แหล่งท่องเที่ยว
• ข้อมูลท่องเที่ยวกัวลาลัมเปอร์ (Kuala Lumpur)
• กัวลาลัมเปอร์ หมายถึง แม่น้ำที่เป็นโคลน เป็นจุดบรรจบของแม่น้ำ 2 สาย คือ แม่น้ำคลาง (Sungai Klang) และแม่น้ำกอมบัก (Sungai Gombak) บริเวณจัตุรัสเมอร์เดกา เมืองนี้ได้รับการพัฒนาขึ้นในราวปี พ.ศ. 2403 โดยกัปตันเรือชาวจีนค้นพบว่าบริเวณนี้มีสายแร่ดีบุกเป็นจำนวนมากก่อให้เกิดอุตสาหกรรมเหมืองแร่และทำให้เมืองนี้เจริญขึ้น จนกระทั่งมาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษ กัวลาลัมเปอร์จึงได้ยกฐานะขึ้นเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของประเทศ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2517 แม้ปัจจุบัน ศูนย์กลางการปกครองจะย้ายไปที่ปุตราจายา แต่กัวลาลัมเปอร์ ยังคงเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการคมนาคมของประเทศ
• กัวลาลัมเปอร์เป็นหนึ่งในสามเขตสหพันธ์ของมาเลเซีย (Malaysian Federal Territories) ล้อมรอบด้วยรัฐสลังงอ (Selangor state) บนชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรมาเลเซีย (Peninsular Malaysia)
• ตึกแฝดเปโตรนาส เคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลกสร้างโดยบริษัทปิโตรเลียมเนชั่นแนลเบอ์ฮาด หรือเรียกสั้น ๆ ว่าปิโตรนาสซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายน้ำมันของมาเลเซีย สามารถยืนความงามของตึกได้ภายนอกโดยยืนอยู่ฟากที่น้ำพุกำลังเริงระบำและสามารถเข้าไปในตึกเพื่อชมทิวทัศน์ของกัวลาลัมเปอร์จากสกายบริดจ์ (Sky Bridge) ซึ่งเป็นสะพานเชื่อมระหว่างชั้นที่ 41 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
• หอคอยกัวลาลัมเปอร์ (KL Tower) เป็นสถานีส่งสัญญาณโทรคมนาคม ชั้นบนสุดของหอคอยมีผนังกระจกรอบด้านเพื่อเป็นจุดชมทิวทัศน์ และเปนที่ตั้งของภัตตาคารเสรีอังกาซารีโวลวิง (Seri Agkasa Revolving)
• อนุสาวรีย์แห่งชาติมาเลเซีย
• อนุสาวรีย์แห่งชาติมาเลเซีย หรืออนุสาวรีย์ทหารอาสา สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงทหารหาญที่เสียชีวิตจากสงครามในอดีตได้แก่สงครามโลกครั้งที่ 1 (คศ.1914-1918) สงครามโลกครั้งที่ 2 (1939-1945) ญี่ปุ่นบุกยึดมาเลเซีย และการต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ (1948-1960) อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุงซึ่งตกแต่งให้เป็นสวนสาธารณะและเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทั้งชาวมาเลเซียและชาวต่างชาติเดินทางมาชมกันเป็นจำนวนมาก
• จตุรัสเมอร์เดกา ( Merdeka Square หรือ Dataran Merdeka)
• จัตุรัสเมอร์เดกา ตั้งอยู่ ณ จุดบรรจบของแม่น้ำคลางกับแม่น้ำกอมบัก เป็นสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ที่ซึ่งธงชาติอังกฤษถูกปลดลงแล้วแทนที่ด้วยธงชาติมาเลเซีย คำว่า “เมอร์เดกา” หมายถึงเอกราช จุดเด่นอยู่ที่เสาธงขนาดใหญ่สูงถึง 100 เมตร และเต็มไปด้วยอาคารในยุคอาณานิคมและกลิ่นอายของสถาปัตยกรรมอังกฤษ
• จตุรัสเมอร์เดกา เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่ง ที่ใครมาเที่ยวกรุงกัวลาลัมเปอร์ ก็ต้องมาเดินที่จตุรัสกลางเมืองหลวงมาเลเซีย อันเป็นสถานที่มีความหมายทางประวัติศาสตร์ของชาติ และของประชาชนชาวมาเลเซีย เพราะเป็นสถานที่จัดพิธีคืนความเป็นเอกราชให้กับเจ้าของประเทศ หลังจากตกเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตกนานถึง 446 ปี (พ.ศ 2054 - 2500 ) เริ่มจากประเทศโปรตุเกส ที่บุกมาทางเรือและเข้ายึด เมืองมะละกา อันเป็นเมืองท่า จากนั้นก็อยู่ภายใต้การปกครองของชาวดัทช์ และอังกฤษในเวลาต่อมา จนมาถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2500 มาเลเซียก็ได้อธิปไตยกลับคืนมาจากประเทศอังกฤษ พร้อมกับมีการชักธงชาติของมาเลเซียขึ้นสู่ยอดเสาเป็นครั้งแรก ณ บริเวณจตุรัสแห่งนี้ และ ในวันที่ 31 สิงหาคมของทุกปี จะมีพิธีสวนสนามและเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่ มีประชาชนชาวมาเลเซียร่วมในพิธีหลายหมื่นคน
• อาคารสุลต่านอับดุลซามัด (Sultan Abdul Samad Building)
• อาคารสุลต่านอับดุลซามัด สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2440 ตั้งชื่อตามพระนามของสุลต่านแห่งสลังงอร์ โดยใช้เป็นที่ทำการของหน่วยงานราชการในยุคที่อังกฤษเข้ามาปกครอง ปัจจุบันเป็นอาคารสำนักงานของศาลฎีกา
• อาคารสุลต่านอับดุลซามัค และ หอนาฬิกา สูง 40 เมตร เป็นตัวอาคารเก่าแถบ Merdeka Square ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรม แบบ มัวร์ ส่วนที่เป็นหอนาฬิกาสูง 40 เมตรที่นั้นมักจะเรียกกันว่าเป็น บิ๊กเบนของมาเลเซีย ส่วนด้านบนจะเป็นโดมขนาดใหญ่สีทอง อาคารนี้สร้างเมื่อเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ เพื่อใช้เป็นศูนย์บริหาร อาณานิคมของอังกฤษ ปัจจุบันใช้อาคารที่ทำการของรัฐบาล
• พระราชวังอิสตาน่า ไนการ่า (istana negara palace)
• พระราชวังอิสตาน่าไนการ่า พระราชวังแห่งชาติ สถานที่ประทับของสมเด็จพระราชาธิบดี หรือยังดีเปอร์ตวนอากง พระราชวังแห่งนี้จะเป็นกลุ่มอาคารรูปทรงโดมเชื่อมกับทางหลวงไปยังตัวเมือง และมีถนนทางเข้าพิเศษหลายเส้นทางพระราชวังแห่งนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 100,000 ตารางเมตร ซึ่งมีการครอบครองมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1990 และกลายเป็นเขตพระราชฐานนับตั้งแต่นั้น