Onion nutrient contents and bulb mi

Onion nutrient contents and bulb mineral uptakes were examined, to determine the nutritional status for optimum yield (Finket al., 1999; Zink, 1966). Bosch Serra (1999) reported that the equilibrium N:P:K:Ca:Mg for bulb nutrient uptakes was 8:1:9:2:0.3in bulb dry-matter yields around 11–13 t ha−1. Many researchers contributed to determining N, P, and K fertilizer application rates suitable for optimum yield with minimum cost. Nitrogen fertilization was of great importance for onion production, but also,higher N rates did not accompany higher bulb yield (Boyhan et al.,2007; Halvorson et al., 2008). Phosphorus or K fertilizer applied to onions provided a slightly positive effect, or frequently no effects on bulb yield (Amin et al., 2007; Boyhan et al., 2007; Laughlin, 1989;Lee et al., 2011). In a paddy soil having 46.3 g kg−1 organic matter(OM) and 728 mg kg−1 available phosphorus (P), increased fertilizer beyond the recommended rates and delayed split application timings decreased bulb yield and accumulated soil electric conductivity (EC), OM, exchangeable potassium (K), and nitrate nitrogen(NO3N) in soil at harvest (Lee et al., 2012).Long-term excessive application of chemical fertilizer accumulates nutrients in soil, which may result in increased susceptibility of onion root to high soil moisture content or water deficiency.Moreover, applied fertilizer or high soil nutrients content could notwork, or could depress nutrient uptakes, as well as crop growth or yield. Therefore, this study was undertaken to evaluate the nutrient contents and uptake, soil mineral contents, and interrelationships between soil physic-chemical properties and plant nutrients in along-term onion grown area.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เนื้อหาธาตุอาหารหอมและหลอดแร่ uptakes ได้ตรวจสอบ กำหนดโภชนาการสำหรับผลตอบแทนสูงสุด (Finket al., 1999 Zink, 1966) บ๊อช Serra (1999) รายงานว่า N:P:K:Ca:Mg สำหรับหลอด uptakes ธาตุอาหารสมดุลไม่ 8:1:9:2:0.3 ในหลอดแห้งเรื่องอัตราผลตอบแทนรอบ ha−1 t 11 – 13 นักวิจัยหลายส่วนการกำหนด N, P และ K ปุ๋ยใช้ราคาเหมาะสมกับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับต้นทุนที่ต่ำ ปฏิสนธิไนโตรเจนมีความสำคัญมากสำหรับการผลิตหัวหอม แต่ยัง ราคา N สูงไม่ได้กับผลผลิตหลอดไฟสูงขึ้น (Boyhan et al., 2007 Halvorson et al., 2008) ฟอสฟอรัสหรือปุ๋ย K กับหัวหอมให้ผลบวกเล็กน้อย หรือหลอดไฟไม่มีผลผลผลิต (เสื้อผ้าของ et al., 2007 บ่อย Boyhan et al., 2007 Laughlin, 1989 ลีเอส al., 2011) ในดินนาที่มี 46.3 g kg−1 matter(OM) อินทรีย์และ 728 mg kg−1 มีฟอสฟอรัส (P), ปุ๋ยเพิ่มขึ้นเกินอัตราแนะนำและหลอดแบ่งล่าช้าใช้เวลาลดลงผลผลิต และสะสมดินนำไฟฟ้า (EC), ออม กำนัลโพแทสเซียม (K), และ nitrogen(NO3N) ไนเตรตในดินที่เก็บเกี่ยว (Lee et al., 2012) ระยะยาวมากเกินไปใช้ปุ๋ยเคมีสะสมสารอาหารในดิน ที่เพิ่มความไวของรากหอมอาจทำให้ความชื้นสูงดินเนื้อหาหรือน้ำขาด นอกจากนี้ ใช้ปุ๋ยหรือสารอาหารของดินสูงเนื้อหาสามารถ notwork หรือไม่สามารถกด uptakes ธาตุอาหาร เป็นพืชเจริญเติบโต หรือผลผลิต ดังนั้น การศึกษานี้ได้ดำเนินการประเมินเนื้อหาธาตุอาหาร และการดูดซับ เนื้อหาแร่ดิน และ interrelationships ระหว่างสมบัติทางเคมีฟิสิกส์ของดินและสารอาหารพืชในหัวหอมตามระยะปลูกที่ตั้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หัวหอมเนื้อหาสารอาหารและแร่ธาตุหลอด uptakes มีการตรวจสอบเพื่อตรวจสอบภาวะโภชนาการที่เหมาะสมสำหรับผลผลิต (Finket อัล 1999. Zink, 1966) บ๊อช Serra (1999) รายงานว่ายังไม่มีความสมดุล: P: K: Ca: Mg สำหรับหลอดไฟสารอาหาร uptakes 8: 1: 9: 2: อัตราผลตอบแทน 0.3in หลอดแห้งเรื่องรอบวันที่ 11-13 ตันต่อเฮกตาร์ 1 นักวิจัยหลายคนมีส่วนร่วมในการกำหนด N, P, K และอัตราการใช้ปุ๋ยที่เหมาะสมสำหรับอัตราผลตอบแทนที่เหมาะสมกับค่าใช้จ่ายขั้นต่ำ การใส่ปุ๋ยไนโตรเจนมีความสำคัญมากสำหรับการผลิตหอมหัวใหญ่ แต่ยังสูงกว่าอัตราที่ยังไม่มีไม่ได้มาพร้อมกับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าหลอดไฟ (Boyhan et al, 2007;.. Halvorson et al, 2008) ฟอสฟอรัสหรือ K ปุ๋ยนำไปใช้กับหัวหอมให้ผลบวกเล็กน้อยหรือบ่อยครั้งไม่มีผลต่อผลผลิตหลอด (อามิน, et al, 2007;. Boyhan et al, 2007;. ลาฟลิน, 1989. ลี et al, 2011) ในดินนาที่มี 46.3 กรัมต่อกิโลกรัม-1 สารอินทรีย์ (OM) และ 728 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม-1 สามารถใช้ได้ฟอสฟอรัส (P) ปุ๋ยเพิ่มขึ้นเกินกว่าอัตราที่แนะนำและความล่าช้าในการกำหนดเวลาการประยุกต์ใช้แยกลดลงผลผลิตหลอดไฟและดินสะสมการนำไฟฟ้า (EC) OM โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ (K) และไนโตรเจนไนเตรต (NO3N) ในดินที่เก็บเกี่ยว (Lee et al., 2012) .Long ระยะแอพลิเคชันที่มากเกินไปของปุ๋ยเคมีสะสมธาตุอาหารในดินซึ่งอาจส่งผลให้เกิดความอ่อนแอที่เพิ่มขึ้นของรากต้นหอมไป ดินที่มีความชื้นสูงหรือ deficiency.Moreover น้ำใช้ปุ๋ยหรือสารอาหารในดินสูงเนื้อหาอาจ notwork หรืออาจกดดัน uptakes สารอาหารเช่นเดียวกับการเจริญเติบโตของพืชหรือผลผลิต ดังนั้นการศึกษาครั้งนี้ได้ดำเนินการประเมินเนื้อหาและการดูดซึมสารอาหารที่เนื้อหาแร่ดินและความสัมพันธ์ระหว่างดินคุณสมบัติทางฟิสิกส์เคมีและธาตุอาหารพืชในหัวหอมพร้อมระยะพื้นที่ปลูก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หอมใหญ่สารอาหารและการดูดซึมแร่เนื้อหาหลอดทดสอบเพื่อตรวจสอบภาวะโภชนาการสำหรับผลตอบแทนที่เหมาะสม ( finket al . , 1999 ; ซิงค์ , 1966 ) บ๊อช Serra ( 1999 ) รายงานว่า : N : P : K : CA : มก. สำหรับหลอดไฟให้มีสารอาหาร 8:1:9:2: 0.3in กระเปาะแห้ง ผลผลิตประมาณ 11 – 13 T ฮา− 1 นักวิจัยหลายคนมีส่วนกำหนด N , Pและ K ใส่ปุ๋ยอัตราผลผลิตด้วยต้นทุนที่เหมาะสม เหมาะสุด การใส่ปุ๋ย ไนโตรเจน มีความสําคัญมากสำหรับการผลิตหอมแต่ยังสูงกว่าอัตราที่ไม่ได้มาพร้อมกับหลอดไฟ N ผลผลิตสูง ( boyhan et al . , 2007 ; แฮลเวอร์สัน et al . , 2008 ) ปุ๋ยโพแทสเซียมฟอสฟอรัส หรือใช้กับหัวหอมให้ผลเป็นบวกเล็กน้อย หรือบ่อยครั้งที่ไม่มีผลหลอดไฟผลผลิต ( อามิน et al . , 2007 ;boyhan et al . , 2007 ; ลาฟลิน , 1989 ; ลี et al . , 2011 ) ในดินนาที่มี 46.3 กรัมต่อกิโลกรัม− 1 อินทรีย์วัตถุ ( OM ) และ 728 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม− 1 ฟอสฟอรัส ( P ) , เพิ่มปุ๋ยเกินกว่าราคาแนะนำ และล่าช้า การแบ่งเวลาลดลง ผลผลิตและการนำหลอดไฟสะสมดินไฟฟ้า ( EC ) , โอม , โพแทสเซียมที่แลกเปลี่ยนได้ ( K )และไนเตรทไนโตรเจน ( no3n ) ในดิน ที่เกี่ยว ( ลี et al . , 2012 ) ในระยะยาวมากเกินไปใช้ปุ๋ยเคมีสะสมสารอาหารในดินซึ่งอาจส่งผลในการเพิ่มความไวของหัวหอมรากความชื้นในดินสูง หรือขาดน้ำ นอกจากนี้ ใช้ปุ๋ยหรือสารอาหารในดินสูง เนื้อหาอาจ notwork หรือสามารถกดการดูดซึมธาตุอาหารตลอดจนการเจริญของพืชหรือผลผลิต ดังนั้น การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินและการดูดใช้ธาตุอาหารปริมาณแร่ดิน และปฏิสัมพันธ์ระหว่าง ฟิสิกส์ เคมี และธาตุอาหารพืชในดินตามระยะปลูกหอมหัวใหญ่ในพื้นที่