Vitiligo is a dermatological disord

Vitiligo is a dermatological disorder with an autoimmune mechanism characterized by production of a variety of autoantibodies. Different levels of immunoglobulins can indicate the presence and the stage of some autoimmune diseases. We aimed to investigate serum IgA, IgM and IgG subclass levels and melanocyte-reactive antibodies in 65 vitiligo patients by the immunonephelometric assay (35 healthy people as controls). Compared with normal controls, a significant increase in total IgG, IgG1 and IgG2 (p = .005, p = .003 and p = .043, respectively) was observed in progressive nonsegmental vitiligo patients. Also, we found a significant decrease in IgG3 (p = .000 and p = .023) in progressive nonsegmental vitiligo patients and segmental patients. Moreover, we found the serum levels of IgG4 subclass in stable nonsegmental patients were significantly higher than those in normal controls (p = .018). Compared with controls, the positive rates of melanocyte-reactive antibodies were higher in progressive nonsegmental patients and stable nonsegmental patients (p = .032 and p = .046, respectively). Furthermore, we found higher level of IgG4 and lower level of IgM in male than those in female. Higher IgG1 level was also observed in patients with a family history than in those without a family history. In addition, there was a significant inverse correlation between the concentrations of IgG4 and disease duration. Our evaluation about the level of immunoglobulins might provide a useful insight into the pathological process of vitiligo.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Vitiligo เป็นโรคผิวหนังที่มีกลไกการแพ้ภูมิตัวเองที่โดดเด่นด้วยการผลิตที่หลากหลายของ autoantibodies ระดับที่แตกต่างของภูมิคุ้มกันบกพร่องสามารถบ่งบอกถึงการแสดงตนและเวทีของโรคภูมิต้านทานผิดปกติบางอย่าง เรามีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา IgA, IgM และ IgG ระดับ subclass ซีรั่มและแอนติบอดี melanocyte ปฏิกิริยาในผู้ป่วยโรคด่างขาว 65 โดยการทดสอบ immunonephelometric (35 คนที่มีสุขภาพเป็นตัวควบคุม) เมื่อเทียบกับการควบคุมปกติเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในการรวม IgG, IgG1 และ IgG2 (p = 0.005, P = 0.003 และ p = 0.043 ตามลำดับ) พบว่าในผู้ป่วยโรคด่างขาว nonsegmental ก้าวหน้า นอกจากนี้เรายังพบว่ามีการลดลงอย่างมีนัยสำคัญใน IgG3 (p = 0.000 และ p = 0.023) ในผู้ป่วยโรคด่างขาว nonsegmental ก้าวหน้าและผู้ป่วยที่เป็นปล้อง นอกจากนี้เรายังพบว่าระดับซีรั่มของ subclass IgG4 ในผู้ป่วย nonsegmental มีเสถียรภาพสูงกว่าผู้ที่อยู่ในการควบคุมตามปกติอย่างมีนัยสำคัญ (p = 0.018) เมื่อเทียบกับการควบคุมอัตราการบวกของแอนติบอดี melanocyte ปฏิกิริยาสูงขึ้นในผู้ป่วย nonsegmental ก้าวหน้าและผู้ป่วยที่มีเสถียรภาพ nonsegmental (p = 0.032 และ p = 0.046 ตามลำดับ) นอกจากนี้เรายังพบว่าระดับที่สูงขึ้นของ IgG4 และระดับล่างของ IgM ในเพศชายมากกว่าผู้ที่อยู่ในเพศหญิง ระดับ IgG1 ที่สูงขึ้นนอกจากนี้ยังพบว่าในผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวกว่าในผู้ที่ไม่มีประวัติครอบครัว นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์ผกผันที่สำคัญระหว่างความเข้มข้นของระยะเวลา IgG4 และโรค การประเมินผลของเราเกี่ยวกับระดับของภูมิคุ้มกันบกพร่องอาจให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ในกระบวนการพยาธิสภาพของโรคด่างขาว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคด่างขาวเป็นโรค autoimmune โรค ด้วยกลไกลักษณะการผลิตของความหลากหลายของจำรูญ . ระดับที่แตกต่างกันของมมูโนโกลบูลินสามารถบ่งชี้และระยะของโรค บางรายเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เรามุ่งที่จะศึกษาซีรั่ม IgA ชนิด IgM และ IgG subclass , และระดับแอนติบอดีในผู้ป่วยโรคด่างขาวปฏิกิริยาเมลาโนไซด์ 65 โดยแบคทีเรีย immunonephelometric ( คน 35 สุขภาพการควบคุม ) เมื่อเทียบกับการควบคุมปกติอย่างมีนัยสำคัญในกลุ่มรวม และ ( igg2 ( P = . 005 , p = . 003 และ P = . 043 ตามลำดับ ) พบว่าก้าวหน้า nonsegmental โรคด่างขาว ผู้ป่วย นอกจากนี้เรายังพบว่าพบใน igg3 ( p = . 000 ) และ P = . 023 ) ก้าวหน้า nonsegmental โรคด่างขาวผู้ป่วยและผู้ป่วยกลุ่ม . นอกจากนี้เราพบว่าระดับของซีรั่มเล็กน้อยในผู้ป่วยที่มีเสถียรภาพ nonsegmental คลาสสูงกว่าปกติ ( p = . 018 ) เมื่อเทียบกับการควบคุมอัตราของปฏิกิริยาแอนติบอดีสูงกว่าบวกเมลาโนไซต์ในผู้ป่วย nonsegmental ก้าวหน้าและมั่นคง nonsegmental ผู้ป่วย ( p = . 032 และ P = . 046 ตามลำดับ ) นอกจากนี้เราพบว่าระดับที่สูงขึ้นและลดลงเล็กน้อย ระดับ IgM ในเพศชายสูงกว่าเพศหญิง ระดับ ( สูงกว่าที่พบในผู้ป่วยที่มีประวัติครอบครัวมากกว่าผู้ที่ไม่มีประวัติครอบครัว นอกจากนี้ การผกผันสหสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเล็กน้อย และระยะเวลาที่เป็นโรค การประเมินของเราเกี่ยวกับระดับของมมูโนโกลบูลินอาจให้ข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์ในกระบวนการทางพยาธิวิทยาของโรคด่างขาว .