแม้ว่าวานิลลารสชาติของเขาชื่นชอบอย่างใดอย่างหนึ่ง เขาสร้างใหม่หลายตัว เขากล่าวว่า เมื่อเขาคิดค้นรสชาติใหม่ เขาจะบางครั้งปลุกภรรยาแม่โนราห์ในตอนกลางคืนเพราะลูกกระเดือกหรือมะม่วงหิมพานต์คาราเมลน่าตื่นเต้นเกินไปที่จะให้ตัวเองเบอร์เกอร์ Hemby มาริลี ที่เติบโตบนถนนสีเขียวระหว่างไฮด์ Larkin บอกแนวทางว่า San Francisco ได้เสมอเมืองของย่านชาติพันธุ์ และพื้นที่นี้อิตาลี ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 ใกล้มีความรู้สึกที่เมืองเล็ก ๆ มาริลีจำว่า ทุก ยายจะใส่จานอาหารที่ครอบครัวได้รับประทานอาหารเย็น และให้ขับรถสาย ในคืนที่ทำงาน โปรแกรมควบคุมคืนแผ่นเปล่าตามพี่ลากไอศกรีมที่สเวนเซ่นส์เป็นวัยรุ่น มาริลีก็ร้านขายไอศครีมเท่านั้น ก่อนที่ ท่านไปร้านขายยาน้ำพุโซดา จากสเวนเซ่นส์คือตลาดไฟฉาย ร้านค้า mom-and-pop ที่ยังคงมี ในมุมอื่นๆ หนึ่งสามารถยังคงดูบนกรอบวงกบด้านในชื่อของยาเสพติดบ้าน ตอนนี้ ถูกแทนที่ ด้วยการตกแต่งของขวัญและบ้านเก็บ รถรางวิ่งอยู่ เธอมีทรงของฮาโลวีนเมื่อสเวนให้กรวยเล็กขนาดเด็กเชอร์เบทส้มและไอศครีมช็อคโกแลต คนอื่น ๆ ก็เป็นฟักทองและชะเอม – แต่ทุกคนยอมรับว่า มันเป็น Earle เองให้กรวยฟรีเพื่อนของมาริลีหิน Pat (พวกเขาอาศัยอยู่หลัง) จำสเวนเป็นคนใจกว้าง และเมตตามาก "นี้เป็นสถานที่ที่ชื่นชอบของเรา แฮงเอาท์ของเรา มีเป็นกลุ่มเด็ก 15-20 จากบล็อกจะไปสเวนเซ่นส์เกือบทุกวัน" Pat จะจำ Earle สเวนเป็นที่ร้านทุกวันเวลานาน ไอศกรีมของเธอชื่นชอบคือ pistachio ด้วยกรวยจุ่มลงในช็อคโกแลต มาริลีรักช็อกโกแลตเหนียวเหนียว มาริลีและ Pat จำที่ จอดรถในย่านเป็นเพียงแค่ไม่ดีเป็นแล้วก็วันนี้ เมื่อเราคิดกลับไปปี 1950 เราคิดว่า มันต้องได้รับการค้นหาจอดง่าย แต่ Pat กล่าวว่า ไม่มีอู่ – นี้เป็นบ้านถูกยกขึ้น และอู่เพิ่ม ผู้หญิงทั้งสองในที่สุดย้ายไปอยู่ชานเมืองคือ อำเภอพระอาทิตย์ตกEarle สเวนเริ่มแฟรนไชส์ในปี 1960 มีความคิดว่า แต่ละเจ้าอาจมีร้านของตัวเอง และ 1976 รายได้กว่าของเขาได้ที่ $20 ล้านปี เขาขายโซ่ในต้นทศวรรษ 1980 แต่เก็บเก็บเดิม สเวนอยู่จนกระทั่งอายุ 83 บริษัทมีการซื้อหลาย กลายเป็น บริษัทข้ามชาติสาธารณะ และมีโลหะบางเนื่องจากการแข่งขันจากการเพิ่มขึ้นของไอศครีมพรีเมี่ยมและแบรนด์โยเกิร์ตในซูเปอร์มาร์เก็ต เพิ่มบรรทัดของแช่แข็งดาวสำหรับแคลอรี่สติไขมันต่ำ แต่มีเก็บรสชาติเช่นเหนียวเหนียวช็อกโกแลต – ยังคงถูกลากที่ร้านเรือธงที่ไฮด์และสหภาพที่มา: San Francisco พงศาวดาร 4/2/73 และ 10/22/76 สัมภาษณ์กับมาริลีเบอร์เกอร์และ Pat หินภาพประวัติศาสตร์พิมพ์สิทธิ์ ศูนย์ประวัติศาสตร์ SF ห้องสมุดประชาชน SF

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1948 เอิร์ลสเวนเซ่นส์เปิดร้านไอศครีมของเขาในไฮด์และยูเนี่ยนถนน ตั้งแต่นั้นมากว่า 180 รสชาติที่ได้รับการสร้างแฟรนไชส์สเวนเซ่นส์ได้เปิดทั่วโลกและสเวนเซ่นส์กลายเป็นมหาเศรษฐี. เอิร์ลสเวนเซ่นส์ลูกชายของอิฐนอร์เวย์เมสันที่เริ่มทำไอศครีมในกองเรือนาวีในแปซิฟิกใต้ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่สอง เขามีเพียงส่วนผสมสำหรับวานิลลาช็อคโกแลตและสตรอเบอร์รี่ แต่เขาบอกว่าลูกเรือไม่ได้สนใจสิ่งที่เขาทำรสชาติ - พวกเขาเพียงแค่ต้องการสิ่งที่เย็นในสภาพภูมิอากาศร้อน ย้อนกลับไปในซานฟรานซิเขาก็กลายเป็นเมืองรองผู้ประเมิน เมื่อร้านเล็ก ๆ กลายเป็นที่ว่างในรัสเซียฮิลล์เขาเริ่มอาณาจักรของเขากับ $ 750 รู้ว่าเขาจำเป็นต้องใช้เงินทุนมากขึ้นเขายืมมาเพิ่มอีก $ 5,000 สเวนเซ่นฟังให้กับลูกค้าของเขาและเริ่มต้นการสร้างไอศครีมต่อคำขอของพวกเขา เขาเพิ่มขึ้นเนื้อหาเนยถึง 14% ซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติในช่วงเวลานั้น เหตุผลของเขาคือการที่คนจำนวนมากรมควันหรือมีเครื่องดื่มค็อกเทลก่อนอาหารค่ำ - พวกเขาจำเป็นเนยพิเศษเพลิดเพลินไปกับรสชาติเพราะรสชาติของพวกเขาไม่เป็นคม เขามักจะมีไอศครีมสำหรับขนมและแม้ว่าวานิลลาเป็นหนึ่งในรสชาติที่ชื่นชอบของเขาเองที่สร้างขึ้นใหม่จำนวนมาก เขาบอกว่าตอนที่เขาคิดค้นรสชาติใหม่บางครั้งเขาก็จะตื่นขึ้นมาภรรยาของเขาโนราห์แม่ในตอนกลางคืนเพราะอดัมแอปเปิ้ลหรือคาราเมลมะม่วงหิมพานต์เป็นที่น่าตื่นเต้นเกินไปที่จะให้กับตัวเอง. มาริลีน Hemby เบอร์เกอร์ที่เติบโตขึ้นมาบนถนนสีเขียวระหว่าง ไฮด์และเฟร็ดดี้บอกแนวทางที่ซานฟรานซิได้เสมอเมืองละแวกใกล้เคียงชาติพันธุ์และพื้นที่นี้เป็นอิตาเลี่ยน ในช่วงต้นทศวรรษ 1950 พื้นที่ใกล้เคียงมีความรู้สึกเมืองเล็ก ๆ มาริลีนจำได้ว่าในทุกวันหยุดคุณยายของเธอจะเติมจานกับอาหารในครอบครัวก็รับประทานอาหารสำหรับอาหารค่ำและให้กับคนขับรถสาย วิ่งกลับมาขับรถกลับแผ่นที่ว่างเปล่า. ตามที่มาริลีนซึ่งเป็นพี่ชายอุ้มไอศครีมสเวนเซ่นส์ที่เป็นวัยรุ่นมันเป็นร้านแรกที่ขายเพียงไอศครีม ก่อนที่คนที่ไปร้านขายยาโซดา ข้ามถนนจากสเวนเซ่นส์เป็นตลาด Searchlight ร้านแม่และป๊อปที่ยังคงมีอยู่ ในอีกมุมหนึ่งยังสามารถดูได้ที่ท้ายชื่อของยาเสพติดที่บ้านตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยของขวัญและตกแต่งบ้านร้านค้า รถสายวิ่งไปตามถนน เธอมีความรักความทรงจำของวันฮาโลวีนเมื่อสเวนเซ่นส์ให้ออกเด็กที่มีขนาดเล็กด้วยกรวยไอศกรีมเชอร์เบทส้มและไอศครีมช็อคโกแลต คนอื่น ๆ จำได้ว่ามันเป็นฟักทองและชะเอม - แต่ทุกคนเห็นพ้องว่ามันเป็นเอิร์ลตัวเองให้ออกกรวยฟรี. เพื่อนของมาริลีนแพทสโตน (พวกเขาอาศัยอยู่ประตูถัดไปแต่ละอื่น ๆ ) จำได้ว่าสเวนเซ่นส์เป็นคนใจกว้างมากและใจดี "นี่เป็นสถานที่โปรดของเราแฮงเอาท์ของเรา มีกลุ่มของ 15 ถึง 20 เด็กที่มาจากบล็อกที่จะไปที่สเวนเซ่นส์เกือบทุกวันเป็น. "แพทยังจำได้ว่าเอิร์ลสเวนเซ่นส์เป็นที่ร้านทุกวันเป็นเวลานาน ไอศครีมที่ชื่นชอบของเธอถูก Pistachio กับกรวยจุ่มลงในช็อคโกแลต มาริลีนรักช็อคโกแลต Sticky Chewy ทั้งมาริลีนและแพทจำไว้ว่าที่จอดรถในบริเวณใกล้เคียงเป็นเช่นเดียวกับที่ไม่ดีนั้นมันเป็นวันนี้ เมื่อเราคิดว่ากลับไปปี 1950 เราคิดว่ามันจะต้องได้รับง่ายที่จะหาสถานที่จอด แต่แพทกล่าวว่าไม่มีใครมีโรงรถ - นี้คือก่อนที่บ้านถูกยกขึ้นและโรงรถเพิ่ม ผู้หญิงทั้งสองคนในที่สุดก็ย้ายไปอยู่ชานเมือง -. ว่ามีพระอาทิตย์ตกอำเภอเอิร์ลสเวนเซ่นส์เริ่มแฟรนไชส์ในปี 1960 ด้วยความคิดที่ว่าเจ้าของแต่ละคนสามารถทำงานร้านของเขาเองและ 1976 โดยเขาได้รับการทำรายได้กว่า $ 20 ล้านบาทต่อปี เขาขายห่วงโซ่ในช่วงต้นปี 1980 แต่ยังคงเก็บเดิม สเวนเซ่นส์อาศัยอยู่จนอายุ 83 บริษัท ได้มีการเข้าซื้อกิจการหลายแห่งกลายเป็น บริษัท ระหว่างชาติเป็นเจ้าของและมีบางตกต่ำเนื่องจากการแข่งขันจากการเพิ่มขึ้นของพรีเมี่ยมไอศครีมโยเกิร์ตและแบรนด์ในซูเปอร์มาร์เก็ต พวกเขาเพิ่มสายของโยเกิร์ตแช่แข็งไขมันต่ำแคลอรี่ที่ใส่ใจ แต่ได้เก็บรสชาติเหมือน Sticky Chewy ช็อคโกแลต - ยังคงถูกอุ้มที่ร้านเรือธงที่ไฮด์และยูเนี่ยน. ที่มา: San Francisco Chronicle, 4/2/73 และ 10 / 22/76 สัมภาษณ์กับมาริลีนเบอร์เกอร์และแพ็ตหินภาพประวัติศาสตร์พิมพ์ที่มีสิทธิ์, เอสเอฟศูนย์ประวัติศาสตร์ห้องสมุด SF สาธารณะ