-institutional theoryThis study emp

-institutional theory
This study employs both institutional theory and RBV to develop its conceptual framework and hypotheses. Institutional theory examines the influence of external pressures on the firm (Hirsch, 1975) and how enterprises adopt policies and implement strategies that are legitimate within their organizational fields (Scott and Christensen,1995). Organizations consider industry norms, firm tradition, and management fads,among other concerns, to formulate their strategies (Meyer and Rowan, 1977; Zucker,1987). There are three major sources of external pressure: functional, political, and social (Oliver, 1992) which force organizations to implement appropriate strategic actions (Dacin et al., 2002)

-Resource-based view
Institutional theory does not describe why enterprises undertake different strategies or practices under the same institutional pressures, in a given marketplace and business sector (Delmas and Toffel, 2004). RBV is a theory that investigates firms’ strategies given their internal resources and capabilities. RBV implies that sustainable competitive advantage is achieved through resources that are valuable, rare, inimitable, and non-substitutable (Barney, 1991). Enterprises strive to undertake environmental SC practices to gain competitive advantage (Sharfman et al., 2009).
From the green perspective, RBV is useful to investigate how firms’ resources affect internal green practices and SC performance because firms’ strategies rely on their internal competencies and abilities to sustain them (Wernerfelt, 1984).

-Supply chain performance
Beamon (1999) summarized three measures of SC performance: resources, output, and flexibility. First, resources are associated with SC efficiency, including total cost, distribution cost, manufacturing cost, inventory cost, and return on investment. Second, output stands for the level of customer service, sales, profit, on-time deliveries, backorder/stockout, customer response time, manufacturing lead time, shipping errors, and customer complaints. Third, flexibility is defined as the ability to respond to uncertainty, which is related to volume, distribution, responsiveness, product, and/or new product flexibility. Achieving SC flexibility leads to inventory reduction, counteracting market variations efficiently, responding to consumer demand quickly, and integrating with suppliers and partners effectively (Masonet al., 2002). Organizations with agile SC are very market oriented, since they are able to communicate effectively with their suppliers, enhancing organizational performance (Swafford et al., 2008). Flexibility encourages enterprises to react with little penalty in time, effort, cost, or performance (Gerwin, 1993; Kumar et al., 2006; Upton, 1995). Thus, the process of enhancing flexibility positively impacts on overall organizational performance and enhances the range of products (Prater et al., 2001; Sanchez, 2007). In addition, flexibility reduces the cost and time required to convert resources into products and services (Sanchez, 2007), and decreases inventory and SC total costs, which in turn improve operational outputs (Harrison and New, 2002)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีสถาบัน
การศึกษาครั้งนี้มีพนักงานทั้งสองทฤษฎีสถาบันและ RBV ในการพัฒนากรอบแนวคิดและสมมติฐาน ทฤษฎีสถาบันตรวจสอบอิทธิพลของแรงกดดันภายนอก บริษัท (Hirsch, 1975) และวิธีการที่นำมาใช้ประกอบการกำหนดนโยบายและดำเนินการตามกลยุทธ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายภายในเขตข้อมูลขององค์กรของพวกเขา (สก็อตและคริส, 1995)องค์กรพิจารณาบรรทัดฐานอุตสาหกรรม บริษัท ประเพณีและแฟชั่นการจัดการความกังวลในหมู่อื่น ๆ เพื่อกำหนดกลยุทธ์ของพวกเขา (เมเยอร์และโร 1977; zucker, 1987) มีสามแหล่งที่มาสำคัญของความดันภายนอกคือการทำงานทางการเมืองและสังคม (oliver, 1992) ซึ่งส่งผลให้องค์กรในการดำเนินการการดำเนินการเชิงกลยุทธ์ที่เหมาะสม

มุมมองทรัพยากรที่ใช้
(Dacin et al, 2002.)ทฤษฎีสถาบันไม่ได้อธิบายว่าทำไมผู้ประกอบการดำเนินการกลยุทธ์ที่แตกต่างหรือการปฏิบัติภายใต้แรงกดดันสถาบันเดียวกันในตลาดที่กำหนดและภาคธุรกิจ (Delmas และ Toffel, 2004) RBV เป็นทฤษฎีที่สำรวจกลยุทธ์ บริษัท 'ให้ทรัพยากรภายในของพวกเขาและความสามารถในการRBV แสดงให้เห็นว่าได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนจะประสบความสำเร็จผ่านทางทรัพยากรที่มีคุณค่าหายากเลียนแบบไม่ได้และไม่สับเปลี่ยน (บาร์นีย์, 1991) บริษัท มุ่งมั่นที่จะดำเนินการปฏิบัติวิทยาสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ได้เปรียบในการแข่งขัน (Sharfman และคณะ. 2009).
จากมุมมองของสีเขียวRBV เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบวิธีการที่ บริษัท ทรัพยากรส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติสีเขียวภายในและประสิทธิภาพการทำงานของ บริษัท เซาท์แคโรไลนาเพราะกลยุทธ์พึ่งพาความสามารถภายในของพวกเขาและความสามารถที่จะรักษาพวกเขา (wernerfelt, 1984).

ห่วงโซ่อุปทานที่มีประสิทธิภาพ
Beamon (1999) สรุปได้สามมาตรการ ผลการดำเนินงานเซาท์แคโรไลนา: ทรัพยากรการส่งออกและความยืดหยุ่น แรกทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับประสิทธิภาพ SC,รวมทั้งค่าใช้จ่ายรวมค่าใช้จ่ายในการกระจายต้นทุนการผลิตและต้นทุนสินค้าคงคลังและผลตอบแทนการลงทุน ที่สองเอาท์พุทหมายถึงระดับของการบริการลูกค้า, การขาย, กำไร, การส่งมอบที่ตรงเวลา, backorder / stockout เวลาตอบสนองลูกค้าเวลานำการผลิตข้อผิดพลาดในการจัดส่งและการร้องเรียนของลูกค้า สามความยืดหยุ่นหมายถึงความสามารถในการตอบสนองต่อความไม่แน่นอนซึ่งมีความสัมพันธ์กับปริมาณการกระจายการตอบสนองของผลิตภัณฑ์และ / หรือมีความยืดหยุ่นผลิตภัณฑ์ใหม่ การบรรลุความยืดหยุ่นในเซาท์แคโรไลนาจะนำไปสู่​​การลดลงของสินค้าคงคลัง counteracting รูปแบบตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและบูรณาการกับซัพพลายเออร์และคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ (masonet อั., 2002) องค์กรที่มีเซาท์แคโรไลนาเปรียวเป็นตลาดเชิงมากเนื่องจากพวกเขามีความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพกับซัพพลายเออร์ของพวกเขาเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานขององค์กร (Swafford และคณะ. 2008) ความยืดหยุ่นในการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่จะทำปฏิกิริยากับโทษน้อยในเวลาความพยายามค่าใช้จ่ายหรือประสิทธิภาพ (Gerwin 1993. kumar et al, 2006; อัพตัน, 1995) จึงกระบวนการของการเพิ่มความยืดหยุ่นในแง่ผลกระทบต่อการปฏิบัติงานขององค์กรโดยรวมและช่วยเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ (Prater et al, 2001;. sanchez, 2007) นอกจากนี้มีความยืดหยุ่นจะช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาที่ต้องใช้ในการแปลงทรัพยากรในสินค้าและบริการ (sanchez, 2007), และลดสินค้าคงคลังและค่าใช้จ่ายรวมเซาท์แคโรไลนาซึ่งจะปรับปรุงผลการดำเนินงาน (แฮร์ริสันและใหม่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

-ทฤษฎีสถาบัน
การศึกษานี้ใช้ทฤษฎีสถาบันและ RBV พัฒนากรอบแนวคิดและสมมุติฐานของการ ทฤษฎีสถาบันตรวจสอบ influence ของความดันภายนอกบน firm (เฮิร์ช 1975) และวิธีการที่องค์กรนำนโยบาย และกลยุทธ์ที่ถูกต้องตามกฎหมายภายในขององค์กร fields (สก็อตและคริสเตนเซ่น 1995) ใช้ องค์กรพิจารณาบรรทัดฐานอุตสาหกรรม firm ประเพณี และจัดการ fads ผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ การกำหนดกลยุทธ์ของพวกเขา (Meyer และ Rowan, 1977 Zucker, 1987) มีสามแหล่งใหญ่ของความดันภายนอก: ทำงาน การ เมือง และสังคม (โอลิเวอร์ 1992) ซึ่งบังคับให้องค์กรปฏิบัติการเชิงกลยุทธ์ (Dacin et al., 2002)

-ทรัพยากร-ตามดู
ทฤษฎีสถาบันอธิบายทำไมองค์กรดำเนินกลยุทธ์ต่าง ๆ หรือแนวทางปฏิบัติภายใต้ดันสถาบันเดียวกัน ในการกำหนดตลาดและภาคธุรกิจ (Delmas และ Toffel, 2004) RBV เป็นทฤษฎีที่ตรวจสอบกลยุทธ์ firms' ทรัพยากรภายในและความสามารถของพวกเขา RBV หมายถึงว่า ได้เปรียบเชิงแข่งขันที่ยั่งยืนสามารถทำได้โดยใช้ทรัพยากรที่มีคุณค่า หายาก inimitable และบาร์ไม่ใช่ substitutable (นีย์ 1991) องค์กรที่มุ่งมั่นในการทำปฏิบัติการ SC สิ่งแวดล้อมจะได้รับประโยชน์จากการแข่งขัน (Sharfman et al., 2009) .
จากมุมมองของสีเขียว RBV มีประโยชน์ในการตรวจสอบทรัพยากร firms' กระทบปฏิบัติสีเขียวภายในและประสิทธิภาพ SC เนื่องจากกลยุทธ์ของ firms พึ่งความสามารถภายในตนและความสามารถหนุนเหล่านั้น (Wernerfelt, 1984)

-ซัพพลายเชนประสิทธิภาพ
Beamon (1999) สรุปการวัดประสิทธิภาพของ SC 3: ทรัพยากร ผลลัพธ์ และ flexibility ทรัพยากรเกี่ยวข้องกับ SC efficiency ครั้งแรก รวมต้นทุน แจกจ่าย ต้นทุนผลิตต้นทุน รวมสินค้าคงคลังต้นทุน และคืนทุน สอง แสดงถึงระดับของ profit ขาย บริการ ลูกค้า จัดส่ง สินค้าค้างส่ง/สต็อก ลูกค้าเวลาตอบรับ การผลิตระยะเวลา ข้อผิดพลาดในการจัดส่ง และข้อร้องเรียนของลูกค้าในเวลานั้น 3, flexibility เป็น defined สามารถตอบสนองต่อความไม่แน่นอน ที่เกี่ยวข้องกับปริมาณ แจกจ่าย ตอบสนอง ผลิตภัณฑ์ หรือ flexibility สินค้าใหม่ SC flexibility บรรลุเป้าหมายการลดสินค้าคงคลัง counteracting ตลาดรูปแบบ efficiently ตอบสนองความต้องการผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว และรวมกับซัพพลายเออร์และคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Masonet al., 2002) องค์กรกับ SC คล่องตัวมีมากตลาดเชิง ตั้งแต่พวกเขาจะสามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพกับผู้ เพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร (สแวฟฟอร์ด et al., 2008) ความยืดหยุ่นกระตุ้นองค์กรเพื่อตอบสนองกับโทษเล็กน้อย ในเวลา ความพยายาม ต้นทุน ประสิทธิภาพการทำงาน (Gerwin, 1993 Kumar et al., 2006 Upton, 1995) ดังนั้น ขั้นตอนการเพิ่ม flexibility บวกผลกระทบต่อประสิทธิภาพโดยรวมขององค์กร และช่วยเพิ่มช่วงของผลิตภัณฑ์ (Prater และ al., 2001 ซาน 2007) นอกจากนี้ flexibility ลดต้นทุนและเวลาที่ต้องการแปลงทรัพยากรลงในผลิตภัณฑ์ และบริการ (ซาน 2007), และสินค้าคงคลังลดลง และ SC รวมต้น ทุน ซึ่งจะปรับปรุงการแสดงผลการดำเนินงาน (แฮร์ริสันและใหม่ 2002)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

- สถาบันทฤษฎี
ซึ่งจะช่วยการศึกษานี้มีพนักงานทฤษฎีทางสถาบันและ RBV ทั้งสองเพื่อพัฒนากรอบแนวคิดของมันและสมมติฐาน ทฤษฎีทางสถาบันจะตรวจสอบ influence ของแรงกดดัน ภายนอก บน firm ( hirsch . 1975 )และบริษัทได้อย่างไรนโยบายและการใช้กลยุทธ์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ภายใน fields องค์กรของตน( Scott และ christensen, 1995 )องค์กรพิจารณาเป็นบรรทัดฐานของอุตสาหกรรม firm แบบดั้งเดิมและ ภูมิอากาศ การบริหารจัดการในเรื่องอื่นๆในการกำหนดยุทธศาสตร์ของเขา( Meyer ,และ rowan 1977 zucker, 1987 ) มีสามแหล่งสำคัญของแรงกดดันจาก ภายนอก เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยทางการเมืองและสังคม(ไปยัง Oliver 1992 )ซึ่งมีผลใช้บังคับองค์กรเพื่อดำเนินการทางยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม( dacin et al . 2002 )

- ทรัพยากร - ใช้ดู
ทฤษฎีทางสถาบันไม่ได้อธิบายว่าเหตุใดบริษัทดำเนินกลยุทธ์หรือแนวทางปฏิบัติแตกต่างกัน ภายใต้ แรงกดดันที่สถาบันเดียวกันในตลาดและ ภาค ธุรกิจ( delmas toffel และ 2004 ) RBV เป็นทฤษฎีที่ทำการพิจารณาข้อสงสัยทั้งหมดของกลยุทธ์' firms ให้ทรัพยากร ภายใน องค์กรของตนและความสามารถRBV หมายถึงว่าได้เปรียบในการแข่งขันอย่างยั่งยืนก็คือประสบความสำเร็จในการทรัพยากรที่มีความสำคัญไม่อาจเลียนแบบได้ยากและไม่ใช่ substitutable ( Barney ' s 1991 ) บริษัทพยายามอย่างหนักในการดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อมการปฏิบัติ SC เพื่อให้ได้ความได้เปรียบในการแข่งขัน( sharfman et al . 2009 )..
จากมุมมองของสีเขียวRBV จะเป็นประโยชน์ในการสืบสวนสอบสวนว่า firms 'มีผลกระทบต่อทรัพยากร ภายใน สีเขียวและการปฏิบัติ SC ประสิทธิภาพ การทำงานเพราะ firms 'ต้องอาศัยกลยุทธ์ในการสร้างเสริม ศักยภาพ ให้กับ ภายใน และความสามารถในการรักษา( wernerfelt , 1984 )

- ซัพพลายเชน ประสิทธิภาพ
beamon ( 1999 )ได้สรุปสามมาตรการของ SC ประสิทธิภาพ การทำงาน:ทรัพยากรการผลิตและพร้อมทั้งชุดคำสั่ง. ทรัพยากรเป็นครั้งแรกจะมีการเชื่อมโยงกับ efficiency SCรวมถึงกลับไปและต้นทุนสินค้าคงคลังลดต้นทุนการผลิตลดต้นทุนการกระจายต้นทุนรวมในการลงทุน เอาต์พุตที่สองตั้งอยู่ในระดับของการให้บริการลูกค้าการร้องเรียนของลูกค้าและการขาย profit บน - เวลาจัดส่ง backorder / stockout เวลาในการตอบสนองของลูกค้าเวลานำไปสู่การผลิตความผิดพลาดในการส่งสินค้า พร้อมทั้งชุดคำสั่งที่สามคือ defined เป็นความสามารถในการตอบสนองต่อความไม่แน่นอนซึ่งเป็นที่เกี่ยวข้องกับระดับเสียงการตอบสนองต่อการจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ และ/หรือพร้อมทั้งชุดคำสั่ง ผลิตภัณฑ์ ใหม่. การประสบความสำเร็จพร้อมทั้งชุดคำสั่ง SC นำไปสู่การลดสินค้าคงคลังแก้ไขปัญหาเรื่องความแตกต่างของตลาด efficiently เพื่อการตอบสนองความต้องการของ ผู้บริโภค ได้อย่างรวดเร็วและผนวกรวมกับคู่ค้าและซัพพลายเออร์ได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ( masonet Al 2002 ) องค์กรที่มีความคล่องตัวสูงมี SC เน้นตลาดเป็นอย่างมากจากการที่พวกเขามีความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับซัพพลายเออร์ของพวกเขาได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพ การทำงานขององค์กร( swafford et al . 2008 ) มีความยืดหยุ่นสูงส่งเสริมให้บริษัทในการตอบสนองพร้อมด้วยการปรับโทษเล็กน้อยในการดำเนินงานหรือต้นทุนความพยายามครั้ง( gerwin 1993 ทำงานนอกเหนือหน้า et al . 2006 upton 1995 ) ดังนั้นกระบวนการของการเพิ่ม ประสิทธิภาพ การส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อพร้อมทั้งชุดคำสั่งใน ประสิทธิภาพ โดยรวมขององค์กรและช่วยเพิ่มความหลากหลายของสินค้า( Prater et al . 2001 ซานเชซแบ่งปันความคิด 2007 ) ในการเพิ่มพร้อมทั้งชุดคำสั่งช่วยลดค่าใช้จ่ายและเวลาที่ใช้ในการแปลงทรัพยากรต่างๆลงใน ผลิตภัณฑ์ และบริการ(ซานเชซแบ่งปันความคิด 2007 )และจะลดลงและสินค้าคงคลังลดค่าใช้จ่ายรวม SC ซึ่งในการปรับปรุงการทำงานเอาต์พุต(แฮริสสันใหม่และ2002 )