The issue of knowledge preservation

The issue of knowledge preservation has come of age that it will be seminal to
recount the quest of Altbach (1978), who noted rightly that knowledge dissemination is
increasingly important in the third world context taking into cognizance, the rise of an
“independent intellectual life and some self-sufficiency in science”. This, he affirmed, calls
for the establishment of viable structures and medium for the dissemination of knowledge.
Meanwhile, Crow (2002, p.1) opines that every academic and research institution has a
natural responsibility, as generators of primary research, to preserve and leverage their
constituents by means of sharing their scholarly activities. Earlier, the trend of
preservation and dissemination of scholarly knowledge were solely trusted in the confines
of the institutional libraries and scholarly publishing (journals) respectively. Institutional
libraries, particularly, have always served as access points for information starting from
the era of closed stacks, through shelf reading and card catalogues, punch cards, and to the
OPACS system (Christian, 2008). However, in recent times, the trend has been modified as
a result of the birth of a technology-driven society against a previous analogue nation. This
is what Benkler (2006) narrates as an overthrow of “industrial information economy” by a
“networked information economy”. This emerging society is characterized by its ambitious
but feasible quest for knowledge. Information is needed fast everywhere and Information

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปัญหาของการอนุรักษ์ความรู้ได้มาอายุที่มันจะเป็นแผ่นเสียงยอดนิยมการเป็นเควสของ Altbach (1978), ที่ระบุถูกต้องว่าการเผยแพร่ความรู้สำคัญมากขึ้นในบริบทโลกที่สามใน cognizance การเพิ่มขึ้นของการ"ปัญญาชีวิตอิสระและพึ่งตัวเองบางอย่างในวิทยาศาสตร์" สายนี้ เขายืนยันสำหรับการจัดตั้งโครงสร้างทางและสื่อการเผยแพร่ความรู้ในขณะเดียวกัน อีกา (2002, p.1) ไปที่ศึกษาทุก และมีสถาบันวิจัยธรรมชาติความรับผิดชอบ เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าของวิจัยหลัก การรักษา และใช้ประโยชน์ของพวกเขาองค์ประกอบโดยใช้กิจกรรมวิชาการร่วมกัน ก่อนหน้านี้ แนวโน้มของอนุรักษ์และเผยแพร่ความรู้วิชาการถูกต้องเชื่อถือได้ในขอบเขตห้องสมุดสถาบัน และวิชาการประกาศ (สมุดรายวัน) ตามลำดับ สถาบันไลบรารี โดยเฉพาะ มีน้ำเป็นจุดเริ่มต้นจากข้อมูลยุคของการปิดกอง ผ่านชั้นอ่านและแคตตาล็อกการ์ด บัตร และการระบบ OPACS (คริสเตียน 2008) อย่างไรก็ตาม ในครั้งล่าสุด แนวโน้มได้รับการแก้ไขเป็นผลของการเกิดของสังคมเทคโนโลยีขับเคลื่อนกับอนาล็อกประเทศก่อนหน้านี้ นี้คือ Benkler (2006) ที่ narrates เป็นการสมบูรณาญา "ข้อมูลอุตสาหกรรมเศรษฐกิจ" โดยมี"เครือข่ายข้อมูลเศรษฐกิจ" สังคมนี้เกิดเป็นลักษณะของความทะเยอทะยานเควสไปได้แต่สำหรับความรู้ ข้อมูลจะต้องรวดเร็วทุกที่และข้อมูล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ปัญหาของการเก็บรักษาความรู้ที่มีมาของอายุว่ามันจะเป็นเชื้อที่จะ
เล่าขานแสวงหา Altbach (1978) ที่ตั้งข้อสังเกตอย่างถูกต้องที่เผยแพร่ความรู้เป็น
สิ่งสำคัญมากขึ้นในบริบทของโลกที่สามคำนึงถึงความรู้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นของนั้น
"ชีวิตทางปัญญาอิสระ และบางคนพึ่งตัวเองในวิทยาศาสตร์ " นี้เขายืนยันเรียกร้อง
ให้มีการจัดตั้งโครงสร้างทำงานได้และสื่อกลางในการเผยแพร่ความรู้ได้.
ในขณะเดียวกันอีกา (2002, p.1) มีความเห็นว่าทุกสถาบันการศึกษาและการวิจัยมี
ความรับผิดชอบต่อธรรมชาติกำเนิดของการวิจัยหลักที่จะรักษา และใช้ประโยชน์จากพวกเขา
เป็นคนละเรื่องโดยวิธีการร่วมกิจกรรมทางวิชาการของพวกเขา ก่อนหน้านี้แนวโน้มของการ
เก็บรักษาและการเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการที่ได้รับความไว้วางใจ แต่เพียงผู้เดียวในขอบเขต
ของห้องสมุดสถาบันและนักวิชาการสิ่งพิมพ์ (วารสาร) ตามลำดับ สถาบัน
ห้องสมุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้ทำหน้าที่เสมอเป็นจุดเชื่อมต่อสำหรับข้อมูลเริ่มต้นจาก
ยุคของสแต็คปิดที่ผ่านการอ่านการเก็บรักษาและการ์ดแคตตาล็อกชกการ์ดและกับ
ระบบ OPACS (คริสเตียน, 2008) แต่ในครั้งที่ผ่านมาแนวโน้มได้รับการแก้ไขเป็น
ผลมาจากการเกิดของสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีกับอะนาล็อกเป็นประเทศก่อนหน้านี้ นี้
คือสิ่งที่ Benkler (2006) เล่าเป็นล้มล้าง "ข้อมูลเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่" โดย
"เศรษฐกิจข้อมูลเครือข่าย" สังคมที่เกิดขึ้นใหม่นี้จะพึงมีความทะเยอทะยานของ
การแสวงหา แต่ความเป็นไปได้สำหรับความรู้ ข้อมูลเป็นสิ่งจำเป็นอย่างรวดเร็วทุกที่และข้อมูล