There is growing evidence to sugges

There is growing evidence to suggest that statin therapy is associated with an increased risk of incident diabetes. The risk for statin-related diabetes depends upon many factors including age, pre-existing diabetic risk, type and potency of statin. Several mechanisms have been suggested for the diabetogenic effects of statins involving processes that alter islet ß-cell function, resulting in impaired glucose metabolism. Recent evidence suggests that the association of statin therapy with the development of diabetes may be partly mediated by a statin-induced decrease in circulating adiponectin and coenzyme Q10. The available evidence suggests the benefit of statins in reducing cardiovascular events outweigh the risk of developing diabetes. Moreover, statin therapy does not impair glycemic control in diabetic patients. Expert recommendations for the use of statins in people at risk of developing diabetes have recently been published. However, further research is required to elucidate both the association between statin use and incident diabetes as well as underlying mechanisms.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีหลักฐานเพิ่มขึ้นเพื่อแนะนำการรักษาด้วยสแตตินจะเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงของโรคเบาหวานอุบัติเหตุ ความเสี่ยงจากโรคเบาหวานเกี่ยวข้องสแตตินขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยเช่นอายุ ที่อยู่ที่มีความเสี่ยงโรคเบาหวาน ชนิด และความแรงของสแตติน หลายกลไกมีการแนะนำสำหรับผล diabetogenic ของยากลุ่ม statin เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงฟังก์ชันß-cell อิสเล็ท เป็นผลในการเผาผลาญกลูโคสบกพร่อง หลักฐานล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ของสแตตินบำบัดกับการพัฒนาของโรคเบาหวานอาจจะมีบางส่วน โดยการลดลงของสแตตินเกิดใน adiponectin และ coenzyme Q10 มีหลักฐานชี้ให้เห็นประโยชน์ของยากลุ่ม statin ในการลดเหตุการณ์หัวใจเกินดุลความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวาน นอกจากนี้ สแตตินบำบัดเสียหายไม่ควบคุมน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน มีการเผยแพร่แนะนำผู้เชี่ยวชาญในการใช้ของยากลุ่ม statin ในผู้ที่มีความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานล่าสุด อย่างไรก็ตาม การวิจัยจะต้อง elucidate ทั้งความสัมพันธ์ระหว่างการใช้สแตติน และแก้ไขปัญหาโรคเบาหวาน เป็นต้นกลไก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มีหลักฐานการเจริญเติบโตที่จะแนะนำการรักษาด้วยยา statin ที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มความเสี่ยงของโรคเบาหวานคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน statin ที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างรวมทั้งอายุที่มีอยู่ก่อนเป็นโรคเบาหวานมีความเสี่ยงชนิดและความแรงของยา statin กลไกหลายได้รับการแนะนำสำหรับผลกระทบของยากลุ่ม statin diabetogenic ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นเอสเอสเกาะเซลล์ส่งผลให้ในการเผาผลาญกลูโคส หลักฐานล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการเชื่อมโยงของการรักษาด้วยยา statin กับการพัฒนาของโรคเบาหวานอาจจะพึ่งบางส่วนจากการลดลง statin ที่เกิดขึ้นในการไหลเวียนของ adiponectin และโคเอนไซม์ Q10 หลักฐานที่มีอยู่ให้เห็นประโยชน์ของกลุ่ม statin ในการลดการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจเกินดุลความเสี่ยงของการเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้การรักษาด้วย statin ไม่ทำให้เสียการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในผู้ป่วยเบาหวาน คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับการใช้ยากลุ่ม statin ในผู้ที่มีความเสี่ยงของโรคเบาหวานพัฒนาเมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการตีพิมพ์ อย่างไรก็ตามการวิจัยต่อไปจะต้องชี้ให้เห็นทั้งความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ยา statin และโรคเบาหวานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับกลไก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีการเจริญเติบโตหลักฐานที่ชี้ชัดว่ายารักษาโรคที่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคเบาหวานที่เกิดขึ้นได้ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับยาเบาหวานขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ได้แก่ อายุ ความเสี่ยงเบาหวาน ที่มีอยู่ ประเภทและความแรงของยา . กลไกหลายได้รับการเสนอผล diabetogenic ของความเกี่ยวข้องกับกระบวนการที่เปลี่ยนแปลงแก่งß - หน้าที่ของเซลล์ ส่งผลให้การเผาผลาญกลูโคสบกพร่อง หลักฐานล่าสุดชี้ให้เห็นว่าสมาคมภูมิบำบัดด้วยการพัฒนาของโรคเบาหวานอาจจะบางส่วน ) โดยการลดยาหมุนเวียนอะดิโพเนคทินโคเอนไซม์ คิว . หลักฐานที่มีอยู่แสดงให้เห็นประโยชน์ของความในการลดโรคหลอดเลือดหัวใจมีความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวาน นอกจากนี้ ยาบำบัดไม่ได้บั่นทอนประสิทธิภาพการควบคุมระดับน้ำตาลในผู้ป่วยเบาหวาน คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับการใช้ความเสี่ยงของการพัฒนาโรคเบาหวานในผู้ที่เพิ่งได้รับการตีพิมพ์ แต่ต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่ออธิบายทั้งความสัมพันธ์ระหว่างเหตุการณ์และใช้ยาโรคเบาหวาน ตลอดจนกลไก .