I later sought to deepen the argume

I later sought to deepen the argument through an examination of the relations between Hegel is views on imperialism, von Thuncn is arguments concerning the frontier wage (a precursor to key formulations on marginal pricing in neoclassical economics) and Marx is arguments on colonialism (most particularly the peculiarity of closing the first volume of Capital with a chapter on colonial land policies).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในภายหลังจะลึกมากขึ้นผ่านการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง Hegel อาร์กิวเมนต์เป็นมุมมองเกี่ยวกับลัทธิจักรวรรดินิยม von Thuncn เป็นอาร์กิวเมนต์ที่เกี่ยวกับค่าจ้างชายแดน (ปูชนียบุคคลที่สูตรสำคัญในการกำหนดราคาส่วนเพิ่มเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิ) และมาร์กซ์เป็นอาร์กิวเมนต์ในลัทธิ (มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ความผิดปกติของการปิดระดับเสียงแรกของทุน ด้วยบทในนโยบายที่ดินอาณานิคม)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผมมารู้ทีหลังขอให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นโต้แย้งผ่านการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่าง Hegel ที่เป็นมุมมองเกี่ยวกับจักรวรรดินิยมฟอน Thuncn เป็นข้อโต้แย้งเกี่ยวกับค่าจ้างชายแดน (ปูชนียบุคคลสูตรที่สำคัญในการกำหนดราคาร่อแร่ในทางเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิก) และมาร์กซ์เป็นข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการล่าอาณานิคม (ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความผิดปกติของการปิดเล่มแรกของเงินทุนที่มีบทที่เกี่ยวกับนโยบายที่ดินอาณานิคมที่)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผมนะขอลึกอาร์กิวเมนต์ผ่านการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างเฮเกล คือในมุมมองของจักรวรรดินิยม ฟอน thuncn เป็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับชายแดนค่าจ้าง ( precursor สูตรสำคัญในเศรษฐศาสตร์นีโอคลาสสิกและราคาเพิ่ม ) มาร์กซ์เป็นอาร์กิวเมนต์ในการล่าอาณานิคม ( ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งความไม่ชอบมาพากลของการปิดเล่มแรกของทุนกับบทในยุคอาณานิคม นโยบายที่ดิน )